กรุงเทพฯ 12 มี.ค. – “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ พร้อมสู้คดีในชั้นศาล หาก “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ฟ้อง ย้ำทุกอย่างทำเพื่อสมาคมและสโมสร
“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยทางโทรศัพท์กับทีมข่าวสำนักข่าวไทย ถึงเรื่อง “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่ระบายความรู้สึกทั้งน้ำตา หลังออกมาเปิดใจจากกรณีศาลฎีกาพิพากษาให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนเงิน 360 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยนับจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ คาดว่าอีกประมาณ 200 กว่าล้านบาท รวมเป็นเงินมากกว่า 500 ล้านบาท ที่ตัวเอง และสภากรรมการชุดเก่า ได้ยกเลิกสัญญากับบริษัท สยามสปอร์ต อย่างไม่เป็นธรรม นำไปสู่ความเสียหายที่กระทบต่อวงการฟุตบอลไทย และทำให้ต้องเข้ามารับช่วงต่อบริหารสมาคม กับหนี้สินอีกก้อน 132 ล้านบาท ในวันเข้ารับตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คนที่ 18 วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567
บิ๊กอ๊อด กล่าวว่า ไม่ได้กังวลหากมาดามแป้งจะฟ้องก็เป็นสิทธิที่มาดามแป้งจะทำ ส่วนตัวยืนยันว่าพร้อมชี้แจงในชั้นศาลทุกอย่าง ซึ่งทุกเรื่องที่โดนกล่าวหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องยกเลิกลิขสิทธิ์นั้น จริงเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นการยกเลิกลิขสิทธิ์ แต่ยกเลิกบริษัทสยามสปอร์ต ที่เป็นคนดูแลสิทธิประโยชน์ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ในยุคก่อนหน้านี้ และทำให้บริษัทสยามสปอร์ต เสียหาย เนื่องจากบริษัทเขาได้เตรียมซื้อรถโมบายถ่ายทอดสด และการเตรียมอุปกรณ์ในการถ่ายทอดสดล่วงหน้า ทำให้เขามีผลกระทบจนเกิดความเสียหาย ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ฟุตบอล เพราะทรูที่ซื้อสิทธิไปยังจ่ายเงินให้กับสมาคมปกติ และมีอีกหลายเรื่องที่ทำไปเพื่อประโยชน์ต่อสมาคมและสโมสรสมาชิก เกี่ยวกับการยกเลิกการดูแลสิทธิประโยชน์ของสยามสปอร์ตในช่วงนั้น
ส่วนเรื่องจ้างทนายความสู้คดีจำนวน 30 ล้านบาทนั้น คดีอาญากับคดีแพ่ง ก็เป็นไปตามปกติอยู่แล้ว คดีอาญา ค่าใช้จ่ายถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับคดี ส่วนคดีแพ่ง ในค่าทนายความขึ้นอยู่อกับเปอร์เซ็นต์ การฟ้องร้องของจำนวนเงิน
เรื่องขายสิทธิ Data Analysis ที่เป็นข้อมูลจากการถ่ายทอดสดนั้นก็ไม่ได้ไปขายข้อมูลลับอะไร ซึ่งสมาคมในปัจจุบันก็ได้เงินอยู่ ถ้าเห็นว่าไม่เหมาะสม ทำไม่สมาคมไม่สั่งยกเลิก
ส่วนเงินกู้ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า จำนวน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 155 ล้านบาท ตอนนั้นฟีฟ่ามีโครงการเงินกู้ช่วยเหลือช่วงวิกฤติของโควิด-19 ให้กับสมาชิกทุกประเทศทั่วโลก 211 ประเทศ ซึ่งสมาคมก็กู้มาเพื่อนำมาใช้จ่ายช่วยเหลือและบริหารต่างๆ ของสมาคม ก็เป็นเรื่องปกติ ไม่ได้นำเข้ากระเป๋าส่วนตัว บิ๊กอ๊อดยังกล่าวปิดท้ายว่าไม่ได้กังวลอะไร พร้อมอธิบายและชี้แจงทุกเรื่องในชั้นศาลหากมีการฟ้องร้อง.-สำนักข่าวไทย