แจงปัจจัยทำหญิงติดโอไมครอนตาย

ทำเนียบรัฐบาล 17 ม.ค.-ผู้ช่วยโฆษก ศบค.ระบุหญิงไทย 2 รายติดโอไมครอนเสียชีวิต ปัจจัยสำคัญเพราะสูงอายุ มีโรคประจำตัว ขอผู้สูงอายุเร่งฉีดเข็ม 3 ประชาชนอย่าประมาท


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศบค. แถลงสถานการณ์โควิด19ประจำวันว่า ศบค.เป็นห่วงคลัสเตอร์งานประเพณี งานบวช หรือคลัสเตอร์โรงงานที่ยังมีรายการพบการติดเชื้อโควิดอยู่ ขณะที่ 13 รายที่เสียชีวิตเพิ่มล่าสุดในวันนี้นั้นทั้งหมดมีอายุเกิน 60 ปี มีรายงานสัมผัสติดเชื้อจากคนใกล้ชิด คนรู้จัก

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า 2 ท่านแรกที่มีผลยืนยันว่าเสียชีวิตจากติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน รายแรกเป็นหญิงไทย อายุ  86 ปี บ้านอยู่ที่ จ.สงขลา เสียชีวิต 12 ม.ค. มีไทม์ไลน์เป็นผู้ป่วยติดเตียง มีอาการเป็นอัลไซเมอร์ โดย 6 ม.ค. พบมีประวัติใกล้ชิดผู้ติดเชื้อซึ่งเป็นคนในบ้านที่เดินทางมาจาก จ.ภูเก็ต 7 ม.ค. ส่งเข้ารักษาตัวโรงพยาบาล ตรวจ RT-PCR พบผลเป็นบวกติดเชื้อโควิด มีอาการไข้สูง 38.5 องศาเซลเซียส มีปอดอักเสบ ไอ และหายใจลำบาก ซึ่งทาง รพ.ก็ให้ยาหลายขนานรักษาอย่างเต็มที่ แต่ก็มาเสียชีวิตลงเมื่อ 12 ม.ค.


พญ.อภิสมัย กล่าวว่า อีกราย ภูมิลำเนาเป็นหญิงไทย อยู่ที่ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี อายุ 84 ปี เป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ติดเชื้อมาจากลูกชาย มีผลเป็นผลบวก ผลตรวจ 9 ม.ค. ผลยืนยันติดเชื้อโอไมครอน 10 ม.ค. ทางญาติขอไปรักษาที่บ้าน ด้วยระบบโฮม ไอโซเลชั่น 13-14 ม.ค. ญาติผู้ป่วยแจ้งมาว่าผู้ป่วยรับประทานอาหารลดลง ตรวจค่าออกซิเจนปลายนิ้วก็ลดลง แล้ววันที่ 15 ม.ค.ก็เสียชีวิตลง

“ปัจจัยร่วมของทั้ง 2 ราย คือ เป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัว รายแรกฉีดวัคซีนแล้วครบ 2 เข็ม ส่วนรายที่ 2 ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ทั้ง 2 ราย ติดเชื้อจากญาติใกล้ชิดที่ดูแล เน้นย้ำการดูแลในบ้าน ผู้ดูแลควรสวมหน้ากากอนามัยให้ผู้สูงอายุ หรืออาจทำการแยกห้องนอนให้เป็นสัดส่วนชัดเจน แยกห้องน้ำ ของใช้ ภาชนะ จาน ชาม หากสามารถทำได้ ควรให้มีผู้ดูแลประจำ ดีกว่าสลับสับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ และคนที่ดูแลต้องไม่ออกนอกบ้านด้วย” พญ.อภิสมัย กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ศบค.ขอพี่น้องประชาชนเร่งมาฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ขอให้ทุกคนที่ฉีดครบ 2 เข็มแล้ว ดูวันฉีดกระตุ้นเข็ม 3 โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุให้รีบมารับวัคซีนได้ ศบค.จะเร่งระดมฉีดวัคซีนในเดือนมกราคม และขอเน้นให้พี่น้องประชาชนปฏิบัติตามมาตรการครอบจักรวาล โดยให้ทุกคนให้คิดไว้ก่อนว่า คนที่เราพบเจออาจเป็นกลุ่มเสี่ยง หรืออาจมีเชื้อโควิด-19 มาติดเราได้ ไม่ว่าคนนั้นจะสนิทกันหรือแม้กระทั่งเพื่อนร่วมงาน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง