รัฐสภา 10 ก.พ. -“ปารีณา”เตรียมแถลงแจงกรณีถูก ป.ป.ช.ชี้มูลจริยธรรมร้ายแรง จากการบุกรุกที่ป่ายันมีหลักฐานสู้ ขณะเลขาสภาฯ ชี้หากศาลฎีการับฟ้องต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไม่สามารถใช้เอกสิทธิ์คุ้มครองได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวของนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในวันนี้ยังเดินทางมาร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรตามปกติ แม้ว่าจะมีกระแสข่าวว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)จะชี้มูลความผิดจริยธรรมร้ายแรง ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบุกรุกและครอบครองพื้นที่ป่าสงวนโดยมิชอบ ตามที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปธส. ร้องต่อ ป.ป.ช. โดยจะมีการแถลงข่าวในเวลา 14.00 น. วันนี้
โดยสื่อมวลชนได้พยายามติดต่อหานางสาวปารีณา เพื่อขอความเห็นเรื่องนี้ แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยระบุว่า ต้องรอให้ ป.ป.ช.แถลงก่อน เพราะขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจนว่า ป.ป.ช. ได้ชี้มูลในข้อกล่าวหาใดบ้าง และยังไม่ได้รับเอกสารใดๆจาก ป.ป.ช. โดยเมื่อป.ป.ช.แถลงตนก็พร้อมที่จะชี้แจงและตอบทุกคำถาม ยืนยันว่าตนมีหลักฐานโต้แย้งในกรณีนี้
ขณะที่นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตามขั้นตอนหากนางสาวปารีณา ถูก ป.ป.ช. ชี้มูล ผิดจริยธรรมร้ายแรงในข้อหาบุกรุกที่ป่าสงวน รัฐธรรมนูญ มาตรา 235 (1) กำหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.เสนอเรื่องต่อศาลฎีกา และเมื่อศาลฎีกาประทับรับฟ้องนางสาวปารีณา จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที จนกว่าจะมีคำพิพากษา
ส่วนนางสาวปารีณาจะสามารถใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครองได้หรือไม่ นางพรพิศ ชี้แจงว่าไม่สามารถใช้เอกสิทธิ์ ส.ส. คุ้มครองได้ เพราะเอกสิทธิ์ ส.ส.สามารถใช้คุ้มครองในคดีอาญาโดยห้ามจับกุมคุมขัง ส.ส.ในระหว่างสมัยประชุม แต่กรณีนี้เป็นการสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ และถือเป็นคำสั่งศาล จึงไม่สามารถใช้เอกสิทธิ์ใดคุ้มครองได้ เทียบเคียงได้จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยสั่งให้นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.ปชป.หยุดปฏิบัติหน้าที่.- สำนักข่าวไทย