สว.สำรอง มอบแจกันดอกไม้เป็นกำลังใจดีเอสไอ หลังรับเป็นคดีพิเศษ

ดีเอสไอ 12 มี.ค. – สว.สำรอง มอบแจกันดอกไม้เป็นกำลังใจให้ดีเอสไอ หลังรับเป็นคดีพิเศษ พร้อมเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้ดีเอสไอทำหน้าที่ตรวจสอบความจริง


พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้นำกลุ่ม สว.สำรอง พร้อมด้วยเพื่อนสมาชิก สว.สำรอง เดินทางมาให้กำลังใจ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษทั้ง 41 รายชื่อ รวมถึงให้กำลังใจ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ภายหลังถูก พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. พร้อม สว. รวม 81 คน นำรายชื่อ สว. 105 คน มายื่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผ่านนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการ ป.ป.ช.ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีรับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษ ในความผิดฟอกเงิน โดยมีนายสมเกียรติ เพชรประดับ ผอ.ส่วนพิจารณาสำนวนร้องทุกข์ กองบริหารคดีพิเศษ เป็นผู้แทนรับเรื่อง

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา คณะของเราได้ไปยื่นเรื่องที่ กกต. เพื่อติดตามทวงถามความคืบหน้า แต่เนื่องด้วยมีสถานการณ์พิเศษบางอย่างจึงต้องมาที่ดีเอสไอ วัตถุประสงค์หลักคือมาให้กำลังใจกระทรวงยุติธรรมและเจ้าหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่ทราบว่าวันนี้ทางผู้บริหารของกรมฯ และกระทรวงฯ ไปประชุมผู้บริหารระดับสูงนอกสถานที่ จึงขอโอกาสนี้ได้มอบช่อดอกไม้และกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ที่ผ่านมายังได้ปรากฏกลุ่มคนที่สร้างกระแสอย่างต่อเนื่อง จึงต้องมาให้กำลังใจ เพื่อทำเรื่องนี้ต่อไปได้อย่างมั่นคง มุ่งมั่นให้ความจริงปรากฏเพื่อประชาชน และเพื่อประเทศชาติ และพร้อมจะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้ดีเอสไอ


สำหรับคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษของอธิบดีดีเอสไอ ที่ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอถึง 41 ราย มาเป็นพนักงานสอบสวนในคดีฮั้ว สว.67 นั้น พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า เท่าที่เห็นรายชื่อ ตัวเองมั่นใจ เพราะส่วนหนึ่งในรายชื่อตามที่ปรากฏนั้น ตอนที่เป็นเรื่องสืบสวนก็ได้มีโอกาสทำงานและได้นำข้อมูลไปให้ทางเจ้าหน้าที่เหล่านี้ที่ได้ดำเนินการสืบสวนจนปะติดปะต่อเรื่องมาถึงขั้นตอนนี้ได้ ต้องชื่นชมเพราะคดีนี้ใหญ่มาก ดังนั้นการที่ท่านได้รับรู้ข้อมูลในชั้นสืบสวน และได้เข้าไปร่วมสอบสวนด้วย ยิ่งทำให้เชื่อว่าข้อมูลเหล่านี้จะถือเป็นข้อมูลที่ได้รับการจัดวางเข้าไปในระบบอย่างชัดเจน ซึ่งจะนำไปสู่การสืบสาวราวเรื่องไปถึงกลุ่มขบวนการได้แน่นอน อย่างไรก็ตามข้อมูลต่างๆ ของบุคคลที่เกี่ยวข้องคงมีการเห็นแล้วบางส่วนในระหว่างการสืบสวน แต่เมื่อเห็นแล้ว แต่หากเข้าสู่กระบวนการสอบสวน ก็คงสามารถไปเอาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาปะติดปะต่อเพื่อยืนยันให้เป็นข้อมูลที่มีคุณภาพมาใช้ประกอบในการสอบสวนในคดีอาญาได้ ดูแล้วไม่น่ามีปัญหา เพราะจริงๆ แล้วถ้าว่าตามจริงคดีนี้ไม่ได้ซับซ้อน แล้วคนที่มาทำก็เป็นคนใหญ่ เลยดูเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ แต่เมื่อตรวจสอบก็เห็นเส้นทาง เห็นความโยงใยต่างๆ คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่ดีเอสไอจะทำเรื่องนี้ให้ความจริงปรากฎ คิดว่าประชาชนน่าจะเชื่อมั่น มั่นใจได้ว่าเรื่องนี้ท้ายสุดจะถูกคลี่คลาย

ส่วนกรณีที่จะต้องมีพนักงานอัยการมาร่วมสอบสวนกับดีเอสไอด้วยนั้น พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า เรื่องนี้ยิ่งทำให้มั่นใจ เพราะอย่างน้อยพนักงานอัยการเมื่อมาร่วมสอบสวน พนักงานอัยการก็จะสามารถชี้แนะในแง่มุมกฎหมาย ทำให้สำนวนมีความรัดกุมและชัดเจนมากยิ่งขึ้น ดังนั้นโอกาสที่สำนวนเมื่อพ้นจากชั้นสอบสวน ก็จะเข้าสู่ชั้นอัยการ โอกาสที่จะถูกสอบสวนเพิ่มเติม หรือสั่งเพิ่มเติมหรือถูกสั่งไม่ฟ้องน่าจะน้อยลง

สำหรับประเด็นที่มีสมาชิกวุฒิสภาบางส่วนได้รวบรวมรายชื่อไปยื่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาในความผิดมาตรา 157 ต่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นั้น พล.ต.ท.คำรบ บอกว่า ในเรื่องดังกล่าวยังทบทวนอยู่ว่าที่ไปร้อง ไปร้องในฐานะอะไร เพราะถ้าหากไปในฐานะที่เป็นสมาชิกวุฒิสภา มีเรื่องบัญญัติเกี่ยวกับจริยธรรมของนักการเมือง 10 ข้อ หากใช้สถานะของท่านไปดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งที่เข้าไปแทรกแซงทำให้เกิดผลประโยชน์ส่วนตนหรือส่วนอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ และการที่ไปกล่าวว่าเขาอย่างนั้นเป็นการที่ท่านไปบิดเบือนข้อมูลข้อเท็จจริงที่ทำให้ประชาชนสับสนหรือไม่ เพราะสิ่งต่างๆ เหล่านี้ต้องไปดูในประมวลจริยธรรมของนักการเมือง ซึ่งสุ่มเสี่ยงหลายข้อ แต่หากไปยื่นในฐานะที่เป็นผู้เสียหาย ก็มองว่าคดีนี้ดีเอสไอเพิ่งจะรับเป็นคดีพิเศษและมีการออกเลขคดีพิเศษ ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะมีข้อมูลบางส่วนแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้มีการตั้งข้อกล่าวหาผู้ใด แบบนี้จะถือเป็นการร้อนตัวไปก่อนหรือไม่


พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า สำหรับการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ในความผิดมาตรา 157 แม้จะเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นการไปกล่าวหาใครได้โดยง่าย เพราะในคดีอาญา คนแจ้งมีสิทธิ์แจ้ง แต่ถ้าแจ้งไปแล้วไม่ใช่ คดีมีการยกฟ้องหรือหรือไม่รับฟ้อง ท่านก็มีโอกาสถูกแจ้งกลับ อยากฝากเรื่องนี้ไปยัง ป.ป.ช.เช่นเดียวกันว่าในช่วงที่จะรับไต่สวนมูลฟ้องหรือไต่สวนคำร้อง อยากให้ ป.ป.ช. ได้พิจารณาในมูลคำร้องให้ดีว่ามีมูลอย่างที่มีการกล่าวหาหรือไม่ เพราะการที่ดีเอสไอหรือบอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษจะถูกกลุ่มคนฟ้องนั้น ทั้งดีเอสไอและบอร์ด กคพ. ได้กระทำการที่ผิดกฎหมายนอกเหนืออำนาจหน้าที่ใดหรือไม่ เพราะในเมื่อเขาได้ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของราชการทุกประการ ขณะเดียวกันอย่างที่ตนยังสงสัยในสถานะของผู้ร้อง ซึ่งถ้าหาก ป.ป.ช. จะวินิจฉัย ก็อยากให้ ป.ป.ช. ได้นำประเด็นนี้มาคำนึงด้วยว่าผู้ร้องมีสิทธิ์ร้องหรือไม่ในประเด็นเหล่านี้

ส่วนกลุ่มคณะ สว.สำรอง จะมีแนวทางอย่างไรต่อไป หากคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีการไต่สวนคำร้องของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษตามที่ได้มีผู้ไปร้องนั้น พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า ทางเรามีสถานะเป็นผู้ดู ส่วนจะมีการไปฟ้องกันอย่างไร หรือดีเอสไอจะโต้ตอบอย่างไร เข้าใจว่าหากมีการประทับเรื่องฟ้อง ทางดีเอสไอคงจะต้องไปชี้แจงว่าที่มีการถูกฟ้องมานั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ อย่างไร มองว่าทางดีเอสไอคงไม่ลำบากใจ เพราะว่าได้ทำเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา และทำบนพยานหลักฐานข้อเท็จจริง ทั้งนี้ฝากข้อห่วงใยไปยังกลุ่มสมาชิกวุฒิสภาที่ได้ไปยื่นเรื่องว่าท่านกำลังสุ่มเสี่ยงในเรื่องจริยธรรมหรือไม่

เมื่อถามว่านับตั้งแต่ที่กลุ่มคณะ สว.สำรอง ได้มีการมายื่นเรื่อง หรือมอบข้อมูล รายละเอียดเอกสารพยานต่างๆ กับดีเอสไอ ได้ถูกสายโทรศัพท์โทรข่มขู่ หรือขอให้ยุติการดำเนินการบ้างหรือไม่ พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า การที่ตัวเองมาดำเนินการอยู่ในตอนนี้ ก็เพื่อประเทศชาติเป็นหลัก จริงอยู่ที่พวกผมเป็นตัวสำรองอาจมีส่วนได้เสียจากการเคลื่อนไหวเรียกร้องในครั้งนี้ แต่เรื่องเหล่านี้เป็นผลพลอยได้ หลังจากได้สืบสวนทำให้ทราบว่าขบวนการนี้ใหญ่มาก อาจมีผู้ที่เกี่ยวข้องที่มีหน้าตาในสังคมปัจจุบัน ซึ่งพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นการกินบ้านกินเมือง เป็นการปล้นชาติปล้นแผ่นดิน เมื่อเห็นถึงขบวนการเหล่านี้ ผมคิดว่าจะไม่หยุด อย่างน้อยตัวเองก็เป็นข้าราชการตำรวจเกษียณแล้วยังเหลือเวลาอีกไม่มาก จะต้องทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องสุดท้ายของชีวิต

ส่วนเรื่องเอกสารรายชื่อพยาน 7,000 รายชื่อที่มีหลุดออกมา ซึ่งอยู่ในกลุ่มพยานที่ดีเอสไอจะต้องเรียกสอบสวนปากคำนั้น พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า เท่าที่ได้ดูก็รู้จักบางคน ทางดีเอสไอคงจะตรวจสอบ จากข้อมูลที่มีพบว่ากระบวนการเหล่านี้จะมาเคลื่อนไหวหรือติดต่อสัมพันธ์กันในช่วงวันที่ 23-25 พ.ค.67 โดยเริ่มต้นจากระดับอำเภอ ตั้งแต่มีการสมัครในช่วงเดือน พ.ค.67 ความผิดเริ่มปรากฎในช่วงนั้น การสมัครระดับอำเภอ มีเงินทอน เงินจ้าง ค่ารถ ฯลฯ ซึ่งบุคคลที่มีรายชื่อปรากฏต้องไปสำรวจตัวเองว่ามีรายการค่าใช้จ่ายอย่างไร จะได้ชี้แจงได้ หากมีการเรียกมาให้การ

ส่วนประเด็นการยื่นหนังสือของนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อต้องการให้การเลือก สว. เป็นโมฆะทั้งชุดตัวจริงและ สว.สำรอง นั้น พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า มองว่าโอกาสที่จะเป็นโมฆะ ไม่น่าจะมีโอกาสมากนัก เพราะกฎหมายเขียนไว้ว่า หากเกิดความผิดใดปรากฏกับบุคคลใดก็จัดการคนนั้นไป และผลของการกระทำของบุคคลดังกล่าวไม่ส่งผลต่ออดีตที่ทำมา ตามข้อเท็จจริงมี สว.ตัวจริง 200 คน มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่อยู่ในข่าย 130-140 คน ส่วนที่เหลือไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หากจะต้องล้มหรือโมฆะคงไม่เป็นธรรมที่จะให้เขามารับผลในส่วนนี้ด้วย ใครผิดก็จะต้องจัดการคนนั้นไป และกฎหมายเรื่องเลือกตั้งได้เขียนไว้ชัดเจนว่าหากจัดการไปแล้วให้นำ สว.สำรอง ขึ้นมาแทน หากรวมกันแล้วไม่ถึงกึ่งหนึ่งก็ให้ไปเลือกซ่อมส่วนที่เหลือ กฎหมายเขียนไว้แล้ว มีช่องทางเดินก็ให้เดินตามช่อง จึงมองว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องโมฆะ

ด้านนายสมเกียรติ กล่าวว่า ในฐานะผู้แทนรับเรื่องของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยในส่วนของคดี ตอนนี้ได้รับเป็นคดีพิเศษที่ 24/2568 ส่วนรายละเอียดทางคดีและความคืบหน้าจะขอให้เป็นอำนาจหน้าที่ของโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เป็นผู้แถลงต่อไป. -419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมพญาเม็งรายเริ่มลด แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน

เชียงราย 28 มิ.ย.- เริ่มคลี่คลาย! สถานการณ์น้ำท่วมพญาเม็งราย จ.เชียงราย เช้านี้ระดับน้ำลดลงแล้วกว่า 80% แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย เช้าวันนี้ เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลงไปแล้วกว่า 80% เหลือเพียงคราบโคลนจำนวนมากที่ยังปกคลุมที่อยู่อาศัยและถนนหลายสาย เช้านี้มีฝนตกโปรยปรายต่อเนื่อง  ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ยังคงเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ เนื่องจากขาดแคลนสิ่งจำเป็น เช่น น้ำสะอาด อุปกรณ์ทำครัว และแหล่งพลังงาน จึงขอรับการสนับสนุนอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงฟื้นฟูพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้มณฑลทหารบกที่ 37 ลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็นเบื้องต้นแล้ว ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเกิดฝนตกหนักอีกครั้ง -สำนักข่าวไทย

เริ่มแล้ว! ม็อบรวมพลังแผ่นดิน ทยอยปักหลักอนุสาวรีย์ชัยฯ

กทม. 28 มิ.ย.- เริ่มแล้ว! มวลชนกลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ เดินเท้าเคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อร่วมชุมนุมใหญ่ ขณะที่การจราจรเช้านี้ รถยังเคลื่อนตัวได้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่ม คปท. กองทัพธรรม กปปส. และมวลชนหลายร้อยคน รวมตัวกันบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีประชาชนจากหลายจังหวัดเข้าร่วม ต่างยกธงชาติไทย ชูป้ายข้อความเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ลาออก เวลา 08.30 น. เริ่มเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าแยกอุรุพงษ์ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระราม6 เลี้ยวขวาเข้าถนนศรียุธยา ตรงเข้าแยกราชเทวี และเลี้ยวซ้ายเข้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่วนกำหนดการวันนี้เวลา 10.00 น. จะมีการเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่ทหารกล้า หลังจากนั้น เวลา 12.00 น. จะเปิดเวทีปราศรัย ขณะที่ช่วง 17.30-18.10 น. จะอ่านแถลงการณ์ “รวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย” จากนั้นจะเป็นการปราศรัยหลักจากกลุ่มแกนนำ อาทิ นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นต้น จนถึงเวลา 21.00 […]

นายกฯ บินเชียงรายตรวจน้ำท่วม ไม่กังวลม็อบขับไล่ ชี้เป็นสิทธิ

บน.6 ดอนเมือง 28 มิ.ย.- นายกฯ นำคณะตรวจน้ำท่วมเชียงราย ไม่กังวลม็อบชุมนุมขับไล่ ชี้เป็นสิทธิ ยินดีคุยด้วยสันติวิธี เช้านี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ หลังฝนตกหนัก ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และให้กำลังใจกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับสัญชาติไทย ก่อนออกเดินทาง นายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามสื่อมวลชน กรณีกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน นัดชุมนุมใหญ่ วันนี้ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เรียกร้องให้ตนเองลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า ได้ขอให้หน่วยงานความมั่นคงช่วยดูแลให้สงบเรียบร้อย ผู้สื่อข่าวถามว่ามีรายงานอะไรที่น่าเป็นห่วงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ยังไม่มีอะไรนะคะ” ก่อนย้อนถามว่า “มีอะไรแล้วหรือคะ” เป็นปกติ ก็เป็นสิทธิอยู่แล้ว ซึ่งได้บอกให้ดูให้เรียบร้อย ไม่อยากให้มีความรุนแรง ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าคิดว่าการชุมนุมนี้จะบานปลายหรือไม่ เพราะเป็นการรวมพลังกันของหลายกลุ่ม นายกฯ กล่าวว่า ก็หวังว่าจะไม่มี ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า ธงของการชุมนุมครั้งนี้คือต้องการให้นายกรัฐมนตรี ลาออก […]

เตือน “เหนือ-อีสาน” ฝนถล่ม ระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก

กทม. 28 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือน “เหนือ-อีสาน” เตรียมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือบริเวณจังหวัดเชียงรายและน่าน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน และตอนบนของภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย