รัฐสภา 27 ส.ค- “ยุทธพงศ์” อัดรัฐบาล ยื้อถกงบเรือดำน้ำ หวั่นฆ่าเวลาผ่านงบอัตโนมัติ มั่นใจสภาฯล่มเรือดำน้ำได้ หาก ปชป.ไม่กลับมติ
นายยุทธพงศ์ จรัสเถียร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เปิดเผยว่า ที่ประชุมเมื่อวานนี้ฝ่ายรัฐบาลได้ใช้เสียงข้างมากปิดประชุม เพื่อไม่ให้มีการพิจารณารายงานของคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ เรื่องของงบเรือดำน้ำ โดยที่ไม่ขอญัตติให้ชัดเจนว่าจะไปพิจารณาในวันใด มีเพียงนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธาน ที่ออกไปให้สัมภาษณ์สื่อว่าได้เลื่อนการพิจารณาในวันที่ 31 สิงหาคม จึงตั้งคำถามว่า แบบนี้กรรมธิการถูกรัฐบาลชี้นำหรือไม่
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ตนมองว่าแม้จะพยายามถ่วงเวลา และหากผ่านความเห็นชอบในชั้นกรรมาธิการไปได้ ก็จะมีปัญหาในที่ประชุมใหญ่สภาฯ เพราะ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันชัดเจนว่าที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์มีมติไม่เอาเรือดำน้ำ ดังนั้นเมื่อเสียงของพรรคประชาธิปัตย์มารวมกับพรรคฝ่ายค้านก็จะมากเกินครึ่งหนึ่งของเสียงในสภา จึงสามารถคว่ำเรือดำน้ำได้ และเป็นที่ทราบกันดีว่า เมื่อมาตราใดถูกคว่ำไปในสภา ก็จะเป็นปัญหาต่อร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ทั้งฉบับ เพราะคงไม่มีพรรคการเมืองใดกล้าให้ความเห็นชอบ และเมื่อถูกตีตกตามมารยาทก็จะต้องมีการยุบสภา
ต่อข้อถามว่าหากพรรคประขาธิปัตย์กลับมติไปสนับสนุนเรือดำน้ำจะเกิดอะไรขึ้น นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ต้องไปถามพรรคประขาธิปัตย์เพราะคนที่พูดเรื่องนี้เป็นกรรมาธิการของพรรคประชาธิปัตย์ และบางคนเป็นถึงประธาน ส.ส.ของพรรค เหตุใดจึงจะมากลับมติได้ ส่วนที่มีข่าวว่ากรรมาธิการฝ่ายรัฐบาลจะเชิญกองทัพเรือมาชี้แจงอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (28 ส.ค.) นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ขั้นตอนการชี้แจงได้ผ่านไปแล้ว หากจะอ้างว่ายังไม่ชัดเจน เหตุใดปัญหาการตัดงบประกันสังคมเมื่อวานนี้ ( 26 ส.ค. ) กว่า 15,000 ล้านบาท จนต้องถอนเรื่องไป ทำไมไม่เชิญส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพิ่มด้วย อีกทั้งความพยายามยื้อเวลาครั้งนี้ เชื่อว่าต้องการให้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ผ่านความเห็นชอบจากสภาโดยอัตโนมัติหรือไม่ เพราะตามกฎหมายมีการกำหนดกรอบเวลาว่า หากพิจารณาไม่เสร็จภายใน 105 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 28 ก.ย. ก็ถือว่า สภาให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณโดยอัตโนมัติ
นายยุทธพงศ์ ยังได้นำตัวอย่างเอกสารการมอบอำนาจเพื่อให้หน่วยงานลงนามการจัดซื้อแบบจีทูจี แทนนายกรัฐมนตรี หรือที่เรียกว่า Full powers มาแสดงต่อสื่อมวลชน โดยเรียกร้องให้กองทัพเรือที่อ้างว่ามีการจัดซื้อเรือดำน้ำแบบจีทูจี และมีการมอบอำนาจมาจากนายกรัฐมนตรีนั้น ให้นำเอกสารฉบับนี้มาแสดงเพื่อความโปร่งใส เพราะถ้าจัดซื้อแบบจีทูจีจริง จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจฉบับนี้ ซึ่งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ออกมายืนยันว่ามีเอกสารทั้งหมดถูกต้อง ก็ควรนำมายืนยันเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ.-สำนักข่าวไทย