“ราเมศ” ป้อง “ชวน” ยื่นชื่อถอด “สิระ” ตาม รธน.

รัฐสภา 11 ม.ค. – “ราเมศ” ป้อง “ชวน” ยื่นสอย “สิระ”ตาม รธน. แฉ 2 ส.ส.เพื่อไทย ยึกยัก ถอนชื่อกลับ  พร้อมโต้ ส.ส.ก้าวไกลควรตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนออกมาวิจารณ์


นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา แถลงถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับคำร้องขอให้พิจารณาสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ สิ้นสุดลงหรือไม่ และมี ส.ส.หลายคน ออกมากล่าวหาว่า นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้ทนราษฎร ทำหน้าที่ไม่ถูกต้อง ว่า ต้องเคารพในดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญที่ได้ดำเนินการตามกระบวนการวิธีพิจารณาคดี ซึ่งเหตุผลของคำวินิจฉัยคือส.ส.เข้าชื่อน้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนส.ส.เท่าที่มีอยู่เนื่องจากมี ส.ส.2 คนขอถอนชื่อจึงทำให้เหลือ ส.ส.ที่เขาชื่อ 48 คน ถือว่าไม่ครบ 1 ใน 10 ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82

นายราเมศ กล่าวต่อว่า การยื่นคำร้องของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้ยื่นคำร้องขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายสิระ สิ้นสุดลงหรือไม่ โดยได้ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 63  มี ส.ส.ร่วมกันลงชื่อ 62 คนปรากฏว่ามี ส.ส.ถอนชื่อจากคำร้อง 10 คน และมีการตรวจลายมือชื่อโดยฝ่ายสำนักงานเลขาธิการสภาฯไม่ตรงตามลายมือชื่อที่ได้ให้ไว้อีก 2 คน และวันที่ 28 ธ.ค.63 เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ จะเห็นได้ว่ากระบวนการทั้งหมดของประธานสภาฯ มีความชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 82 คำร้องที่ยื่นไปมีความสมบูรณ์ไม่มีขาดตกบกพร่องแต่อย่างใด และมีการแจ้งให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ทราบว่าได้ยื่นคำร้องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้ว


นายราเมศ กล่าวด้วยว่า วันที่ 28 ธ.ค.63 เวลา 14.45 และเวลา 14.50 น. มี ส.ส.2 คนได้ยื่นหนังสือขอถอนรายชื่อออกจากคำร้อง ซึ่งเลยเวลาที่เจ้าหน้าที่ได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญไปแล้ว และเมื่อเจ้าหน้าที่สภาฯรับหนังสือดังกล่าวก็ได้มีการส่งตรวจสอบลายมือชื่อตามกระบวนการ และได้นำเสนอผู้บังคับบัญชาตามขั้นตอนระบบราชการก็ได้มีการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 29 ธ.ค. 63 เวลา 16.20 น. เพราะถือว่าเมื่อเรื่องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญแล้วการถอนชื่อต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัยจะไปก้าวล่วงมิได้ แต่เมื่อวันที่ 6 ม.ค.64  พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ได้ยื่นเอกสารขอเพิ่มชื่ออีก 5 คน โดยหนังสือถึงสำนักงานประธาน เวลา 10.40 น. เจ้าหน้าที่ได้มีการส่งตรวจลายมือชื่อเวลา 13.00 น. ผลการตรวจสอบกลับมายังเจ้าหน้าที่วันที่ 7 ม.ค. 64 และมีการเสนอตามขั้นตอนราชการเสร็จเวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่สภาฯ ได้เดินทางไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญเวลา 15.50 น. แต่ปรากฏว่ามีข่าวของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ลงวันที่ 7 ม.ค.64 ระบุว่าได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาคดีไปแล้วเมื่อวันที่ 6 ม.ค.64  ดังนั้นกรณีขอเพิ่มชื่อ ส.ส.อีก 5 คน ศาลรัฐธรรมนูญจึงไม่สามารถรับเข้าสู่สำนวนได้เพราะได้มีคำสั่งไม่รับคำร้องไปแล้ว นอกจากนั้นยังมีกรณี 2 ส.ส.ที่ขอถอนชื่อไปแล้วนั้น ได้ทำหนังสือขอยกเลิกการถอนชื่อ ได้ยื่นถึงเจ้าหน้าที่สภาฯเมื่อวันที่ 7 ม.ค.64 ซึ่งเป็นกรยื่นหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งไม่รับคำร้องแล้ว ดังนั้นข้อเท็จจริงทั้งหมดจะเห็นได้ว่า นายชวน ได้ดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนที่ตรงไปตรงมา ถูกต้องชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ทุกประการ ดังนั้นกรณีที่ส.ส.พรรคก้าวไกลกล่าวหา ว่าวางตัวไม่เป็นกลางและ ต้องทบทวนตนเองนั้น  อยากให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนออกมาพูด

“คุณแน่ขนาดไหน ถึงมาพูดแบบนี้ ควรกลับไปดูตัวเองว่าทำหน้าที่ได้สมศักดิ์ศรี ความเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยหรือไม่ ควรจะตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อนมีการกล่าวหา ไม่ใช่พออะไรไม่ได้ดั่งใจก็ออกมาโวยวาย ออมาโจมตี อย่าทำตัวเป็นเด็กอมมือ ให้ร้ายประธานสภาฯ อยู่เป็นประจำ หนึ่งนิ้วที่ชี้หานายชวน แต่อีก 4 นิ้วกลับชี้เข้าสู่ตัวเองทั้งหมด ดังนั้นขอให้ทำตัวเองให้สมศักดิ์ศรีกับการเป็น ส.ส. จะดีกว่า ทำตัวเสมือนเป็นเด็กน้อยที่ไม่มีวุฒิภาวะ”นายราเมศ กล่าว  เมื่อถามว่า ก่อนที่จะมีการตัด 2 ชื่อที่ลายเซนต์ไม่เหมือนกับที่ให้ไว้ต่อสำนักงานฯได้แจ้งให้ ส.ส.ดังกล่าวทราบหรือไม่  นายราเมศ กล่าวว่า เมื่อเจ้าหน้าที่สภาฯได้ตรวจสอบเห็นว่ารายชื่อครบตามจำนวนแล้วส่งไปตามขั้นตอน  และตามปกติไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ส.ส.ที่ถูกตัดชื่อทราบ เพราะไม่มีผลอะไรเนื่องจากจำนวนครบแล้ว. สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

มท.2 รับกังวล จ.น่าน ที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม.

ก.มหาดไทย 23 ก.ค.-มหาดไทย ถกวอรูมติดตามสถานการณ์ “พายุวิภา” ห่วงพื้นที่เหนือ-อีสาน พื้นที่ราบเชิงเขา เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ด้าน มท.2 กำชับพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม-ความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เผยเตรียมลงพื้นที่เชียงราย-น่าน รับกังวลน่านที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม. สั่ง ปภ.-กรมชลฯ เร่งสูบน้ำ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยแห่งชาติหรือ บกปภ.ช. ประชุมตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์พายุ “วิภา” โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟัง และมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ ได้ติดตามภาพรวมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งจังหวัดแถบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ให้หลายจังหวัดจากอิทธิพลพายุวิภาในที่ประชุม กล่าวว่า ได้มีการรายงานสถานการณ์เป็นรายพื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่ติดภูเขา ที่ราบเชิงเขา โดยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการตรวจสอบสภาพดินที่ได้รับการสะสมของปริมาณฝนที่ตกลงมา ซึ่งมีลักษณะอุ้มน้ำ และความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก […]

ฝนถล่มน่าน น้ำเริ่มท่วมหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นรวดเร็ว

น่าน 23 ก.ค.-อิทธิพลจากพายุวิภา ทำให้ฝนถล่มน่านอย่างหนัก ปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตร น้ำเริ่มท่วมในหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จ.น่าน ขณะนี้ฝนตกหนักต่อเนื่องมาเกือบ 20 ชั่วโมงแล้ว และหลายพื้นที่โดยเฉพาะทางตอนเหนือวัดปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรเกือบ 20 สถานี ส่งผลให้ระดับน้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 30 เซนติเมตร แม้ว่าระดับน้ำน่านยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่มาก แต่ฝนที่ตกหนักติดต่อกันมาทั้งคืน โดยเฉพาะทางตอนเหนือของเมืองทั้งที่ปัว บ่อเกลือ เฉลิมพระเกียรติ ท่าวังผา และอีกหลายอำเภอ ซึ่งจากข้อมูลปริมาณน้ำฝนจากสถานีวัดของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก ในจังหวัดน่าน เมื่อเช้านี้พบปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรถึง 18 สถานี สูงสุดอยู่ที่สถานีต้นน้ำน้ำกอนฝั่งซ้าย ตำบลพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง สูงถึง 291 มิลลิเมตร นั่นทำให้บางพื้นที่ลุ่มต่ำเริ่มมีน้ำเข้าท่วมพื้นที่แล้ว อย่างที่อำเภอท่าวังผา เริ่มมีน้ำทะลักเข้ามาแล้ว รวมทั้งระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่สถานีวัดระดับน้ำ n64 บ้านผาขวาง เหนือเมืองน่านไป 30 กิโลเมตร เพิ่มเป็น 7 เมตร […]

เตือนเฝ้าระวังดินถล่มใน 21 จังหวัด แม้ “วิภา” อ่อนกำลัง

กรุงเทพฯ 23 ก.ค.-กรมทรัพยากรธรณี แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังดินถล่มในพื้นที่ 21 จังหวัด จากผลกระทบพายุ “วิภา” แม้ขณะนี้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว แต่อิทธิพลของร่องมรสุมยังคงส่งผลให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันตกมีฝนตกหนักต่อเนื่อง นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า กรมฯ ยังคงเปิดศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย (War Room) เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยมีเป้าหมายเพื่อประเมินความเสี่ยง วิเคราะห์ข้อมูล และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ จากการวิเคราะห์ข้อมูลฝนสะสมควบคู่กับแบบจำลองธรณีพิบัติภัย พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มกระจายอยู่ใน 21 จังหวัด ได้แก่ -ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย อุดรธานี หนองคาย-ภาคตะวันออก: จันทบุรี ตราด-ภาคตะวันตก: กาญจนบุรี ราชบุรี-ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: ระนอง พังงา […]

เตรียมเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์ใช้รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย

กรุงเทพ 23 ก.ค.-“สุริยะ” แจ้งข่าวดี เตรียมเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์ใช้รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” ดีเดย์ 25 ส.ค.นี้ เป็นต้นไป ยันระบบไม่ล่ม แนะประชาชนลงทะเบียนได้ต่อเนื่อง-ไม่มีวันหมดอายุ ก่อนเริ่มใช้บริการ 1 ต.ค.68 มั่นใจหลังเริ่มประกาศใช้ดันผู้โดยสารเพิ่มขึ้นกว่า 20% นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันที่ 25 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป เตรียมเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท (20 บาทตลอดสาย) ผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ iOS และ Android ภายใต้เงื่อนไขว่า จะต้องเป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย โดยจะต้องระบุเลขที่บัตรประชาชน 13 หลัก บัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรโดยสาร (Rabbit Card ที่ลงทะเบียน) ที่จะใช้งานกับระบบรถไฟฟ้า ซึ่งบัตรที่ได้รับการยืนยันการลงทะเบียนจะได้สิทธิการใช้มาตรการโดยอัตโนมัติ หากไม่ลงทะเบียน […]