ทำเนียบรัฐบาล 10 มี.ค.-ที่ประชุมคนร.มีมติตั้งอนุกก.กลั่นกรองแผนแก้ปัญหารัฐญวิสาหกิจ 4 แห่ง ให้สำนักนายกฯทำแผนฟื้นฟูอสมทภายใน 30 วัน เชื่อหลักทรัพย์จำนวนมากกับการดูแลใกล้ชิดจะฟื้นตัวได้เร็ว
นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ครั้งที่ 1/2564 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมมีมติให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองแผนการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ เพื่อพิจารณากลั่นกรองและเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ โดยมีนายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคนร.เป็นประธานอนุกรรมการ ซึ่งจะกำกับติดตามการแก้ไขปัญหาของรัฐวิสาหกิจ 4 แห่ง ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.),องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด มหาชน และบริษัท อสมท จำกัด มหาชน
“ในส่วนของอสมท จากการที่กสทช.เปิดประมูลใบอนุญาตและอสทมไม่สามารถปรับตัวให้ทันต่อการแข่งขัน มีปัญหาทั้งจากองค์กรและปัญหาทางการเงิน ซึ่งในอดีตสถานะทางการเงินค่อนข้างดี สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ แต่ปัจจุบันมีผลขาดทุนต่อเนื่อง ซึ่งทางสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะที่กำกับดูแล ควรติดตามเร่งรัดอย่างใกล้ชิด และทำแผนเสนอต่อคณะอนุกรรมการฯ ภายใน 30 วัน อย่างไรก็ตาม อสมท มีทรัพย์สินอยู่จำนวนมาก และเพิ่งจะมีภาระหนี้สินในช่วงหลัง เชื่อว่าถ้าเข้ามาอยู่ภายใต้การกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด จะสามารถฟื้นฟูได้โดยเร็ว” นางปานทิพย์ กล่าว
นางปานทิพทย์ กล่าวว่า จากเดิมมีรัฐวิสาหกิจ 7 แห่งที่อยู่ในแผนฟื้นฟู แต่ปัจจุบันธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และธนาคารอิสลามออกจากแผนฟื้นฟูแล้ว แต่ยังให้กระทรวงการคลังติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนบริษัทการบินไทย จำกัด มหาชน หลังจากกระทรวงการคลังลดสัดส่วนการถือหุ้น จึงทำให้พ้นสภาพจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ วันนี้(10 มี.ค.) จึงมีรายงานความคืบหน้าว่าการดำเนินการเป็นอย่างไรแล้ว สำหรับอสมท เพิ่งมีมติวันนี้ให้จัดทำแผนมาเสนอคณะกรรมการฯ เพื่อติดตามอย่างใกล้ชิด
“ที่ประชุมเห็นชอบหลักการของการจัดตั้งบริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจ 2 แห่ง คือ บริษัทในเครือของการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) และบริษัทในเครือของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการติดตั้ง บำรุงรักษาและลงทุนด้านการบริหารจัดการระบบพลังงานทดแทน และระบบพลังงานแบบอัจฉริยะแบบครบวงจรเพื่อรองรับการเป็นเมืองอัจฉริยะ” นางปานทิพย์ กล่าว
นางปานทิพย์ กล่าวว่า ที่ประชุมคนร.รับทราบความคืบหน้าการจัดทำแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นแผนที่จะกำหนดเป้าหมาย นโยบาย และทิศทางในการพัฒนารัฐวิสาหกิจในระยะ 5 ปี และคาดว่าจะสามารถประกาศใช้ในช่วงต้นปี 2565 เพื่อให้รัฐวิสาหกิจนำไปประกอบการจัดทำแผนวิสาหกิจต่อไป.-สำนักข่าวไทย
