นายกฯ เสนอร่างงบปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้าน ตั้งเป้า GDP โต 2.3-3.3%

รัฐสภา 28 พ.ค.-นายกฯ นำเสนอร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ต่อสภาฯ วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ตั้งเป้า GDP โต 2.3-3.3% ห่วงภาษีสหรัฐฉุดเศรษฐกิจไทย แจงรายจ่าย 6 ยุทธศาสตร์หลัก ยันใช้งบฯ อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุด


น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจง ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยระบุว่า การจัดทำงบประมาณอยู่บนพื้นฐานที่คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 69 จะขยายตัวในช่วง 2.3-3.3% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการอุปโภคบริโภค การลงทุนภาคเอกชน รวมทั้งการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ขณะที่การดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากนโยบายการค้าโลกและอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มลดลงต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย จากราคาน้ำมันดิบโลกและมาตรการภาครัฐ ซึ่งมีส่วนช่วยบรรเทาค่าครองชีพและลดต้นทุนของภาคธุรกิจ ด้านภาวะการเงินโดยรวมยังตึงตัว คณะกรรมการนโยบายการเงิน จึงมีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี ในการประชุมเดือนเมษายน 2568 เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจ และรองรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งสามารถดูแลภาวะการเงินให้เหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่เปลี่ยนไป


สำหรับอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ในช่วง 0.5-1.5% และดุลบัญชีเดินสะพัดมีแนวโน้มเกินดุลที่ 2.3% ของ GDP โครงสร้างงบประมาณปี 69 ประกอบด้วย

  1. งบประมาณรายจ่าย 3.78 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 27,900 ล้านบาทจากปีงบประมาณ 68 หรือเพิ่มขึ้น 0.7% โดยวงเงินงบประมาณดังกล่าว คิดเป็นสัดส่วน 18.9% ของ GDP
  2. รายจ่ายประจำ 2.65 ล้านล้านบาท ลดลง 28,135 ล้านบาทจากปีงบประมาณ 68 หรือลดลง 1% คิดเป็นสัดส่วน 70.2% ของวงเงินงบประมาณ
  3. รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง 123,541 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 68 ที่ไม่ได้มีการเสนอตั้งงบประมาณ โดยคิดเป็นสัดส่วน 3.3% ของวงเงินงบประมาณ
  4. รายจ่ายลงทุน 864,077 ล้านบาท ลดลง 68,284 ล้านบาทจากปีงบประมาณ 68 หรือลดลง 7.3% คิดเป็นสัดส่วน 22.9% ของวงเงินงบประมาณ
  5. รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ จัดสรรไว้ 151,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,100 ล้านบาทจากปีงบประมาณ 68 หรือเพิ่มขึ้น 0.7% คิดเป็นสัดส่วน 4% ของวงเงินงบประมาณ ทั้งนี้ รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้เป็นรายจ่ายลงทุน กรณีการกู้เพื่อการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 10,519 ล้านบาท

ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ และรายการค่าดำเนินการภาครัฐ รวม 65 แผนงาน ดังนี้

  1. ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง จัดสรรงบประมาณ 415,327 ล้านบาท เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งการดูแลความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน พัฒนาเศรษฐกิจและสังคม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ขยายโอกาสการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และการใช้ภาษาที่หลากหลาย ระงับยับยั้งการบ่มเพาะทางความคิดที่อาจบิดเบือนจากหลักศาสนา
    อีกทั้งนำงบประมาณไปดำเนินการป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด เสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ และเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง เช่น ป้องกันภัยคุกคาม ภัยอาชญากรรมชาติและความมั่นคงทางชายแดนชายฝั่งทะเล และนำไปพัฒนาระบบบริหารจัดการภัยพิบัติ
  2. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน จัดสรรงบประมาณ 394,611 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้มีเสถียรภาพและยั่งยืน เน้นการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยขยายการค้าการลงทุนชายแดนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด่านศุลกากรในเชตเศรษฐกิจพิเศษ
    อีกทั้งนำงบประมาณไปใช้ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยตั้งเป้าให้เกิดการลงทุนจริงในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านบาท พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนนส่ง เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เป็นต้น ยกระดับและพัฒนาศูนย์การแพทย์ครบวงจรผลิตและพัฒนาบุคลากรให้มีสมรรถนะตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายไม่น้อยกว่า 6,000 คน
    นอกจากนี้ นำไปใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล โดยส่งเสริมการลงทุน และใช้ทรัพยากรโครงสร้างพื้นฐานดิจิทััลร่วมกัน อาทิ การบริการคลาวด์ภาครัฐพร้อมมาตรการเฝ้าระวังภัยคุกคามไซเบอร์และตัดวงจรอาชญากรรมออนไลน์ เป็นต้น
    รวมถึง นำไปใช้ในการพัฒนาความมั่นคงทางพลังงาน ด้วยการจัดหาพลังงานและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานทั้งระบบให้มีความมั่นคง โดยรักษาอัตราการผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเหลวในประเทศไม่น้อยกว่า 140,000 บาร์เรลต่อวัน สนับสนุนการผลิตและใช้พลังงานทดแทนพลังงานทางเลือก ส่งเสริมพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน
    อีกทั้งนำไปขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ หวังผลักดันอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นกไลในการสร้่างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจของประเทศ และนำไปใช้ในการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว โดยมีเป้าหมายเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท และมีจำนวนนักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 40 ล้านคน
  3. ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ จัดสรรงบประมาณ 605,927 ล้านบาท เพื่อพัฒนาและส่งเสริมให้ประชาชน มีความรู้คู่คุณธรรมและคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยการเสริมสร้างให้คนมีสุขภาวะที่ดี ส่งเสริมการผลิตแพทย์ พยาบาล บุคลากรด้านสาธารณสุขไม่น้อยกว่า 42,400 คนและกระจายแพทย์ไปสู่ชนบท ไม่น้อยกว่า 1,000 คนต่อปี ยกระดับระบบสาธารณสุขและระบบบริการสุขภาพที่ทันสมัย
    รวมถึงพัฒนาคุณภาพการศึกษา การเรียนรู้ และศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต โดยการปฏิรูประบบการศึกษาและการเรียนการสอน สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มที่สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา
  4. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม จัดสรรงบประมาณ 942,709 ล้านบาท เพื่อให้คนไทยทุกคนได้รับสวัสดิการพื้นฐาน บริการสาธารณะอย่างทั่วถึงเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ ด้วยการบริหารจัดการที่ดิน ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก กระจายการถือครองที่ดินให้กับเกษตรกรและประชาชนเข้าถึงได้และเป็นธรรม การรองรับสังคมสูงวัย การกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณะที่มีคุณภาพ ผ่านการสนับสนุนการจัดการการศึกษาขั้นพื้นฐาน แก่นักเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สนับสนุนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเบี้ยยังชีพคนพิการ
  5. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จัดสรรงบประมาณ 147,216 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาทิ การจัดการมลพิษและสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ให้ประเทศไทยมีความมั่นคงด้านน้ำเพิ่มขึ้นอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
  6. ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ จัดสรรงบประมาณ 605,441 ล้านบาท เพื่อยกระดับการบริการภาครัฐให้มีสมรรถนะสูง เปลี่ยนผ่านไปสู่ราชการทันสมัยในระบบดิจิทัล อาทิ การแก้ปัญหาทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้ประเทศไทยปลอดทุจริต โดยปลูกฝังวิธีคิด ปลุกจิตสำนึกให้มีพฤติกรรมซื่อสัตย์สุจริต มีเป้าหมายค่าดัชนีรับรู้การทุจริตอยู่ในอันดับ 1 ใน 45 หรือได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 56คะแนน รวมถึงการมีรัฐบาลดิจิทัล หน่วยงานรัฐใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลให้บริการประชาชนได้เต็มศักยภาพ การพัฒนากฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ทบทวนความจำเป็นและความเหมาะสมของกฎหมายที่มีอยู่ ลดข้อจำกัดด้านกฎหมาย

นอกจากนี้ ยังมีรายการค่าดำเนินการภาครัฐ จัดสรรงบประมาณ 669,365 ล้านบาทเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายรองรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นโดยมิได้คาดหมายสำหรับกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น การบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ และชดใช้เงินคงคลัง โดยเป็นแผนงานบริหารเพื่อรองรับกรณีผนงานบริหารเพื่อรองรับกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน123,960.0 ล้านบาท เพื่อสำรองไว้เป็นค่าใช้จ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น การเยียวยาหรือบรรเทาความเสียหายจากภัยพิบัติสาธารณะร้ายแรง ภารกิจที่เป็นความจำเป็นเร่งด่วนของรัฐ และเงินชดเชยค่างานสิ่งก่อสร้าง รวมทั้งการกระตุ้นและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ โดยคำนึงถึงวินัยทางการคลังการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ จำนวน 421,864.4 ล้านบาทเพื่อให้การบริหารจัดการหนี้และการชำระหนี้ภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง จำนวน 123,541.1 ล้านบาท พื่อเป็นรายจ่ายชดใช้เงินคงคลังที่ได้จ่ายไปแล้ว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งบประมาณที่รัฐบาลเสนอในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกมิติ ภายใต้ข้อจำกัดด้านรายได้และสถานการณ์เศรษฐกิจโลก รัฐบาล จึงดำเนินนโยบายงบประมาณแบบขาดดุลเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยกำหนดวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 3,780,600 ล้านบาท เพื่อให้หน่วยรับงบประมาณใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับจัดสรรอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ทั้งในด้านความมั่นคง การสร้างความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม การดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนปรับปรุงระบบราชการให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าได้อย่างมั่นคง ประชาชนได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายงบประมาณอย่างแท้จริง และเกิดผลสัมฤทธิ์ในการพัฒนาประเทศอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-เจ้าคุณประสิทธิ์ สึกแล้ว

พิษณุโลก 16 ก.ค. – พระชั้นผู้ใหญ่ที่พัวพันสีกากอล์ฟยังทยอยสึกเพิ่ม ล่าสุด “เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก” แอบสึกแล้วที่วัดสว่างอารมณ์ จ.ตาก หลังมีข่าวลือสะพัดมาตั้งแต่เช้า ขณะที่ “เจ้าคุณประสิทธิ์” ถอดใจสึกแล้ว พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระชั้นผู้ใหญ่อีก 1 รูป ที่มีชื่อพัวพันกับสีกากอล์ฟ ซึ่งในช่วงเช้ามีข่าวลือว่าจะลาสิกาในวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบตามวัดต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร มีตำรวจนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ มาคอยเฝ้าดูแลตลอดเวลา กระทั่ง เวลา 12.00 น. เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ปรากฏตัวในชุดขาว คาดว่าไปลาสิกขาที่วัดสว่างอารมณ์ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก สำหรับพระราชรัตนสุธี มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลกที่ได้รับความเคารพอย่างสูงรูปหนึ่ง เพราะมีบทบาทสำคัญและมีคุณูปการขับเคลื่อนงานคณะสงฆ์ให้รุ่งเรือง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมายืนยันเช่นกันว่า ขณะนี้อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้ทำการลาสิกขาแล้ว และวันนี้เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก็มารายงานตัวกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางด้วยเช่นเดียวกัน กรณีเอกสารสำนักพุทธจังหวัดสมุทรสาครหายออกไปจากวัด ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเอกสารยังมีอยู่หรือไม่ และถ้าหากเอกสารหายไปจริงก็ถือว่าเป็นการผิดวินัย และเจ้าอาวาสบกพร่อง ต้องไปดูด้วยว่าสาเหตุที่หายเพราะอะไร เพราะเอกสารทางราชการมีการรับส่งเป็นระบบ […]

เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ”

กทม. 16 ก.ค.-เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ” ด้านอดีตพระมหาบุญเลิศ แฉถูกสีกากอล์ฟ กุเรื่องลวงไปบ้านพัก ซ้ำถูกเชิดเงิน 1 แสน เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดเพิ่ม พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีน.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ว่า จากการสอบปากคำเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฝากขังเป็นผัดแรก ด้านพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ว่า เบื้องต้น สีกากอล์ฟ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี รวมถึงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับในข้อเท็จจริงว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่รูปต่างๆ จริง ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่รีดเอาเงิน และบังคับทิดแหล่ ให้ร่างหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีฯ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เจ้าตัวอ้างว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าเป็นคนให้ทิดแหล่ร่างหนังสือดังกล่าวจริง เพียงแต่เป็นการไหว้วาน ไม่ได้เป็นการบังคับ […]

มทภ.2 เรียกร้องผู้นำเขมรขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม

สุรินทร์ 16 ก.ค.-มทภ.2 สั่ง กกล.สุรนารี จัดระเบียบนักท่องเที่ยวปราสาทตาเมือนธม หารือ พล.ต.เนี๊ยะ ได้ข้อยุติ 3 ประการ เรียกร้องผู้นำกัมพูชาตำหนิหญิงเขมร และขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม ลั่นไทยดำเนินคดีอดีตทหารพรานตามกฎหมายแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุความวุ่นวาย ที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จากกรณีที่ผู้หญิงชาวกัมพูชา เข้ามาด่าทอทหารไทย ในเขตพื้นที่ของไทยวานนี้(15 ก.ค.) ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้มีการจัดระเบียบนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเหมือนธม เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอย ป้องกันกลุ่มคนไม่หวังดี โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.อ.บุญเสริม บุญบำรุง รอง ผบ.กกล.สุรนารี ได้หารือร่วม พล.ต.เนี๊ยะ วงค์ ผบ.พลน้อย ร.42 เพื่อพบปะหารือ ณ ปราสาทตาเมือนธม โดยมีสรุปผลการพบปะดังนี้ 1.หากมีปัญหาจากนักท่องเที่ยวเกิดขึ้น หากเป็นนักท่องเที่ยวไทย ขอให้ฝ่ายกัมพูชาแจ้งกับฝ่ายไทยเพื่อนำนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ เช่นเดียวกันหากนักท่องเที่ยวกัมพูชา ก่อปัญหา ขอให้ฝ่ายไทยแจ้ง ฝ่าย กัมพูชาเพื่อให้ฝ่ายกัมพูชา นำตัวนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ 2.หากมีปัญหาในพื้นที่ การแก้ปัญหาให้ชุดประสานงานในพื้นที่ […]

“แพทองธาร” ยินดีมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027

กระทรวงวัฒนธรรม 16 ก.ค.- “แพทองธาร” ยินดีความสำเร็จมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027 อย่างเป็นทางการ ชี้ เป็นผลลัพธ์การทำงานอย่างมุ่งมั่นของคกก.ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา-กองทัพไทย-สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ผลักดันสู่เวทีกีฬาสากล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่ายกระดับมวยไทยสู่เวทีโลกอีกขั้น ดิฉันขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง กับความสำเร็จล่าสุดของประเทศไทย — #มวยไทย ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของการแข่งขัน CISM World Summer Games 2027 (กีฬาทหารโลก 2027) อย่างเป็นทางการแล้วค่ะ การแข่งขันกีฬาทหารโลก จัดโดย สภากีฬาทหารระหว่างประเทศ เป็นมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ปัจจุบันมีประเทศในสมาชิก 141 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ประเทศไทยเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 1st CISM Military Muaythai Challenge เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกของการเปิดเวทีระหว่างประเทศให้มวยไทยเข้าสู่การแข่งขันของกองทัพนานาชาติ การบรรจุมวยไทยในกีฬาทหารโลกครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จสำคัญของประเทศไทย และเป็นผลลัพธ์จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power ด้านกีฬา ร่วมกับกองทัพไทย และสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ที่ผลักดันให้ “มวยไทย” […]