ทำเนียบรัฐบาล 28 ก.ย.-รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยรัฐเปิด 4 แนวทางการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ของไทย ตามแผนกว่า 126 ล้านโดสในปลายปีนี้
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมั่นใจสามารถจัดหาวัคซีนโควิด-19 ครบตามแผนกว่า 126 ล้านโดสในปลายปีนี้ โดยจัดหาวัคซีนโควิด-19 ภายใต้ 4 แนวทาง ดังนี้
- แผนการจัดซื้อจากผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 โดยตรงกับผู้ผลิต/บริษัท ให้มีความหลากหลายยี่ห้อและเทคโนโลยี อาทิ แอสตราเซเนกา ไฟเซอร์ และ ซิโนแวค
- การจัดซื้อจากประเทศที่มีวัคซีนโควิด-19 เช่น เจรจาจัดซื้อวัคซีนแอสตราเซเนกาจากสเปน จํานวน 449,500 โดส โดยรัฐบาลสเปนถือเป็นประเทศแรกในยุโรปที่ขายวัคซีนให้แก่ประเทศไทย และอยู่ระหว่างประสานงานกับอีกหลายประเทศ
- การแลกเปลี่ยนวัคซีน (vaccine swap) เช่น รัฐบาลภูฏาน ได้แลกเปลี่ยนวัคซีนแอสตราเซเนกาล่วงหน้า จำนวน 105,000 โดสกับรัฐบาลไทย โดยส่งมอบให้ไทยแล้วเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2564 และการแลกเปลี่ยนวัคซีนระหว่างไทยและสิงคโปร์ จำนวน 122,400 โดส บนหลักการว่า ไทยจะส่งมอบวัคซีนคืนแก่สิงคโปร์ในภายหลัง
- การบริจาค ไทยได้รับวัคซีนซิโนแวคจากจีน จำนวน 1 ล้านโดส สหราชอาณาจักร มอบวัคซีนแอสตราเซเนกา จำนวน 415,000 โดส ญี่ปุ่นมอบวัคซีนแอสตราเซเนกาจำนวน 1.66 ล้านโดส สหรัฐได้มอบวัคซีนไฟเซอร์ จำนวนกว่า 1.5 ล้านโดส รวมถึงอยู่ระหว่างการหารือของคณะกรรมการร่วมไทย-สหรัฐอีก 1 ล้านโดส ทั้งนี้ ไทยจะบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนจะครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 คิดเป็นประชากร 50 ล้านคน ภายในสิ้นปีนี้ ครอบคลุม เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 การฉีดเข็มกระตุ้น (booster) แก่ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตายครบ 2 เข็มทุกราย นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุข ยังได้วางแผนการฉีดวัคซีนโควิด -19 สำหรับชาวต่างชาติและแรงงานต่างด้าว ซึ่งจะเริ่มในเดือน ต.ค. นี้ด้วย -.สำนักข่าวไทย