เปิดลงทะเบียน Test & Go 1 ก.พ.นี้

ทำเนียบรัฐบาล 20 มค-นายกฯ กำชับสายด่วนต้องพร้อมให้ข้อมูลประชาชน กำชับดูแลบุคลาการแพทย์และครอบครัวที่ติดเชื้อ ขณะ ศบค.ชุดใหญ่ปรับพื้นที่ใหม่ เปิดลงทะเบียน Test & Go 1 ก.พ.นี้


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ผ่านระบบการประชุมทางไกล ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักรพื้นที่ควบคุม 44 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง 25 จังหวัด และพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 8 จังหวัดตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค. 65 พร้อมเปิดรับลงทะเบียน Thailand Pass สำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรในรูปแบบ Test and Go สำหรับคนไทยและต่างชาติ เริ่ม 1 ก.พ. 65 โดยไม่กำหนดประเทศต้นทาง เห็นชอบขยายระยะเวลาพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 2 เดือนตั้งแต่ 1 ก.พ.- 31 มี.ค. 65

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะปรับการดำเนินกิจการ / กิจกรรมต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่รัฐบาลต้องดำเนินมาตรการด้านเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงขอให้ทุกคนร่วมมือกันดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ ที่ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ต่อไป


นายกรัฐมนตรี แสดงความห่วงใยต่อเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง โดยกำชับทุกส่วนราชการต้องมีมาตรการเด็ดขาด รัดกุมขึ้น ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดชุดตรวจ สายตรวจเข้าตรวจบริเวณพื้นที่ที่จัดงานเซ่นไหว้ต่าง ๆ ว่าดำเนินการตามมาตรการทางสาธารณสุขครบถ้วนหรือไม่ หากไม่ครบจะต้องยุติ ปิดหรือยกเลิกการจัดงาน โดยให้ดำเนินการอย่างเข้มงวด รวมทั้งเรื่องการทำความสะอาดสถานที่ต่าง ๆ ที่จัดงาน ต้องทำความสะอาดพื้นที่ที่จะจัดงานให้เห็นอย่างชัดเจน เป็นรูปธรรมตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป รวมถึงต้องมีมาตรการเข้า-ออก การตรวจ ATK

“หากพบว่าไม่ปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐ เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จะต้องรับผิดชอบ และหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบจะต้องได้รับโทษทางวินัย หากปล่อยปละละเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานประกอบการที่เปิดอย่างผิดกฎหมาย เล่นการพนัน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายความมั่นคง รวมถึงหน่วยงานในสังกัดทุกกระทรวงที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบ เพราะการรวมคนจำนวนมาก หรือการจัดงานที่รวมคนถือเป็นความเสี่ยงสูง ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐระดับปฏิบัติจะต้องมีความเข้าใจ ปฏิบัติหน้าที่อย่างเสียสละและอดทน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการทำงานที่ผ่านมาว่า เน้นแนวปฏิบัติ วิธีการปฏิบัติ และการแก้ไขปัญหาทุกขั้นตอนไว้ล่วงหน้า การออกมาตรการใด ๆ อาจต้องปรับปรุง เปลี่ยนแปลง สิ่งสำคัญที่สุดต้องเตรียมแผนเผชิญเหตุไว้ล่วงหน้า ดังนั้น ทุกกระทรวงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการตามแผนที่เตรียมไว้ การเปิดประเทศวันนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงสาธารณสุข การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงมหาดไทย และ ศปก.ศบค. ต้องยกระดับการปฏิบัติการให้ครอบคลุมตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางอย่างเคร่งครัด หากปล่อยปละละเลย ต้องถูกดำเนินการทางวินัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปล่อยให้เปิดสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืนโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือกระทำผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ


นายกรัฐมนตรี กำชับหน่วยงานต่าง ๆ ให้มีความพร้อมและประสิทธิภาพของสายด่วนในการรับแจ้ง ปรึกษาระบบการรักษาและการตรวจ ให้การประสานส่งต่อข้อมูลอย่างแน่นแฟ้น เพื่อลดความกังวลของประชาชนให้ได้มากที่สุด รวมถึงรณรงค์ชี้แจงทำความเข้าใจ เพื่อสร้างความร่วมมืออย่างจริงจังกับทุกภาคส่วน ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทางให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ให้มีความเสียสละ อดทน ร่วมมือกันทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคธุรกิจเอกชนด้วย

“ขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือและเข้าใจสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และโควิด หลายสิ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย ยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และขอให้ดูแลเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกคนที่ได้รับผลกระทบติดเชื้อโดยให้เข้ารับการรักษาและดูแลครอบครัวของเขาด้วย เพราะทุกคนต้องทำงานอย่างเสียสละ จริงใจ สุจริตโดยไม่หวังผลตอบแทน ซึ่งเป็นสิ่งที่ข้าราชการทุกคนทั้งการเมืองและภาครัฐต้องทำอย่างเต็มที่ เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนผู้เป็นที่รักยิ่งตลอดไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว

สำหรับมติที่ประชุมศบค.วันนี้ 1. เห็นชอบการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2565 เป็นต้นไป ดังนี้  พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 44 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) 25 จังหวัด และพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 8 จังหวัด ไม่ขยายระยะเวลา WFH (Work From Home) ให้เป็นไปตามความเหมาะสม และการพิจารณาของหน่วยงาน ส่วนพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวและพื้นที่เฝ้าระวังสูง ให้จำกัดเวลาบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ไม่เกิน 23.00 น. และเป็นร้านอาหารที่ผ่าน SHA+ หรือ Thai Stop COVID 2 Plus และตามมาตรการ COVID Free Setting ปรับรูปแบบและลดวันกักตัวสำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงกับผู้ติดเชื้อเป็นกักตัว 7 วันสังเกตอาการอีก 3 วัน ตรวจหาเชื้อด้วย ATK 

2. เห็นชอบการปรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร เปิดรับลงทะเบียน Thailand Pass สำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรในรูปแบบ Test and Go สำหรับคนไทยและต่างชาติ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 65 โดยไม่กำหนดประเทศต้นทาง ปรับมาตรการควบคุมโรคสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักรเพิ่มเติมการรับลงทะเบียน Thailand Pass พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (Sandbox) ได้แก่ จ.ชลบุรี (อ.บางละมุง เมืองพัทยา อ.ศรีราชา อ.เกาะสีชัง อ.สัตหีบ เฉพาะตำบลนาจอมเทียน ตำบลบางเสร่) และ จ.ตราด (เกาะช้าง) ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 65 เปิดให้เดินทางเชื่อมโยงในกลุ่มพื้นที่ จ.ภูเก็ต กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) ได้ในช่วง 7 วันแรก และ3. เห็นชอบขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร ออกไปอีก 2 เดือนเป็นคราวที่ 16 (1 ก.พ. – 31 มี.ค.65).-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งตรวจสอบบัญชีธนาคารวัดไร่ขิง กว่า 20 บัญชี

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจเร่งตรวจสอบบัญชีธนาคารวัดไร่ขิง กว่า 20 บัญชี หาความเชื่อมโยงการยักยอกเงินของอดีตเจ้าอาวาส เบื้องต้นพบมีอีก 7 บัญชี ที่ใช้กล่าวหาการกระทำความผิด เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบและสอบปากคำพยาน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด คดียักยอกเงินวัดไร่ขิง วันนี้ (18 พ.ค.68) พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้ข้อมูลว่า ทางพนักงานสอบสวนยังคงเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานเส้นทางการเงิน สอบปากคำพยานและผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีวัดไร่ขิง จำนวนหลายบัญชีทยอยเข้ามาสอบปากคำ โดยตั้งศูนย์ปฏิบัติงานที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน จากข้อมูลการสอบสวนปัจจุบัน พบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินระหว่างนายแย้ม กับ นางสาวอรัญญาวรรณหลายช่องทาง ช่วงปี 2563 ถึง ปี 2567 รวมเป็นเงินกว่า 300 ล้านบาท -แยกออกเป็นบัญชีส่วนตัวของอดีตพระแย้ม โอนเงินให้นางสาวอรัญญาวรรณในช่วงปี 2566 รวมกัน 80 ล้านบาท-ใช้บัญชีของอดีตพระเอกพจน์ หรือนายเอกพจน์ โอนเงิน และตระเวณนำเงินสดไปฝากตู้ธนาคารต่าง ๆ ให้นางสาวอรัญญาวรรณ หลายรายการรวมแล้วกว่า 200 ล้านบาท-และพบว่ามีชื่อบัญชีบุคคลอีก 1 บัญชี โอนเงินให้ นางสาวอรัญญาวรรณ […]

Aerial view of destruction in Missouri from tornadoes

ทอร์นาโดถล่มสหรัฐ เสียชีวิตแล้ว 27 คน

พายุทอร์นาโดพัดถล่มรัฐมิสซูรีและเคนทักกีของสหรัฐ มีผู้เสียชีวิตรวมกันอย่างน้อย 27 ราย คาดจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้น ขณะที่บ้านเรือนหลายพันหลังได้รับความเสียหาย 

กรมอุตุฯ เตือนฝนฟ้าคะนอง ตกหนักบางแห่ง

กทม. 18 พ.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ อีสาน ตะวันออก และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และอ่าวไทย ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ […]

ระทึก! ตำรวจไล่ล่า-ยิงยางสกัดกระบะซิ่ง พบไอซ์ซุกในรถ

17 พ.ค. – ระทึก! ตำรวจสายตรวจขี่รถจักรยานยนต์ไล่ล่ากระบะซิ่งหนีชนดะ ต้องยิงยางสกัดจึงสิ้นฤทธิ์ ตรวจค้นพบไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนในรถ เพจเฟสบุ๊กชื่อ วัชรพล สายไหม เพิ่มสิน สุขาภิบาล 5 โพสต์ข้อความระบุว่า “เลี่ยงทางถนนเทพารักษ์ วัชรพล” พร้อมกับคลิปเหตุการณ์ที่มีรถกระบะแต่งซิ่งคันหนึ่งขับเร่งเครื่องจนควันดำเต็มถนน เหมือนพยายามหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในคลิปจะเห็นว่าด้านหน้ารถกระบะคันดังกล่าวมีรถกระบะจอดขวางทางอยู่ 1 คัน และด้านซ้ายของคลิปจะเห็นรถจักรยานยนต์ตำรวจสายตรวจล้มอยู่ อีกทั้งยังได้ยิงเสียงปืน และในจังหวะที่รถกระบะกำลังถอยเพื่อกลับลำหนี มีรถกระบะคันหนึ่งวิ่งเข้ามาชนท้ายอย่างจัง เพื่อปิดทางหนีของรถกระบะคันดังกล่าว และในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทุบกระจกรถกระบะ พร้อมนำตัวผู้ก่อเหตุออกมาจากรถได้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถกระบะอีซูซุโหลดเตี้ยแต่งซิ่ง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร มีรอยเฉี่ยวชนรอบคัน ล้อด้านซ้ายแตกทั้งล้อหน้า ล้อหลัง และยางล้อหน้าด้านซ้ายมีเศษหัวกระสุนติดอยู่ ส่วนคนขับรถกระบะทราบชื่อคือ นายชัยชนะ อายุ 41 ปี ถูกจับกุมพร้อมของกลางไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนในรถกระบะ ด้านพลเมืองที่ช่วยตำรวจสกัดคนร้ายไม่ให้หลบหนี คือนายประหยัด เจ้าของรถกระบะวีโก้สีดำ ได้รับความเสียหายบริเวณตัวรถด้านซ้ายจนถึงท้ายรถ ซึ่งจอดขวางหน้ารถกระบะคันก่อเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะตนเองขับรถอยู่ในซอยพหลโยธิน 50 เห็นรถสายตรวจจักรยานยนต์ขี่ไล่รถกระบะคันเกิดเหตุมาจนมาถึงซอยเทพรักษ์ 23 รถคนร้ายเฉี่ยวชนรถของตนเองเลยขับตามมา ตอนนั้นไม่รู้ว่าเขาไล่จับอะไรกัน แต่ได้ยินสายตรวจบอกให้ช่วยไล่ จึงช่วยเพราะก็ถูกชนแล้วหนีเหมือนกัน จนมาช่วยสกัดได้ตรงนี้ […]