กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ระบุกองทัพเรือควรชะลอการจัดซื้อเรือดำน้ำไว้ก่อน แม้จะเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นต้องมี เพื่อการป้องปรามและอำนาจต่อรอง แต่สถานการณ์ปัจจุบันควรเก็บเงินไว้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ผลกระทบจากโควิด-19
นายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง ยอมรับว่า การจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือนั้น มีความสำคัญและจำเป็นต้องมีเพื่อการป้องปรามและเพื่อเป็นอำนาจการต่อรอง แต่ก็ต้องยอมรับว่า ขณะนี้ มีปัญหาเรื่องโควิด-19 ที่จำเป็นต้องใช้งบประมาณ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซ้ำอีกรอบและใช้งบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งถือว่าจำเป็นกว่าการซื้อเรือดำน้ำในเวลานี้ เพราะงบประมาณมีอยู่อย่างจำกัด แม้ว่ามีหลายอย่างที่จำเป็น แต่ก็ต้องพิจารณาสิ่งที่จำเป็นที่สุด ซึ่งในขณะนี้ก็คือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพราะคนตกงานจำนวนมากจากผลกระทบของโควิด ยืนยันว่า เห็นใจกองทัพที่อาวุธก็จำเป็น แต่ก็ต้องสงวนเงินไว้รองรับโควิดที่ต้องใช้เงินอีกเยอะ
นายสมชาย กล่าวว่า กองทัพควรขอผ่อนผันการจัดซื้อเรือดำน้ำไปก่อน เพราะประเทศไทยต้องใช้เงินเพื่อรองรับสถานการณ์อีกนานกว่า 4-5 ปี รอให้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ผ่านพ้นไปแล้ว ไม่ใช่ว่าจะไม่ซื้อเรือดำน้ำ แต่ขอให้เสนอมาตรการผ่อนผันกับทางจีนไปก่อน
นายสมชาย กล่าวถึงกรณีที่กองทัพเรือชี้แจงงบประมาณส่วนที่ซื้อเรือดำน้ำ เป็นคนละส่วนกับงบประมาณที่แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ว่า จริง ๆ แล้ว เวลามีปัญหาเกิดขึ้น แม้เงินจะคนละกอง แต่ก็ต้องเกลี่ยงบประมาณมาช่วยเหลือ และยิ่งเวลานี้ สถานการณ์ไม่ได้จบง่าย ๆ ปัญหาความยากจนจะหนักขึ้น เงินก็มีจำกัด จึงต้องรักษาเงินไว้ให้สิ่งที่สำคัญที่สุด แม้กระทั่งเงินที่จำกัดไว้ก็อาจจะไม่เพียงพอต่อการรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจและช่วยเหลือคนตกงาน ตลอดจนพัฒนาขีดความสามารถด้วย
เมื่อถามว่า ตามที่กองทัพเรือชี้แจงว่า หากไม่ซื้อเรือดำน้ำในปีงบประมาณ 2564 อาจจะกระทบกับความน่าเชื่อถือในเชิงพาณิชย์นั้น มองอย่างไร นายสมชาย กล่าวว่า หากไม่ซื้อ จีนอาจจะไม่พอใจ อาจจะขึ้นราคา ก็เหมือนกับไปซื้อสินค้าทั่วไป คือ ก็อยากซื้อสินค้านั้น เพราะจำเป็นต้องมีไว้ แต่ก็ต้องช่างน้ำหนัก และเตรียมเงินไว้แก้ปัญหา ส่วนของที่แพงขึ้น แล้วจำเป็นต้องซื้อ ก็ให้ซื้อในคราวหลัง ก็ไม่มีปัญหา เมื่อมองในโลกของการแข่งขัน จะพบว่า จีนก็มีคู่แข่งกับสหรัฐอเมริกาในการแย่งลูกค้า ดังนั้น จีนก็จำเป็นต้องอะลุ่มอะหล่วย ประกอบกับจีนก็น่าจะเห็นใจไทย ดังนั้น ในเวลานี้ควรให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจและการอยู่รอดมากกว่า
เมื่อถามว่าคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2564 จะผ่านงบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการชี้แจงและอธิบายของกองทัพเรือ แต่ส่วนตัวยังเห็นว่า ควรชะลอการจัดซื้อออกไปก่อน
เมื่อถามว่า หากสุดท้ายแล้ว งบประมาณจัดเรือดำน้ำผ่าน จะส่งผลกระทบอะไรหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า แม้ขณะนี้ ประเทศจะไม่ได้อยู่ในภาวะสงคราม แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ บางประเทศอาจจะมีการแสดงพลัง การสร้างอาวุธไม่ใช่เป็นสิ่งที่ไม่ดี ถ้าหากว่าเป็นการสร้างอาวุธไว้เพื่อช่วยในการสร้างพลังการต่อสู้ แต่ในยามสงบ อาวุธก็จำเป็นต้องมีพอสมควร เพื่อป้องปรามไม่ให้ไทยเสียเปรียบคู่แข่งเพราะเมื่อไหร่ที่เสียเปรียบคู่แข่ง คู่แข่งก็สามารถกดดันไทยได้ทันที ดังนั้นอาวุธก็มีความจำเป็นในแง่ที่มีไว้เพื่อถ่วงดุล อย่างเช่น เกาหลีเหนือ ที่มีอาวุธเอาไว้เพื่อป้องกันตนเองจากสหรัฐอเมริกาหรือประเทศอื่น ทำให้ประเทศอื่นไม่กล้าเล่นงาน เพียงแต่ในขณะนี้ต้องยอมรับว่ามีความจำเป็นในสองเรื่อง แต่มีเรื่องที่จำเป็นมากกว่าจึงต้องชะลอเรื่องที่จำเป็นน้อยกว่าไปก่อน.-สำนักข่าวไทย