“ณัฏฐพล “มั่นใจ ตั้งคนสนิทเป็นเลขาฯ สกสค. ตามระเบียบ

รัฐสภา 18 ก.พ.-“ณัฏฐพล “มั่นใจ ตั้งคนสนิทเป็นเลขาฯ สกสค. เป็นไปตามระเบียบ – กฎหมาย โยนถาม “ดิสกุล” หากสงสัย ลั่นตั้งข้าราชการการเมือง ไม่ใช่มีอำนาจเหนือ ข้าราชการประจำ แต่เป็นการบูรณาการการศึกษา ยันไม่สามารถหาผลประโยชน์ได้ เหตุขาดทุนต่อเนื่องสะสม 7 พันล้าน


นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ชี้แจงถึงกรณีข้อกล่าวหา แต่งตั้งพวกพ้องเป็นเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาหรือ สกสค. โดยระบุว่า กระทรวงศึกษาธิการแตกต่างจากกระทรวงอื่นๆ มีผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่าปลัดกระทรวง หรือ C11 โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในปี 2546 สมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นการกระจายอำนาจในกระทรวงศึกษาธิการ โดยแบ่งเป็น การศึกษาขั้นพื้นฐาน หน่วยงานอาชีวะ สภาการศึกษา และการอุดมศึกษา ซึ่งจากการแบ่งออกเป็น 4 หน่วยงานและมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งหน่วยงานไม่มีความเป็นเอกภาพในภาคกระทรวงศึกษาธิการ ไม่สามารถเชื่อมโยงการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตนขอยืนยันว่าใน4 หน่วนงาน และสำนักปลัด มีความเป็นเอกภาพในส่วนของผู้บริหารระดับสูง ซึ่งต้องเลิกรับข้อมูลจากผู้ที่ไม่ได้ประโยชน์แต่รับผลประโยชน์ตรงนี้ไม่ได้แล้ว

ทั้งนี้นายณัฏฐพล อธิบายถึงองค์การค้าในสังกัด สกสค. ว่ามีการโอนทรัพย์สินมาอยู่ในสกสค. โดยหากเทียบราคาตลาดในทรัพย์สินก็มีหลายพันล้าน แต่ขณะเดียวกันองค์การค้าก็มีการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง และวันนี้มีการขาดทุนทั้งสิ้น 7 พันล้าน ซึ่งพ.ร.บ.การศึกษา 2542 ทำให้มีการเปิดเสรีในการพิมพ์หนังสือ ทำให้สกสค.มีการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีความเกี่ยวโยงกับผู้ที่อภิปรายได้กล่าวถึง และกล่าวว่าจะปล่อยให้องค์การค้านั้นขาดทุนอย่างต่อเนื่องไม่ได้ จึงต้องมีการปรับทิศทางการดำเนินการขององค์กร จะเห็นชัดเจนว่าบุคลากรที่อยู่ในองค์การค้ามีมากเกินปริมาณของงาน มีการปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายเหลือเพียง 97 ล้านบาท โดยองค์การค้าได้ชำระเงินคืนให้ สกสค.ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 493 ล้านบาทเศษ ซึ่งสะท้อนให้เห็นการจัดการองค์กรดีขึ้น โดยหากปล่อยเอาไว้จะขาดทุนกว่าหมื่นล้านในอีก 4 ปีข้างหน้า พร้อมกับอธิบายว่าการแก้ไขปัญหาองค์การค้าสกสค. เป็นผลงานของ นายธนพร สมศรี จึงมีความเหมะสมในการขับเคลื่อนองค์การค้าและสกสค.


ส่วนที่บอกว่ามีการประกาศสรรหาเลขาฯคุรุสภาฯและการสรรหา สกสค. ต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาหรือไม่นั้นตนได้พยายามที่จะกฤษฎีกา และกฤษฎีกามีหนังสือตอบกลับมา ไม่ต้องประกาศในราชการเนื่องจากเป็นการปฏิบัติตามประกาศของคสช. ไม่ใช่ตามพ.ร.บ.ครูและบุคลากรทางการศึกษา เช่นเดียวกับ การสรรหาเลขาฯสกสค.ไม่ต่างกับเลขาฯคุรุสภา ส่วนประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้องกับนายธนพรสมศรี เป็นรองเลขาสกสค. ส่วนกระบวนการไปเป็นรองเลขามีการพูดคุยกันอย่างไร ขอให้ไปถามนายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ อดีตเลขาสกสค.

ส่วนเรื่องผลประโยชน์หรือข้อทุจริตในการบริหารจัดการสกสค.จะส่งเรื่องไปยังศาลยุติธรรม หรือกระบวนการยุติธรรมอะไรตนก็ยินดีเพราะตนมั่นใจว่ากระบวนการสรรหาทั้งหมดอยู่ในระเบียบ กฎหมาย ส่วนจะโยงว่ามีวันนี้เพราะครูให้หรืออะไร ก็บอกชัดเจนอยู่ในเอกสารที่อภิปรายพ่อแม่ญาติพี่น้องเขาเป็นครู แล้วเกี่ยวอะไรกับตน พร้อมถามกลับว่าวันนี้ต้องการบริหารจัดการสกสค เพื่อให้เงินทั้งหมดกลับมาอยู่ในมือของครู

ส่วนเรื่องการทุจริตต่างๆใน สกสค. ก็ยังติดตามกันอยู่ ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นก่อนปี 2557 พร้อมขอให้ตรวจสอบวันนี้ว่ามีกระบวนการทุจริตนำเงินครูและบุคลากรทางการศึกษาในช่วงปีครึ่งที่ผ่านมาหรือไม่ หากหาได้ตนยินดีที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ตนยืนยันว่าไม่มี เพราะต้องการให้กระทรวงศึกษาธิการ มีความโปร่งใสในการทำงานสามารถขับเคลื่อนกระทรวงศึกษาธิการ และกำลังใจของบุคลากรทางการศึกษา วันนี้ก็มีการแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้ครู ไม่เกี่ยวกับสกสค ยืนยันว่าหาทางออกไม่ได้อย่างแน่นอน เพียงแต่รอกระบวนการในช่วงโควิด เนื่องจากผู้ได้รับประโยชน์จากการทำหน้าที่ของสถาบันการเงินต่างๆ


ส่วนที่มีกล่าวอ้างว่าตนนั้นสร้างเครือข่ายทางการเมือง ไม่นึกถึงพวกพ้อง ไม่นึกถึงพรรคการเมือง แล้วตนจะนึกถึงพวกพ้องนักการเมืองได้อย่างไร ตนต้องนึกถึงครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งที่คนที่ได้รับการแต่งตั้งนั้นต้องไปดูแล ยืนยันว่าตนไม่ได้สั่งการอะไรที่ผิดระเบียบ กระบวนการทั้งหมดไม่ได้เป็นการสั่งการเพื่อให้คนใดคนหนึ่ง ให้รัฐมนตรีช่วย หรือข้าราชการทางการเมืองใด มีอำนาจหน้าที่เหมือนข้าราชการประจำ แต่คือแผนการบูรณาการการศึกษา

จากนั้นฝ่ายค้านก็ลงประท้วงว่ารัฐมนตรีตอบไม่ตรงประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ จนทำให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องออกมาปรามว่าต้องให้โอกาสรัฐมนตรีได้ชี้แจงจะตรงประเด็นหรือไม่ก็ไม่เป็นไรเพราะไม่ใช่กระทู้ถาม และทางหนึ่งก็เป็นเรื่องดี หากรัฐมนตรีตอบไม่ได้ สมาชิกก็จะได้รับฟังในการลงมติ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. แต่งตั้งนายพล 250 ตำแหน่ง

1 ก.ย. – เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. บัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจ 250 ตำแหน่ง “บิ๊กเต่า” แห้ว “นพศิลป์” ได้ขึ้น พล.ต.ท. เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (รองประธาน ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2568 วาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2568 โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกย้ายสับเปลี่ยน กว่า 250 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.ครบองค์ประชุม ขาดเพียงนายภูมิธรรม […]

“บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทนอดีตพระอลงกต

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ส่วน “สมปอง” ยังอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี แม้อ้างว่าเป็นการยืมเงินและคืนไปบางส่วนแล้ว ขณะที่วง “พิงค์แพนเตอร์” ประสานเข้าพบตำรวจเร็วๆ นี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดี “อลงกตการละคร” ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร และมีตัวละครที่สามารถดำเนินคดีได้หลายคน แต่ตำรวจต้องการพยานหลักฐานมาประกอบข้อมูลตรงนี้ให้ชัดเจนมากขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามทยอยเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน โดยเฉพาะประเด็นที่มีคนใกล้ชิด อักษรย่อ นางสาว ว. ถือครองโฉนดที่ดินมูลค่ารวม 140 ล้านบาทนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบบุคคลเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในจำนวนนั้นยอมรับว่ามีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ด้วย โดยทั้งคู่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน คือ เข้าไปหาผลประโยชน์ และไม่ใช่เพียงผลประโยชน์จากเงินวัดก้อนเดียว แต่หาผลประโยชน์จากกลุ่มเครือข่ายด้วย ซึ่งมีมูลค่าเงินจำนวนมาก และทางอดีตพระอลงกต ก็มองว่าตนเองถูกรังแก ถูกโกงเงินไป ทั้งเรื่องคอนเสิร์ต เรื่องที่ดิน และถือครองทรัพย์สินแทน […]

พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

พรรคกล้าธรรม 30 ส.ค.-พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์ โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ ชี้ปล่อยให้ประเทศเกิดสุญญากาศไม่ได้ เผยภูมิใจไทยรับข้อเสนอ แก้ กม.ต้องไม่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อเวลา 15.55 น. พรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ต่อไปว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ร่วมกันพิจารณารับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคทุกท่าน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการของพรรค รวมถึงพิจารณาข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พรรคกล้าธรรม จะลงมติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เนื่องด้วยสถานการณ์ของประเทศไทยขณะนี้ จำเป็นที่จะต้องมีฝ่ายบริหารมาขับเคลื่อนและแก้ปัญหาให้กับประชาชนในทุกด้าน ทั้ง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ปัญหาสังคมด้านต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน โดยไม่สามารถประวิงเวลาไปได้อีก พรรคกล้าธรรม ได้แสดงจุดยืนของพรรคให้กับพรรคภูมิใจไทยทราบ คือ 1.พรรคกล้าธรรม ยึดถือ […]

“เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล

พรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค.- “เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล กร้าว ถ้าหนุนก็ไม่เหลือความเป็นคน บอก รัฐประหาร 100 ครั้ง ก็ไม่เลวร้ายเท่าฮั้ว สว. ยกอำนาจให้คนเดียวชี้ขาดประเทศ ย้ำคดีเขากระโดง ต้องเอาผิดให้เด็ดขาด บอก 2-3 เดือน ก็ยุบสภาได้ ไม่ต้องรอ 4 เดือน นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุภายหลังการเจรจากับพรรคประชาชน ที่พรรคร่วมรัฐบาลรับเงื่อนไขทั้งหมดของพรรคประชาชน ว่า จริงๆ เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชน ตนไปเป็นเพื่อนเขา ส่วนประเด็นเป็นเรื่องของทั้งสองพรรคต้องคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเงื่อนไขทั้งหมดใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ส่วนจะนำข้อหารือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน เข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยอมรับว่า อาจอยู่ในวาระอื่นๆ เนื่องจากมีวาระสำคัญอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคประชาชนและและข้อเสนอเพิ่มเติมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยืนยันว่า […]

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

“ชัยเกษม” ยันพร้อมเป็นนายกฯ บอกโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- “ชัยเกษม” ยันพร้อมเป็นนายกฯ หัวเราะดัง อาจมีอัศวินขี่ม้าขาว ก่อนย้อนถามสื่อ “ผมมีม้ามาหรือเปล่า” ลั่น โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน เมื่อเวลา 14.00 น. นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ แต่นายชัยเกษม ปฏิเสธพร้อมระบุว่า เดี๋ยวลงมาค่อยคุยกัน ส่วนที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า อาจจะมีอัศวินขี่ม้าขาว นั้น นายชัยเกษม หัวเราะเสียงดัง ก่อนจะย้อนถามสื่อว่า “ผมมีม้ามาหรือเปล่า” ใครเป็นคนพูด และโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ส่วนที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ เดินทางไปพบที่บ้านพัก นายชัยเกษม กล่าวว่า ก็เป็นการพูดคุยไม่มีอะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายชัยเกษม กล่าวว่า ก็พร้อมสิ ไม่พร้อมได้อย่างไร และการประชุมวันนี้ เป็นการพูดคุยกันทั่วไปไม่มีอะไร จากนั้นเจ้าหน้าที่ของพรรคได้ขอความร่วมมือสื่อมวลชนยังไม่ให้สัมภาษณ์จนกว่าการประชุมจะเสร็จสิ้น -สำนักข่าวไทย

ครม. มอบ 4 รองนายกฯ ทำหน้าที่แทนนายกฯ ไร้คุยปมยุบสภา

ทำเนียบ 2 ก.ย.- “ชูศักดิ์” เผยที่ประชุม ครม. มอบ 4 รองนายกฯ ทำหน้าที่แทนนายกฯ ตามลำดับ ยันไม่มีคุยเรื่องยุบสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติมอบหมายรองนายกรัฐมนตรี 4 ท่าน ดังนี้ 1.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 2.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน 3.นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 4.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจสังคม โดยทั้ง 4 ท่านจะเป็นรองนายกรัฐมนตรี และทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โดยเรียงลำดับข้างต้น ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ รวมถึงมอบหมายรองนายกฯ เหล่านี้ทำหน้าที่เหมือนที่เคยปฏิบัติมา ทั้งนี้ ยืนยันว่าในที่ประชุม ครม.ในวันนี้ ไม่ได้มีวาระในเรื่องการยุบสภา เป็นการหารือในการประชุม ครม.ตามปกติ นอกจากนี้ […]

มทภ.2 ยัน “ทหาร” ไม่ปฏิวัติ ปล่อยกลไกการเมืองจัดการ

กทม. 2 ก.ย.-มทภ.2 ยัน “ทหาร” ไม่ปฏิวัติ ปล่อยกลไกการเมืองจัดการ เผย ผบ.ทบ. มองการเมืองมีแนวโน้มดี ไม่ยุ่ง เป็นทหารอาชีพ ให้เกียรติฝ่ายการเมือง มอง “แคนดิเดตนายกฯ” อยู่ในวงจำกัด ให้ใช้เวลาที่เหลือ 3-4 เดือน บางอย่างต้องช่วยกันก่อน เชื่อการเมืองมีคนดีอยู่แล้ว พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีการบรรยายนักศึกษาธรรมศาสตร์ ถึงการนำคนดีมาบริหารประเทศ แต่ในสถานการณ์ที่อยู่ระหว่างเลือกนายกฯ ตั้งรัฐบาล และสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เราควรมีผู้นำที่เข้าใจสถานการณ์ในแนวทางใด ว่า ทฤษฎีที่ผมพูดไปคือทฤษฎีที่อยากให้เป็น แต่ความจริงของประเทศไทย ก็ต้องว่าไปตามระบบของประเทศไทยในห้วงเวลานี้ ทหารไม่มีการปฏิวัติอยู่แล้ว ปล่อยให้เป็นไปตามกลไก เราต้องช่วยกันคัดกรองดูว่าอะไรถูกไม่ถูก เราจะเสนอนแอย่างไร อันนี้คือสิ่งที่ผมได้คุยกับน้องๆ เราอยากให้เป็นในอนาคต ส่วนทฤษีและความจริงจะได้ขนาดไหน พวกเราคนไทยทั้งประเทศต้องช่วยกัน เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นเพื่อน ตท.26 กับ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ได้ฝากและมองสถาการณ์อย่างไรบ้าง พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ท่านก็มองว่าน่าจะมีแนวโน้มไปทิศทางที่ดี กองทัพบกก็พร้อมทำหน้าที่ตัวเอง ไม่ยุ่งกับกระแสการเมืองอยู่แล้ว […]