เตรียมดันแก้ กม.ต้องวัดแอลกอฮอล์ทันที

รัฐสภา 19 มี.ค.- “สิระ” เตรียมเชิญตำรวจชี้แจงกรณีอุบัติเหตุที่ภูเก็ต ปมไม่ตรวจวัดแอลกอฮอล์ ชี้รวยหรือจนต้องได้รับความเท่าเทียม พร้อมดันแก้กฎหมายกำหนดวัดแอลกอฮอล์ทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ


นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจาก นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ขอให้ช่วยพิจารณาผลักดันกฎหมายให้ตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ในผู้ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุเป็นสาเหตุให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดย นพ.แท้จริง กล่าวว่า หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วต้องตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ แต่ปัจจุบันจะตรวจหรือไม่ตรวจก็ได้ จึงเห็นอุบัติเหตุที่เกิดจากการเมาแล้วขับ แต่ผู้ขับขี่ไม่เคยได้รับการตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์เลย และมีหลายกรณีที่เป็นเช่นนี้ โดยขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ได้ถูกดำเนินคดี จึงนำเรื่องมาปรึกษากรรมาธิการกฎหมายฯ ว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ต้องตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ หากดำเนินการเรื่องดังกล่าวแล้วสำเร็จ ต่อไปในอนาคตผู้ขับขี่ที่เมาแล้วขับ ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ จะต้องโดนตรวจแอลกอฮอล์โดยเร็วที่สุด

นายสิระ กล่าวว่า หากเปรียบเทียบผู้ที่เมาแล้วขับขี่ เบื้องต้นดื่มเหล้าแล้วเมาคืออันธพาล แต่ถ้าไปขับรถถือว่าเป็นฆาตกร เป็นอาชญากร ยืนยันว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ การที่ไปขับรถชนแล้วทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ฆาตกรเหล่านี้ต้องได้รับการลงโทษ แต่ที่ผ่านมาเป็นเพียงระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะตรวจหรือไม่ตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ก็ได้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ เพราะฉะนั้นจะต้องออกกฎหมายบังคับเจ้าหน้าที่ว่า หากไม่ปฏิบัติตามต้องมีบทลงโทษจำคุก ซึ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ประชาชนสงสัย ตนก็สงสัยว่าอุบัติเหตุที่ จ.ภูเก็ต ทำไมไม่ตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ ก็มีการอ้างเรื่องดุลพินิจ


“จะเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.ภูเก็ต มาชี้แจงต่อ กมธ.ว่า การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ มีผลประโยชน์แอบแฝงหรือไม่ และผู้เกี่ยวข้องในอุบัติเหตุนี้เป็นผู้มีชื่อเสียงหรือมีเงินหรือไม่ ถึงไม่ตรวจ หากเป็นคนไม่มีชื่อเสียง หรือไม่มีเงิน ต้องตรวจใช่หรือไม่ คุกมีไว้ขังคนจนใช่หรือไม่ ดังนั้น จึงต้องออกกฎหมายให้เป็นมาตรฐานเดียวกันว่า จะรวยหรือจน ต้องได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน” นายสิระ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว