ศบค. เตรียมเปิดประเทศ

ทำเนียบรัฐบาล 21 ก.พ.-ประชุม ศบค.ใหญ่พุธนี้ เตรียมเปิดประเทศ ไม่ล็อกดาวน์ ติงนักวิชาการแจงให้ชัดเป็นความเห็นส่วนตัว หวั่นทำปชช.-ผู้ประกอบการตระหนก นายกฯ กำชับเตรียมสถานพยาบาลรองรับกลุ่มสูงอายุ – มีครรภ์


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยว่า ศูนย์ข้อมูลCOVID-19 รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 18,883 ราย ติดเชื้อในประเทศ 18,721 ราย แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพสูงถึง 18,618 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 86 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 17 ราย เดินทางจากต่างประเทศ 162 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 รวม 2,731,198 ราย

“ถ้ารวมยอดผู้ป่วยจากการตรวจ ATK จำนวน 15,010 ราย ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จะมี 33,893 ราย หายป่วย 14,914 ราย รวมยอดรักษาหาย 2,542,145 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 166,397 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.77,071 ราย ในรพ.สนาม/HI-CI 89,326 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 796 ราย มีผู้ป่วยหนักนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง  202 ราย” ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าว


พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้ง 77 จังหวัด โดยกทม.ยังคงมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นอันดับ 1 และเพิ่มขึ้นจากวานนี้(20 ก.พ.ขณะที่ต้องจับตานครศรีธรรมราชที่ตัวเลขติดเชื้อใหม่ก้าวกระโดดแซงสมุทรปราการ และชลบุรี ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 2 ที่ 960 ราย โดยสมุทรปราการ หล่นไปอยู่อันดับ 3 จำนวน 928 ราย ลดลงจากเมื่อวานเล็กน้อย(จาก 975 ราย) ขณะที่อันดับ 4-8 พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทั้งอันดับ 4 ชลบุรี อันดับ 5 นนทบุรี อันดับ 6 ภูเก็ต อันดับ 7 นครราชสีมา อันดับ 8 ระยอง ส่วนอันดับ 9-10 นครปฐม และบุรีรัมย์ ลดลงเล็กน้อย สำหรับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่น้อยที่สุดคือลำพูน 10 ราย 51 จังหวัดที่มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เกินร้อยมากที่สุดที่ภาคกลาง 15 จังหวัด ตามด้วยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 14 จังหวัด ภาคใต้ 9 จังหวัด ภาคตะวันออก 5 จังหวัด ภาคตะวันตก 4 จังหวัด และน่าจับตาภาคเหนือ ที่พบเกินร้อยเพิ่มขึ้นเป็น 4 จังหวัด

ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า คลัสเตอร์ที่พบการระบาดในสถานบันเทิง ทั้งที่ขอนแก่น สงขลา และคลัสเตอร์ในโรงเรียนหลายจังหวัด ทั้ง น่าน หนองคาย เลย สุพรรณบุรี นครราชสีมา ร้อยเอ็ด หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ พะเยา ทั้งยังพบคลัสเตอร์ที่เป็นการติดเชื้อซ้ำในตลาด 6 จังหวัด ที่นครราชสีมา อุบลราชธานี นครพนม จันทบุรี สุรินทร์ เพชรบุรี รวมทั้งยังมีคลัสเตอร์งานศพ ที่มุกดาหาร งานบุญที่กาฬสินธุ์ หนองคาย อุดรธานี งานแต่งงาน การจัดเลี้ยง รับประทานอาหารร่วมกัน เล่นพนัน ตั้งวงดื่มสุรา โดยขอให้หน่วยงานท้องถิ่นช่วยกันกำชับและกวดขันให้เข้มข้น ทั้งนี้ ศบค. ขอให้งดกิจกรรมงดการสังสรรค์โดยไม่จำเป็นไว้ก่อน อีกทั้งที่น่าห่วงคือ ในโรงพยาบาลหลายแห่งหลายจังหวัด ที่ทำให้บุคลากรต้องติดเชื้อและต้องมีการกักตัว ทำให้ขาดเจ้าหน้าที่ในการดูแลประชาชน

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า วันนี้กรมการแพทย์รายงานว่าเตียงของโรงพยาบาลทั่วประเทศพบว่าอัตราครองเตียงระดับสองทั่วประเทศขณะนี้อยู่ที่ 19% ในสถานพยาบาลทั่วประเทศระดับสาม ยังมีอัตราครองเตียงอยู่ที่ 16.5% ทำให้เห็นว่ามีเตียงเพียงพอจะรองรับการเจ็บป่วยหนักสำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้ทุกจังหวัดเตรียมโรงพยาบาลสนามรองรับกรณีมีความจำเป็น  รววมทั้งขอความร่วมมือประชาชนที่มีอาการสีเขียวคือระดับไม่มีอาการ หากตรวจ ATK แล้วพบผลเป็นบวก ขอให้เลือกการรักษาตัวที่บ้านหรือ home isolstion หากเป็นบวกที่ชัดเจนขอให้ติดต่อไปที่ สปสช. 1330 กด 14 จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับภายใน 24 ชั่วโมงเพื่อประเมินอาการ ตรวจสอบประวัติ และติดตามอาการ  อยากให้สงวนเตียงไว้ให้กลุ่มผู้สูงอายุและสตรีมีครรภ์


พญ.อภิสมัย กล่าวว่า วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 32 ราย เป็นคนไทย 31 ราย เมียนมา 1 ราย เป็นเพศชาย 13 ราย เพศหญิง 19 ราย อายุ 28-92 ปี พบทุกภาคทั่วไทย มากสุดในกทม.6 ราย ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความรุนแรงของโรคและเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป มีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น โดยผู้เสียชีวิต 25 รายอายุ 60 ปีขึ้นไป และอายุน้อยกว่า 60 ปีแต่มีโรคเรื้อรัง 7 ราย

“วันนี้พบผู้เสียชีวิตเป็นผู้ป่วยติดเตียงด้วย 1 ราย อย่างไรก็ตามผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ติดเชื้อจากบุคคลใกล้ชิด หรือคนรู้จัก นอกจากนี้ยังพบว่าในจำนวนผู้เสียชีวิต 32 ราย ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ถึง 19 ราย ฉีดครบ 2 เข็มระยะเกิน 4 เดือน  8 ราย และฉีดครบ 2 เข็มระยะไม่เกิน 4 เดือนอยู่ระหว่างรอรับเข็มกระตุ้น 5 รายทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 22,656 ราย” ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับการประชุมศบค.ชุดใหญ่ในวันพุธนี้(23 ก.พ.) จะล็อกดาวน์หรือไม่นั้น ที่ประชุมศบค.ชุดเล็กยืนยันว่าไม่พูดถึง ซึ่งในที่ประชุมชุดใหญ่ จะมีทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมร่วมกัน การพิจารณาจะไม่ประเมินเฉพาะจำนวนยอดผู้เสียชีวิต ผู้ป่วยหนักและผู้ติดเชื้อ แต่ต้องพิจารณารอบด้าน ที่สำคัญด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ความเป็นอยู่ของประชาชนด้วย

“การที่ประชาชนกังวล เกิดจากการบริโภคข้อมูล ที่มาจากนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญที่อาจทำให้เกิดความตกใจว่าจะล็อกดาวน์ ขอยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีทิศทางจะประกาศล็อกดาวน์และขอความร่วมมือนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ เวลาให้ความเห็นขอให้ระบุด้วยว่าเป็นความเห็นส่วนตัวเพราะจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด ไม่เช่นนั้นประชาชนและผู้ประกอบการจะเกิดความกังวล ตื่นตระหนก การประชุมศบค.ชุดใหญ่จะอธิบายเหตุผลว่าถ้าไม่ล็อกดาวน์จะมีมาตรการรองรับการเปิดประเทศอย่างไร จะมีมาตรการเข้มงวดรองรับอย่างไร คงต้องติดตามกัน” ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าว.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

พิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.7 ประดิษฐานหน้าอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 20 ก.ย.- รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) ประดิษฐานหน้าอาคาร ขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า เมื่อเวลา 08.00 น. รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา (ถนนสามเสน) โดยมีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่1 เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมี พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. นายชวนหลีก หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปปัตย์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านพรรคเพื่อไทย น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และประธานกรรมการ บมจ.อสมท รวมถึงข้าราชการรัฐสภา ร่วมพิธีด้วย โดยนายไชยาและพล.อ.สวัสดิ์ ถวายพวงมาลัยและโปรยดอกไม้ที่พระบาทของพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ จากนั้นปักธูปที่เครื่องบวงสรางพร้อมโปรยดอกไม้ จากนั้นนายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้าโหรพราหมณ์ สำนักพระราชวัง อ่านโองการจากนั้นเชิญประธานในพิธีโปรยดอกไม้ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง วางพานประดับพุ่มดอกไม้ และจุด ธูป เทียน […]

อุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 20 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “มิแทก” บริเวณทะเลมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำและสลายตัวอย่างรวดเร็ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย -สำนักข่าวไทย

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย