ผบ.ทร. ยัน 3 ปีได้เรือดำน้ำเข้าประจำการ

ราชนาวิกสภา 13 ส.ค.- ผบ.ทร. เตรียมส่ง ‘อัยการสูงสุด’ ก่อนแก้ข้อตกลง ‘เรือดำน้ำ’ ยัน 3 ปี ได้เรือเข้าประจำการ คู่ขนานสร้าง ‘ท่าเรือ-อบรมกำลังพล’ เผย ครม.เห็นชอบ ‘ฟริเกต’ 2 ลำ แม้ให้งบแค่ 1 ลำ แต่เปิดทางให้ลำที่ 2 หากรัฐบาลอนุมัติงบต่อ ไม่จำเป็นต้องคัดเลือกใหม่ ดึง ‘อุตสาหกรรมต่อเรือในประเทศ’ ร่วมลงทุน ยืนยัน ทร. ไม่มีให้ ‘สหรัฐ’ ตั้งฐานทัพที่ จ.พังงา แต่ต้อนรับทุกมิตรประเทศ เผย ทร. ทบทวนแผนพัฒนาท่าเรือฝั่งอ่าวไทย-อันดามัน ดูตามสถานการณ์ จับตาท่าทีความสัมพันธ์สหรัฐ-กัมพูชา


พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้สัมภาษณ์กรณี ครม. เห็นชอบแก้ไขข้อตกลงโครงการเรือดำน้ำ เปลี่ยนใช้เครื่องยนต์ดีเซลขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า CHD620 ของจีน พร้อมขยายระยะเวลาส่งมอบเรือ 1,217 วัน ว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ จะเป็นการร่างสัญญาในการแก้ไขข้อตกลง 2 ฝ่าย และต้องผ่านอัยการสูงสุดเพื่อให้ความเห็นชอบและจะลงนามแก้ไขข้อตกลง เมื่อลงนามเสร็จจะเริ่มนับสัญญาใหม่ต่อไปอีกราว 1,200 กว่าวัน หรือภายใน 3 ปี จากนั้นจะเป็นการบริหารและการต่อเรือจะดำเนินการต่อไป โดยในอีก 3 ปี เราจะได้เห็นว่าเรือดำน้ำจะมีคุณภาพอย่างไร

ส่วนท่าเรือดำน้ำ ผบ.ทร. ระบุว่า ได้ดำเนินการตั้งแต่เริ่มเซ็นสัญญาและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันต้องไปเก็บงานว่าในส่วนใดยังไม่เรียบร้อยและส่วนใดเรียบร้อยแล้ว


ทั้งนี้สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการเตรียมกำลังพลประจำเรือ เนื่องจากโครงการของเราหยุดชะงักมาเกือบ 3 ปี ก็ต้องทบทวนอีกครั้งว่ากำลังพลที่ต้องไปประจำเรือยังมีความตั้งใจกันอยู่หรือไม่ หรือบางคนก็เติบโตขึ้น ก็ต้องมีการคัดเลือกกำลังพลเพิ่มเติม เพื่อให้ครบตามจำนวน

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กัมพูชากับสหรัฐอเมริกา จากเดิมที่ไม่มีความใกล้ชิดกัน ซึ่งต่างกับปัจจุบัน กองทัพเรือต้องติดตามท่าทีสองประเทศหรือไม่นั้น ผบ.ทร. ระบุว่า เป็นเรื่องที่เราต้องเฝ้าดู เพราะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเปลี่ยนไปได้ตลอด ขึ้นอยู่กับว่าใครจะรักษาผลประโยชน์ของประเทศของตนเองอย่างไร ซึ่งประเทศไทยเองก็ต้องติดตามด้วยเช่นกัน เราจะมีระยะห่าง หรือ ระยะใกล้กับประเทศที่เป็นมิตร หรือประเทศที่ไม่เป็นมิตรอย่างไร ต้องคอยดูว่าท่าทีของแต่ละประเทศเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่ที่ผลประโยชน์ของประเทศ แต่ก็ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ ผบ.ทร. กล่าวย้ำว่า โครงการเรือดำน้ำผ่านไฟเขียวจาก ครม. ให้ดำเนินการต่อเรือใน 1 ลำก่อน ซึ่งกว่าจะดำเนินการแก้สัญญา และกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จนั้น ต้องใช้ระยะเวลา 3 ปี สำหรับโครงการเรือฟริเกตก็ยังจำเป็นที่จะต้องจัดหาอย่างต่อเนื่อง


“ปัจจุบัน ครม. อนุมัติโครงการให้ 2 ลำแล้ว แม้ว่าจะได้เงินงบประมาณแค่ลำเดียวก็ตาม แต่เมื่อได้ลำที่หนึ่ง ก็เป็นการเปิดทางให้กับลำที่ 2 หากรัฐบาลอนุมัติงบต่อ ก็จะเป็นโครงการที่ต่อเนื่องกันไปเลย ไม่จำเป็นที่จะต้องคัดเลือกใหม่ โดยจะเป็นเรือชุดเดียวกัน ยกเว้นว่ารัฐบาลล่าช้า ในการดำเนินโครงการเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมา เพราะมีเรื่องเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ต้องติดตามโครงการอย่างต่อเนื่อง” ผบ.ทร. กล่าว

พร้อมกันนี้ ผบ.ทร. ได้ฝากถึงอุตสาหกรรมต่อเรือในประเทศ เพราะกองทัพเรือมีแนวคิดที่จะร่วมกับอุตสาหกรรมต่อเรือในประเทศ ในการดำเนินโครงการให้เป็นผลสำเร็จ เพื่อประโยชน์กับอุตสาหกรรมต่อเรือในประเทศ รวมถึงรัฐบาลด้วยเช่นเดียวกัน เพราะจะเพิ่มเม็ดเงินหมุนภายในประเทศ และจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจภายในประเทศเติบโตขึ้นด้วย

เมื่อถามถึงกระแสข่าวไทยจะให้สหรัฐฯ ใช้ฐานทัพเรือพังงา แต่ตามข้อตกลงไทยเปิดให้หลายประเทศใช้ส่งกำลังบำรุง-จอดแวะพักได้ ไม่ใช่ตั้งฐานทัพ ว่า การเข้ามาเยี่ยมของมิตรประเทศ เรายินดีต้อนรับทุกประเทศ และไม่มีข้อแม้อะไร ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ มีมาอย่างยาวนาน หากสหรัฐฯ เข้ามาเราก็จะสนับสนุนเขาในเรื่องใดบ้าง เช่นเดียวกันกับที่เราไปเยี่ยมเยือนสหรัฐฯ เขาก็จะมีเรื่องสนับสนุนเรา

สำหรับฐานทัพเรือพังงาเป็นฐานทัพเรือที่ขนาดเล็ก แต่เรามีแผนที่จะขยายขีดความสามารถในฝั่งทะเลอันดามันก็เลยกลายมาเป็นประเด็นที่ว่าใครจะมาสนับสนุนอะไรหรือไม่อย่างไร ก็ตามอยู่ที่ความจำเป็นว่าปัจจุบันสถานการณ์เป็นแบบนี้ ต้องมีการทบทวนว่าจำเป็นที่จะต้องไปทุ่มเทงบประมาณในฝั่งอันดามันหรือไม่ หรืออาจจะต้องมาสนใจทางฝั่งอ่าวไทย โดยทางกองทัพเรืออยู่ระหว่างการทบทวนสถานการณ์ เพื่อดูว่าแผนเสริมสร้างในการพัฒนาท่าเรือนั้นเราจะมุ่งไปในทิศทางใด เนื่องจากงบประมาณของเราไม่ได้มีรองรับในทุกโครงการ จึงจำเป็นที่จะต้องเลือกโครงการที่จำเป็นและสอดคล้องกับสถานการณ์จริงๆ

ทั้งนี้ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายให้ความสนใจ แต่หากมีการพัฒนาฝั่งอันดามันหลายคนก็อยากแวะไปเหมือนกัน เพราะฝั่งอันดามันฐานทัพท่าเรือไม่ค่อยมี-313 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

เปิดแนวต้านน้ำหล่มสัก ผลักดันแผนแก้น้ำท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 22 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก ที่เพชรบูรณ์ จะลดลงแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะย่านการค้าเก่าแก่ที่เจอน้ำท่วม 2 รอบในช่วง 3 สัปดาห์ เรียกว่ายังไม่ทันได้ฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำท่วมรอบแรกเสร็จ ต้องมาเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะที่หลายคนกังวลและต้องเตรียมรับมือกับพายุที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงปลายสัปดาห์นี้ พร้อมเรียกร้องให้เร่งป้องกันและหาแนวทาง แก้ปัญหาระยะยาว ไม่ให้หล่มสักกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก .-สำนักข่าวไทย

ฝนถล่มเชียงใหม่ ประกาศปิดน้ำตกแม่สา ส่วนวัดผาลาด เตือนน้ำป่าหลาก

เชียงใหม่ 22 ก.ย.-ฝนถล่มเชียงใหม่ อุทยานฯ ดอยสุเทพ-ปุย ประกาศปิดน้ำตกแม่สา อ.แม่ริม ชั่วคราว หลังน้ำป่าไหลหลาก ส่วนวัดผาลาด แจ้งเตือนชาวบ้านรับมือน้ำป่าหลากลงน้ำตกผาลาด ช่วงบ่ายวันนี้ ( 22 กันยายน) เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เพจเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้โพสต์ข้อความประกาศปิดน้ำตกแม่สา ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เนื่องจากเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากลงมาจนน้ำมีสีน้ำตาลขุ่น กระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวกราก โดยจะปิดน้ำตกแม่สาตั้งแต่วันนี้จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่พระมหาสง่า ไชยวงค์ เจ้าอาวาสวัดผาลาด ก็ได้โพสต์คลิปภาพวิดีโอ พร้อมข้อความ “มวลน้ำจากยอดดอยกำลังผ่านวัดผาลาด ญาติโยมด้านล่างช่วงนี้ก็เฝ้าไว้เน้อ” ซึ่งทางวัดผาลาดจะมีการแจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ทางน้ำไหลน้ำตกผาลาด และบริเวณเชิงดอยสุเทพในตัวเมืองเชียงใหม่ ให้เฝ้าระวังน้ำป่าที่ไหลผ่านวัดลงสู่ด้านล่างทุกครั้ง สำหรับวัดผาลาดตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ และมีน้ำตกผาลาดไหลผ่านพื้นที่วัดช่วงที่เกิดฝนตกหนัก จะมีน้ำป่าไหลหลากจากบนดอยสุเทพผ่านน้ำตกผาลาด ก่อนจะไหลลงสู่พื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่.-สำนักข่าวไทย

กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ชี้ JBC รับรองแล้ว

กทม. 22 ก.ย.- กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน ชี้ JBC รับรองแล้ว สอดคล้อง MOU 2543 พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึงประเด็นหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 ในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้วว่า หลักเขตแดนที่ 42 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว (บ้านไปรจัน) ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และหลักเขตแดนที่ 43 ตั้งอยู่ที่บ้านโนนหมากมุ่น ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยการกำหนดแนวเขตแดนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นตรงจากหลักเขตแดนที่ 41 มายังหลักเขตแดนที่ 42 และต่อเนื่องไปยังหลักเขตแดนที่ 43 จากนั้นแนวเขตแดนจะไปตามคลองระลมระสือจนถึงหลักเขตแดนที่ 44 สำหรับกระบวนการสำรวจ ชุดสำรวจร่วมไทย–กัมพูชาได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 ของ TOR คือ การสำรวจสภาพ และที่ตั้งของหลักเขตแดนทั้งหมด 74 หลัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. […]

ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบกองปราบ

22 ก.ย.- ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบ ขณะที่สีกาเยอรมนีเตรียมนั่งเครื่องเข้าพบตำรวจ 2 ต.ค.นี้ หลังจากที่นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี พร้อมทีมทนายความ ได้มีการตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงประเด็นที่ น.ส.ทองใหม่ ขวัญหมื่น หรือ ทนายอุ้ม ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากสีกาจากประเทศเยอรมนี เข้ามาร้องเรียนที่กองบังคับการปราบปราม กล่าวหาว่า พระคึกฤทธิ์ ยักยอกเงินวัด ก่อนนำมาฟอกกับมูลนิธิพุทธวจนที่ประเทศเยอรมนีนั้น ความเคลื่อนไหวล่าสุดวันนี้ (22 ก.ย.68) เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม กองกำกับการ 2 นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี และทีมทนายความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยนำเอกสารเป็นพยานหลักฐานเกี่ยวกับเส้นเงิน เงินบริจาคภายในวัด มามอบให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงในประเด็นต่างๆ โดยใช้เวลาในการชี้แจงกับพนักงานสอบสวนไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับทันที และไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด หลังจากนั้นทีมข่าวได้ติดต่อไปที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดนาป่าพง โดยเฉพาะเงินที่เปิดรับบริจาคทั่วประเทศ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิดจริง […]