ทร. แจงเหตุทำร้ายโจ๋ขี้เมา เย็บ 11 เข็ม ต้นสังกัดตั้งสอบแล้ว

กองทัพเรือ 9 ธ.ค.-โฆษก ทร. แจงเหตุ จ่า ทร.ทำร้ายโจ๋ขี้เมา เย็บ 11 เข็ม ด้าน ต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการสอบ ย้ำ ไม่มีนโยบายใช้ความรุนแรง


พลเรือเอก พาสุกรี วิลัยรักษ์ โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงข่าวกรณีสื่อมวลชนหลายสำนักนำเสนอข่าว ประชาชนเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ให้ดำเนินคดีกับทหารกองรักษาการณ์ของฐานทัพเรือสัตหีบ ในข้อหาทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฉกรรจ์ที่บริเวณหน้าผาก และบอบช้ำตามร่างกาย โดยเข้ารับการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสัตหีบ ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่า ต้องเย็บบาดแผลที่บริเวณหน้าผากจำนวน 11 เข็ม

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2567 ประมาณเวลา 23.00 น. ขณะที่ พันจ่าเอก สุรยุทธ อายุ 59 ปี ปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยผู้บังคับกองรักษาการณ์ ประตูทางเข้าฐานทัพเรือสัตหีบ ได้ตรวจพบกลุ่มชายวัยรุ่น ล้อมวงดื่มสุราส่งเสียงดังบริเวณหน้าโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ในความรับผิดชอบของฐานทัพเรือสัตหีบ จึงได้เข้าไปตักเตือน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองรักษาการณ์ อีก 2 นาย ซึ่งส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ แต่มีเพียงกลุ่มบุคคลดังกล่าว ที่ไม่ให้ความร่วมมือ และเกิดความไม่พอใจ และเข้ามาจะทำร้ายร่างกายพันจ่าเอกสุรยุทธ โดยระหว่างนั้น มีพลเมืองดีมาช่วยห้ามปราม เป็นเหตุให้กลุ่มวัยรุ่นที่ไม่พอใจและกลุ่มพลเมืองดีที่เข้าห้ามปรามได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย และได้มีการเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น


โฆษกกองทัพเรือ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของพันจ่าเอกสุรยุทธ์ ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้สั่งให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว กองทัพเรือ ขอเรียนให้ทราบว่ากองทัพเรือ ไม่เคยมีนโยบายในการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ สำหรับในส่วนของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ทางกองทัพเรือติดตามดูแลอาการอย่างใกล้ชิด-313 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ยกหูคุย “ฮุน มาเนต” คลี่คลายเหตุปะทะชายแดน

รัฐสภา 28 พ.ค.- นายกฯ รับทราบเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เผยยกหูคุยตรง “นายกฯ ฮุน มาเนต” ให้สถานการณ์คลี่คลายเร็วที่สุด ปัดตอบกรณี “ทักษิณ” ประกาศสงครามกับว้าแดง-สถานการณ์ใต้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ในเวลา 17.40 น. ถึงสถานการณ์ชายแดนไทยไทย-กัมพูชา บริเวณด่านช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่า ได้รับรายงานแล้ว และจะมีการพูดคุยกันของผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ส่วนตนเองได้พูดคุยกับกระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งเดี๋ยวก็คงมีข้อตกลงกันออกมา ขณะเดียวกัน ตนเองก็ได้มีการพูดคุยกับ พลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วย ไม่มีอะไร ซึ่งมีความเข้าใจตรงกันว่าจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงโดยเร็วที่สุด และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อีก ส่วนจะมีการใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีสองประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของตนเองกับนายกฯ กัมพูชา ก็เป็นไปได้ด้วยดี เมื่อถามว่า กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศสงครามกับว้าแดง เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด รัฐบาลมีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่ะ ส่วนเหตุการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ในวันนี้ […]

ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคาม หลังพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดน

กองทัพอากาศ 28 พ.ค.- ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคามต่อประเทศ หลังตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.03 น. กองทัพอากาศได้สั่งการให้เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 เครื่อง จากหน่วยบิน กองบิน 4 ปฏิบัติภารกิจการบินป้องกันทางอากาศ วิ่งขึ้นจากสนามบินตาคลี หลังหน่วยควบคุมอากาศยานและแจ้งเตือน ตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เครื่องบินต้องสงสัยลำดังกล่าว เป็นอากาศยานสมรรถนะสูงแบบ YAK-130 มีทิศทางบินมุ่งเข้าสู่เขตแดนไทยในระยะใกล้ กองทัพอากาศ จึงสั่งการบินพิสูจน์ทราบและแสดงท่าทีป้องปราม ตามมาตรการปกติ เพื่อเฝ้าระวังและยืนยันสถานการณ์ จากการติดตามพบว่า เครื่องบินดังกล่าวได้เปลี่ยนทิศทางและออกจากเขตใกล้ชายแดนไทย ในเวลา 13.16 น. โดยไม่แสดงพฤติกรรมรุกราน หรือมีเจตนาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศแต่อย่างใด “กองทัพอากาศ ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจปกติในการเฝ้าระวังป้องกันน่านฟ้า ซึ่งกองทัพอากาศดำเนินการอย่างเข้มแข็งและสม่ำเสมอ เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ สร้างความปลอดภัย และความมั่นใจให้แก่ประชาชน” โฆษกกองทัพอากาศ กล่าว ทั้งนี้ […]

นายกฯ ถกปม ฮ.ตำรวจตก สั่งเร่งสำรวจอากาศยานทุกลำ

ทำเนียบ 28 พ.ค.- นายกฯ หารือ ผบ.ตร. รายงานข้อมูลอุบัติเหตุ ฮ.ตำรวจตก พบอากาศยานของกองบินตำรวจอายุใช้งานยาวนาน-ขาดการซ่อมบำรุงที่สมบูรณ์ สั่งเร่งสำรวจลำดับความสำคัญจัดงบฯ ซื้อใหม่ ห่วงสวัสดิภาพความปลอดภัยของ ตร. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียภายหลัง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เข้าพบบนตึกไทยคู่ฟ้า ว่า จากกรณีเครื่องบินของกองบินตำรวจประสบอุบัติเหตุตกในช่วงที่ผ่านมา วันนี้ดิฉันได้เรียนเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และกองบินตำรวจ มารายงานข้อมูลถึงสาเหตุของเหตุการณ์ รวมถึงแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต จากรายงานพบว่า อากาศยานของกองบินตำรวจ ทั้งเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ จำนวนมากมีอายุการใช้งานยาวนาน และขาดการซ่อมบำรุงที่สมบูรณ์ จนอาจเป็นอันตรายต่อการปฏิบัติภารกิจ ดิฉันได้สั่งการให้กองบินตำรวจเร่งสำรวจสถานะของอากาศยานทุกลำ ทั้งที่ยังใช้งานอยู่ อยู่ระหว่างซ่อมบำรุง หรือพิจารณาปลดประจำการ เพื่อจัดลำดับความสำคัญในการจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอ รวมถึงการจัดหาเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ใหม่ให้เหมาะสมกับภารกิจในอนาคต เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ปกป้องชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน แต่ชีวิตความปลอดภัย และสวัสดิภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน .-316 -สำนักข่าวไทย

เสียงปืนสนั่นชายแดนพบพระ ผู้ปกครองไม่กล้าพาลูกไป รร.

ตาก 28 พ.ค. – เช้านี้สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ตึงเครียดหนัก ทหารกะเหรี่ยงและทหารเมียนมายิงปะทะกันด้วยอาวุธหนัก ติดชายแดน อ.พบพระ จ.ตาก ผู้ปกครองไม่กล้าพาบุตรหลานมาโรงเรียนแนวชายแดน และบางส่วนพึ่งหลุมหลบภัย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดความตึงเครียดบริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา โดยกองกำลังทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ( KNLA ) พร้อมทหารหน่วยพิทักษ์ประชาชน (PDF) จำนวนมากพร้อมอาวุธครบมือ ซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านทหารเมียนมาได้บุกโจมตีทหารเมียนมา จากกองบังคับการควบคุมยุทธการที่ 13 จำนวนกว่า 70 คน ที่กำลังเดินทัพไปเสริมกำลังที่ฐานบ้านทิบาโบ แต่ระหว่างทางถูกทหารกะเหรี่ยงเข้าสกัดจนเกิดการยิงปะทะด้วยอาวุธหนักนานกว่า 1 ชั่วโมง ที่บริเวณสนามกีฬาบ้านส่งซี่เมี่ยน อำเภอซูการี จังหวัดเมียวดี ฝั่งตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ห่างแนวชายแดนไทยไปไม่ถึง 1กิโลเมตร รวมถึงทหารเมียนมาจากฐานทิบาโบ ซึ่งเป็นฐานขนาดใหญ่ ก็ได้ระดมยิงอาวุธหนักเข้าช่วยเหลือทหารเมียนมาด้วย เกิดเสียงระเบิดดังไปทั่วแนวชายแดน ทำให้ชาวบ้าน หมู่บ้านมอเกอไทย ซึ่งเป็นหมู่บ้านฝั่งไทยที่ติดกับพื้นที่ยิงปะทะ เตรียมความพร้อมไปอยู่ในหลุมหลบภัย ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียน มอเกอไทย เผยว่า วันนี้เปิดเรียนตามปกติแต่มีเด็กมาเรียนน้อย เนื่องจากผู้ปกครองส่วนใหญ่เกรงเรื่องความปลอดภัยจึงให้บุตรหลานหยุดเรียน โดยมีทหารชุดเฉพาะกิจราชมนู เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านมอเกอ […]