“ภูมิธรรม” ยังไม่เซ็นอนุมัติเรือดำน้ำ ย้ำจบใน 6 เดือน

ทำเนียบ 30 ธ.ค.- “ภูมิธรรม” ยังไม่เซ็นอนุมัติเรือดำน้ำ แต่ย้ำจบใน 6 เดือน รอฟัง “เยอรมัน” ตอบรับขายเครื่องยนต์ให้หรือไม่ “ปากีสถาน” ใช้เครื่องยนต์จีนแล้วเป็นอย่างไร


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเรือดำน้ำ โดยเฉพาะการตัดสินใจเปลี่ยนมาเป็นเครื่องยนต์จีน โดยยอมรับว่ามีการเชียร์ให้มีผลออกมาโดยเร็ว เพราะโครงการนี้ ค้างมานานแล้ว แต่ตนยังไม่เซ็น เพราะยังไม่เห็นอะไรเลย ใครทำไว้ก็ไม่รู้ แต่ตนต้องมาเซ็น ต้องมารับผิดชอบ หากมีผลเสียเกิดขึ้นมา คนที่รับผิดชอบเต็มๆ คนแรกคือ พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และคนรับผิดชอบสุดท้ายคือตน ดังนั้นต้องขอให้ศึกษาข้อมูลต่างๆให้ชัด

“ผมได้บอกกับกองทัพเรือ และ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยไปว่า ผมเป็นคนไม่ชอบทำอะไรที่ค้างนาน และไม่ปล่อยให้ยืดเยื้อ หรือดึงเวลา ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะให้เสร็จภายในเดือนธันวาคม 2567 แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะหลังจากมาดูแล้ว การเปลี่ยนตัวเครื่องยนต์ เป็นสาระสำคัญ ซึ่งต้องคุยกันให้จบ ถามว่ากองทัพเรือทำทุกอย่างครบหรือยัง กองทัพเรือก็พยายามชี้แจง จึงอยากให้มีการพิสูจน์ทราบ ว่ามีปัญหาหรือไม่”


นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ตนได้มีการเชิญทูตทหารของเยอรมันมาพูดคุย โดยได้ถามไปว่าเหตุใดถึงได้แซงชั่น (Sanctions) ประเทศจีน ด้วยระบบของ นาโต้ (NATO) ซึ่งที่จริงแล้วได้มีการซื้อขายกัน จึงได้กำหนดสเป็คของทางเยอรมัน แต่พอมีการบอยคอต (boycott ) จากต่างประเทศ ทางเยอรมันจึงต้องบอยคอตด้วย จึงถามไปว่าถ้าคุณไม่ขายให้กับประเทศจีน ขายให้กับประเทศไทยได้หรือไม่ แล้วเราไปหาคนติดตั้งเครื่องยนต์เอง ไม่ต้องให้จีนติดตั้ง เพื่อให้ได้ของที่ตรงสเปคมากขึ้น เรื่องนี้นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เคยพูดคุยกันไว้บ้างแล้ว ทางทูตเยอรมัน ก็แจ้งว่ายังไม่เคยไปพูดคุยกันในเรื่องนี้กับทางเยอรมัน แต่รับปากว่าจะไปพูดคุยให้ ก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่รัฐบาลตัดสินใจไปแล้ว จะแก้ไขได้หรือไม่ การเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนเครื่องยนต์เรือดำน้ำ ไม่ใช่สาระสำคัญ สาระสำคัญคือยืนยันจุดยืนที่จะทำ

“ผมจะขอทำหนังสือเป็นรายลักษณ์อักษร ว่าจะขายเครื่องยนต์นี้ให้กับประเทศไทยหรือไม่ เป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ให้ทางผู้ช่วยทูตทหารได้กลับไปคุยกับรัฐบาลเยอรมัน และก็มารอฟังคำตอบอย่างเป็นทางการ อย่างน้อยตัวนี้จะเป็นเครื่องวัด ไม่ใช่บอกว่าให้ผมเซ็นก็ต้องเซ็นเลย ผมพยายามหาทางออก เพราะมีคำจากผู้ต่อต้านการซื้อว่า เรือลำนี้ไม่เคยลงน้ำเลย และอาจทำให้มีความกลัวที่จะเสียชีวิตในการลงเรือดำน้ำลำนี้ แต่เรือดำน้ำรุ่นนี้ทางจีนได้ขายและใช้เครื่องยนต์เดียวกับที่จีนเสนอให้ไทย ขายให้ปากีสถาน จำนวน 8 ลำแล้ว ผมจึงได้คุยกับทางเอกอัครราชทูตปากีสถานประจำประเทศไทย ขอให้นำเรือดำน้ำรุ่นนี้ลงดำเร็วๆ แล้วประเมินผลด้วยหลักสากล และขอให้ผมรับรู้ด้วยได้หรือไม่ ถ้าลงน้ำและใช้ไปแล้ว 3-4 เดือน เรือดำน้ำรุ่นนี้ไม่มีปัญหาอะไร ก็จะสามารถตอบได้ว่า การเปลี่ยนแปลงนี้ถึงแม้จะเป็นสาระสำคัญของสัญญา ก็สามารถทดแทนได้ และมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน ถ้าได้คำตอบตนก็จะได้มีอะไรไปบอก เพื่อลงนามได้” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ถ้าสิ่งเหล่านี้มันเคลียร์เงื่อนไขสำคัญ ที่ทำให้เราตัดสินใจยอมรับ เพราะเรือดำน้ำทำไปแล้ว 80% อู่จอดเรือก็ทำไปแล้ว กำลังพลกองเรือดำน้ำ ก็ได้ส่งไปเรียน และได้ตั้งหน่วยขึ้นมาแล้ว เงินทั้งหมดที่จ่ายไป ถ้าทิ้งไปก็ไม่มีเงินมาคืน เท่ากับทิ้งเงิน 8,000 ล้านบาทไป ราคาเรือดำน้ำ 13,000 ล้านบาท เหลืออีก 20% จ่ายเงินก็จะได้ของมา ถ้าไม่เอาก็ทิ้งไป จึงต้องกลับมาดูว่ามันคุ้มค่าหรือไม่ ถึงได้บอกว่าพอตนมาถึงแล้วจะให้ตอบในเรื่องนี้ ทั้งกองทัพเรือและผู้สื่อข่าว


“ผมก็ตอบไปว่า ผมเนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่ง มาถึงก็มาจับแก้ปัญหา ถ้าจำเป็นก็จะกลับมาดูว่าไม่ซื้อทั้ง 3 ลำได้หรือไม่ เราต้องมาเคลียร์กระบวนการนี้ใหม่” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่าโครงการเรือดำน้ำจะจบในรัฐบาลนี้เลยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า 6 เดือน ก็จบแล้ว มั่นใจว่าจะตัดสินใจได้ ส่วนจะเรียบร้อยหรือไม่ สังคมก็ช่วยตรวจสอบ ตนจะไม่ทิ้งไว้ ถ้าทิ้งไว้ก็จะช้าอยู่อย่างนี้ จะเอาหรือไม่เอา จะตัดสินใจหรือไม่ตัดสินใจ ก็ต้องหาคำตอบมา .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระบะชนต้นไม้

สังเวย 7 ศพ กระบะหักหลบรถรับ-ส่งนักเรียน พุ่งชนต้นไม้

รถกระบะเสียหลักจะชนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน คนขับตัดสินใจหักหลบ ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 คน

สลด! รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยวเบตง ชนต้นไม้ ดับ 8 ราย

รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา เสียหลักไถลลงร่องกลางถนนชนต้นไม้บนถนนสาย 41 อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ กทม.อากาศเย็นในตอนเช้า

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาฯ

เมืองพัทยาเอาจริง เร่งจัดการผู้ลักลอบจุดพลุชายหาด

เมืองพัทยาสั่งแล้ว เร่งจัดการผู้ลักลอบจุดพลุบนชายหาด หลังเกิดเหตุพลุล้ม วิ่งไประเบิดใส่เด็กบาดเจ็บทั่วร่าง ในคืนเคานท์ดาวน์

SET ปิดตลาดซื้อขายวันแรกปี 68 ร่วงลง 20.36 จุด

ดัชนี SET วันแรกของการซื้อขายปี 2568 ปิดที่ 1,379.85 จุด ปรับตัวลดลง 20.36 จุด หรือ 1.45% มูลค่าการซื้อขาย 36,852.83 ล้านบาท ตลาดกังวลนโยบายการค้าระหว่างประเทศ-นโยบายภาษี

สั่งตรวจสอบถนนจุดเกิดเหตุรถทัวร์คว่ำ-กระบะชนต้นไม้

ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ฯ สั่งตรวจสอบถนนจุดเกิดเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำและกระบะหักหลบรถตู้รับส่งนักเรียนชนต้นไม้ หลังพบเป็นถนนตัดใหม่ การก่อสร้างยังไม่เสร็จสมบูรณ์