ส.ว.เห็นชอบกฎหมาย กสทช. ไฟเขียวล้มกระดานสรรหากรรมการ

รัฐสภา 15 ก.พ.- ที่ประชุมวุฒิสภา เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.กสทช. ด้วยเสียง 194 ต่อ 3 ไฟเขียวล้มกระบวนการสรรหาบอร์ด กสทช. และให้สรรหากรรมการชุดใหม่ ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่ประกาศบังคับใช้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมวุฒิสภา วันนี้ (15 ก.พ.) นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ …) พ.ศ. … ซึ่งเป็นฉบับที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระสองและวาระสาม

พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ ประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่…) พ.ศ. … (ร่าง พ.ร.บ.กสทช.) ได้กล่าวถึงสรุปผลการพิจารณาของ กมธ.วิสามัญ ว่า การแก้ไขร่าง พ.ร.บ.กสทช.ครั้งนี้ ตามร่างของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และร่างของสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการชี้แจงเหตุผลว่า เนื่องจากกระบวนการสรรหากรรมการ กสทช. ตามกฎหมายปัจจุบัน ได้เกิดสภาพปัญหาในทางปฏิบัติบางประการ ทำให้การสรรหาและการคัดเลือกบุคคลมีข้อติดขัดไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการให้ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ ประกอบกับได้มีข้อร้องเรียนเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ กสทช. จึงเป็นที่มาและเหตุผลสำคัญในการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย กสทช. ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ กสทช. อันเป็นการแก้ไขข้อขัดข้องในการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว


โดยร่าง พ.ร.บ.กสทช. ฉบับนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 11 มาตราหลัก และ 6 มาตราย่อย โดยสาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้ คือ 1.มีการแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการ กสทช. 2.แก้ไขเพิ่มเติมลักษณะต้องห้ามของกรรมการกสทช. กรณีเคยได้รับโทษจำคุก โดยคำพิพากษาให้ถึงที่สุดให้จำคุก  3.ปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหา ในการกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับความรู้ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของผู้มีสิทธิ์สมัครเข้ารับการสรรหา และการกำหนดให้คณะกรรมการสรรหามีหน้าที่และอำนาจในการพิจารณาและวินิจฉัยเกี่ยวกับคุณสมบัติ หรือลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครเข้ารับการสรรหาหรือผู้ได้รับลการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการ กสทช. 4.ปรับปรุงลักษณะของผู้มีสิทธิสมัครเข้ารับการสรรหาเพื่อเป็นกรรมการกสทช. และ 5.ปรับปรุงกระบวนการสรรหาคัดเลือก และแต่งตั้งกรรมการ กสทช. โดยในการปรับปรุงกระบวนการนี้ พบว่า กระบวนการกรรมการกสทช. ในปัจจุบัน กำหนดให้คณะกรรมการสรรหา คัดเลือกบุคคลในแต่ละด้าน ด้านละ 2 คน แล้วส่งเรื่องให้วุฒิสภาพิจารณาให้เหลือ 1 คน โดยไม่ได้กำหนดจำนวนคะแนนเสียงที่จะถือว่าได้รับการคัดเลือกในการพิจารณาของวุฒิสภาไว้ ดังนั้นหากผู้สมัครคนใดได้รับเสียงข้างมาก ถึงแม้จะเป็นเพียง 1 เสียงก็ถือว่าบุคคลนั้นได้รับการคัดเลือกจากวุฒิสภา ตัวกฎหมายจึงได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมกระบวนการสรรหาจากเดิม กรรมการสรรหา คัดเลือกมาจำนวนด้านละ 2 คน เปลี่ยนเป็นจัดหามาให้พอดีกับด้านคือ ด้านละ 1 คน จำนวน 7 ด้าน และเมื่อกรรมการสรรหา ดำเนินการคัดเลือกบุคคลใดแล้วให้เสนอรายชื่อต่อวุฒิสภา เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยผู้ได้รับเลือกต้องได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ของวุฒิสภา

ทั้งนี้มีสมาชิกวุฒิสภาส่วนหนึ่ง สงวนคำแปรญัตติไว้ในมาตรา 3 แก้ไขมาตรา 6 ขอให้ทบทวนคุณสมบัติของกรรมการ กสทช. มีความรอบด้านมากขึ้น เพราะหากกำหนดไว้เพียงแต่ ด้านวิศวกรรม กฎหมาย เศรษฐศาสตร์ การคุ้มครองผู้บริโภค และด้านการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน เป็นการระบุเจาะจงมากเกินไป ควรจะต้องเพิ่มด้านการศึกษา วัฒนธรรม และด้านการพัฒนาสังคม เพื่อให้การบริหารของ กสทช. มีทิศทางที่หลากหลายครอบคลุมกับบริบททางสังคม อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการได้ยืนยันว่าการกำหนดคุณสมบัติของกรรมการ กสทช. มีความครบถ้วนสมบูรณแล้วและเชื่อว่ากรรมการฯ ที่ได้รับเลือกมีความรู้ความสามารถเกินกว่าที่กำหนดไว้ในแต่ละด้านอยู่แล้ว

นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการแก้ไขลักษณะเฉพาะของผู้มีสิทธิสมัครเป็นกรรมการ กสทช. ไว้ในมาตรา 5 ใช้ข้อความแทนมาตรา 14/2 (3) ต้องเคยเป็นทหารหรือตำรวจที่มียศตั้งแต่พันเอก นาวาเอก นาวาอากาศเอก หรือพันตำรวจเอก ขึ้นไป ซึ่งถือว่าไม่ใช่ตำแหน่งระดับบริหาร พร้อมทักท้วงว่าการกำหนดตำแหน่งดังกล่าวไว้มีความแตกต่างอย่างไรเมื่อเทียบกับผู้เคยตำแหน่งรองอธิบดีที่เคยเป็นผู้บริหารมาก่อน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมวุฒิสภามีมติไม่เห็นชอบ มาตรา 5 (3) ตามที่คณะกมธ. แก้ไข โดยให้กลับไปใช้ตามที่สภาผู้แทนราษฎรเสนอ ซึ่งบัญญัติไว้ว่า ผู้มีสิทธิสมัครรับการสรรหาเพื่อเป็นกรรมการ กสทช. มีคุณลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด (3) เป็นหรือเคยเป็นนายทหารหรือนายตำรวจที่มียศตั้งแต่พลตรี พลเรือตรี พลอากาศตรี หรือพลตำรวจตรี 

นอกจากนี้ ที่ประชุมวุฒิสภายังได้พิจารณา มาตรา 10 ว่าด้วยการดำรงตำแหน่งของกรรมการ กสทช. โดย พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ส.ว. ในฐานะประธานกมธ. ชี้แจงตอนหนึ่งว่า สาเหตุที่ทางกมธ.แก้ไข ให้บุคคลที่อยู่ระหว่างการสรรหาเป็นกรรมการ กสทช. เมื่อได้แต่งตั้งเป็นกรรมการแล้วสามารถดำรงตำแหน่งได้ 3 ปี ซึ่งแตกต่างจากร่างที่สภาฯส่งมา โดยกำหนดให้เลือกกรรมการชุดใหม่ ภายใน 15 วัน หลังร่างพ.ร.บ.นี้ประกาศบังคับใช้ ก็เพื่อให้ความเป็นธรรมกับบุคคลที่อยู่ระหว่างการสรรหาเป็น กสทช. ซึ่งมาตามกฎหมายกสทช. ฉบับเดิม ทั้งนี้ คาดว่าร่างกฎหมายที่กำลังพิจารณาอยู่นี้จะเสร็จก่อนการสรรหา ทำให้กระบวนการสรรหานั้นต้องยกเลิก หรือคว่ำไปโดยอัตโนมัตินับจากวันที่ร่าง พ.ร.บ.กสทช. ฉบับใหม่บังคับใช้ เพราะคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามนั้นแตกต่างกัน ทั้งนี้กมธ.ฯ ได้ปรับแก้เพื่อสร้างจุดสมดุลมากที่สุดของร่างกฎหมายระหว่างที่เสนอมาโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) และที่ร่างกฎหมายรับมาจากสภาผู้แทนราษฎร

ด้าน นางสุวรรณี สิริเวชชะพันธ์ รองประธานกมธ. ในฐานะกมธ.เสียงข้างน้อย กล่าวว่า สาเหตุที่เห็นด้วยกับร่างของสภาฯ เพราะมีการกำหนดไว้ว่าหากเป็นกรรมการ กสทช.ไม่ถึง 3 ปี สามารถกลับมาสมัครใหม่ได้

กระทั่งเวลา 15.00 น. นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง เป็นประธานในที่ประชุมขณะนั้น สั่งให้ที่ประชุมลงมติ มาตรา 10 ผลปรากฏว่า ที่ประชุมไม่เห็นชอบกับที่คณะกรรมาธิการแก้ไข ด้วยเสียง 158 ต่อ 42 งดออกเสียง 12 ไม่ลงคะแนน 1 เสียง ด้วยเหตุนี้ทำให้ต้องกลับไปใช้มาตรา 10 ตามที่สภาฯเสนอมา ซึ่งกำหนดให้มีการสรรหากรรมการชุดใหม่ ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่มีการประกาศบังคับใช้ ดังนั้น กระบวนการการสรรหาบุคคลเป็นกรรมการ กสทช. ในขณะนี้ต้องล้มเลิกไปโดยอัตโนมัติ

ทั้งนี้ในวาระที่สาม ที่ประชุมเห็นด้วยกับร่างกฎหมายทั้งฉบับ ด้วยเสียง 194 ต่อ 3 งดออกเสียง 15 ไม่ลงคะแนน 1 เสียง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ตะวันออกฝ-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก

กรุงเทพฯ 25 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดน่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง […]

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]