“สว.สำรอง” ยื่นกกต. ค้านคำร้องเปลี่ยนคณะสอบสวนฮั้ว สว.

กกต. 28 พ.ค.- “สว.สำรอง” ยื่นกกต. คัดค้านคำร้องเปลี่ยนคณะสอบสวนฮั้วเลือก สว. ยันมีหลักฐานชัดเจน ขอหยุดแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ปกป้องความเป็นอิสระขององค์กร


กลุ่ม สว.สำรอง นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว พร้อมด้วยนายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต สส. และอดีตผู้สมัคร สว. เข้ายื่นร้องต่อกกต.เพื่อคัดค้านคำร้องของ สว.ที่ขอให้กกต.สั่งทบทวนการทำงานของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ชุดที่ 26 ที่มี ร.ต.อ.ชนินท์ น้อยเล็ก เป็นประธาน และสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในกรณีการสอบสวนคดีฮั้วเลือก สว. 

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า พวกเราเห็นว่าคำร้องดังกล่าวยังไม่ถูกต้อง รวมทั้งคณะสืบสวนฯชุดดังกล่าว ได้รับการแต่งตั้งมาโดยถูกต้องตามกฎหมาย โดยคณะสืบสวนชุดดังกล่าวที่ผ่านมาก็ได้ทำงานเป็นไปด้วยดี ซึ่งสามารถที่จะออกหนังสือเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ และแก้ข้อกล่าวหาจำนวนหลายคน ซึ่งถือว่าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงอาจจะทำให้ผู้ที่ถูกพาดพิงบางส่วนรู้สึกหวั่นไหว และรู้สึกว่าอาจจะใกล้ตัวเกินไป จึงใช้วิธีขอให้เปลี่ยนชุดสืบสวนไต่สวน โดยวันนี้พวกเราสว.สำรองจะยื่นคัดค้านต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อที่จะขอให้พิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่เออออห่อหมกไปตามคำร้องของ สว. และขอให้กำลังใจคณะกรรมการชุดที่ 26 และ กกต.ขอให้มั่นคงอย่าหวั่นไหว ในการที่จะทำตามอำนาจหน้าที่ของตัวเอง ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต


ด้านนายแทนคุณ กล่าวว่า วันนี้มา เพราะอยากเป็นตัวแทนของผู้สมัคร สว.ที่เห็นการฮั้วชัดเจนมาก จึงรู้สึกไม่สบายใจ ว่าบ้านเมืองเราทำไมถึงเป็นได้ขนาดนี้ แม้หลายคนจะตั้งข้อสังเกตว่าการเลือกสว.ครั้งนี้ถูกออกแบบมาให้มีการฮั้วกันได้ง่าย แต่ก็ไม่น่าจะมีการฮั้วโจ่งแจ้งขนาดนี้ ซึ่งตนมีคลิปวีดีโอที่บันทึกการประชุมพูดคุยของผู้สมัครในขณะนั้น ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ที่อ้างเบื้องสูง ว่าภารกิจนี้เป็นภารกิจเพื่อข้างบน จึงเป็นสิ่งที่เราต้องลงทุนและทุ่มเทขนาดนี้ ซึ่งคำพูดว่าลงทุนนี้ อาจจะมีเรื่องของการจ่ายเงินเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ คิดว่ากระบวนการสอบสวนไปถึงแน่นอน และเชื่อว่าเส้นเงินต่างๆ ที่ถูกกล่าวถึงนั้นไม่ผิดพลาดแน่นอน ถือเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ไม่สามารถโกหกได้ และเชื่อว่าไม่เกินกว่ากำลัง ความสามารถของคณะกรรมการสอบสวนที่จะตรวจสอบได้

นายแทนคุณ กล่าวว่า ตนเคยเป็น สส.มาก่อน เป็นสมาชิกรัฐสภามา ก็ไม่เคยเจอว่ามีความพยายามอย่างน่ารังเกียจขนาดนี้ ในการที่จะแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม บอกว่าไม่ใช่นักการเมือง แต่อย่าลืมว่าเป็นข้าราชการการเมือง ซึ่งคำว่าการเมืองแปลได้หลายอย่าง แปลว่าผู้มีอำนาจในการบริหารบ้านเมือง หรือฝ่ายนิติบัญญัติก็ได้ แต่ที่สำคัญคือต้องเคารพในระบอบประชาธิปไตยและเคารพเสียงของประชาชน แม้จะบอกว่าไม่ได้มาจากเสียงของประชาชนก็ตาม แต่ก็เป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทย หัวใจสำคัญคือการต้องถูกตรวจสอบได้ การที่ทำให้การถูกตรวจสอบสะดุด พยายามที่จะตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ยังคิดว่าถ้า สว.หากอยากมีสง่าราศีมากกว่านี้ ต้องหยุดคุกคามกระบวนการยุติธรรม และหยุดแอบอ้างสิ่งที่พวกเราเคารพสักการะ

นายแทนคุณ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในเรื่องของการเลือกกรรมการองค์กรอิสระ ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบให้คุณให้โทษนักการเมือง ถ้าเราได้องค์กรอิสระที่เป็นคนของเขา ที่เขาคุมได้ บริหารจัดการหรือสั่งได้ องค์กรอิสระก็จะไม่มีความอิสระ และถ้าเอนเอียงไปทางการเมืองฝ่ายไหน ก็จะทำให้อีกฝ่ายหนึ่งเสียเปรียบ เราจะไม่อยากให้ สว.ที่มีส่วนชี้เป็นชี้ตาย ยอมให้การเมืองเข้าไปแทรกแซง การเลือกกรรมการองค์กรอิสระจนทำให้การเมืองเสียสมดุล ซึ่งจะเป็นความเสียหายอย่างร้ายแรง ดังนั้นถ้าเราได้ ป.ป.ช.มาแล้ว ไปชี้จากผิดให้กลายเป็นถูก หรือกลายเป็นไม่ผิดก็ได้ ซึ่งน่าจะไม่เคยมีแบบนี้มาก่อน หรือถ้าเคยมี นี่น่าจะเป็นการซ้ำรอยประวัติศาสตร์ให้การเลือก ป.ป.ช. มีความด่างพร้อย ตนไม่อยากให้สังคมมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม มองว่าสว.กลุ่มนี้ไม่ได้รับเลือกแล้วเลยพาล ยืนยันว่าไม่ใช่เช่นนั้น แต่นี่เป็นเรื่องอำนาจหน้าที่ของประชาชน ถ้าเรารักชาติ รักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ต้องร่วมกันต่อต้านการแทรกแซง และการเข้าไปมีส่วนครอบงำองค์กรอิสระต่างๆ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารกัมพูชาขุด “คูเลต” ลากยาว 650 เมตร

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- เปิดภาพ! “คูเลต” ทหารกัมพูชาขุดลากยาว 650 เมตร จากต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว จุดปะทะทหารไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี หลังพบขุดคูเลต จากจุดต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว ระยะทาง 650 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา เพราะเป็นการละเมิด MOU 2543 เป็นครั้งที่ 2 แต่ทางทหารกัมพูชากับยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน โดยช่วงนี้อยู่ระหว่างการเจรจาของผู้นำในพื้นที่ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายทหารไทยยืนยันว่าให้ทหารกัมพูชา ออกจากพื้นที่อ้างสิทธิพร้อมกัน-313 .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ ทหารไทยเข้าเจรจากลับยิงสวน ลั่นปกป้องอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 เต็มที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังพลของกองกำลังสุรนารีได้ลาดตระเวนและพบว่า ทหารกัมพูชาขุดคูเลต เช่นเดียวกับเนิน 745 ช่องบก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา แต่ทางกัมพูชา ยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน อย่างที่เป็นข่าว สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่กำลังพูดคุยเจรจา “ยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตาม MOU 2543”.-313.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารกัมพูชา

ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณช่องบก คลี่คลายแล้ว

กองทัพบก 28 พ.ค.-ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชา ได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ […]

มติเอกฉันท์ สภาอนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล”

รัฐสภา 28 พ.ค.- สภาเอกฉันท์อนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล” ให้ธนาคารร่วมชดใช้ค่าเสียหายจาก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เร่งคืนเงินผู้เสียหาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ วาระการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งแบ่งเวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 2 ชั่วโมง รวม 4 ชั่วโมง และจะเป็นการรวมพิจารณา และแยกลงมติทีละฉบับ โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอหลักการว่า เนื่องจากปัจจุบัน มี พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ยังมีมาตรการบังคับทางกฎหมายที่ยังไม่เพียงพอ กับรูปแบบอาชญากรรม กลุ่มมิจฉาชีพ จึงต้องแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย เช่น การเร่งคืนเงินให้ผู้เสียหาย, การอาญัติบัญชีม้า, การกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และมาตรการการโอนเงินผิดกฎหมาย ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้ สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยนายจุติ […]

ข่าวแนะนำ

จับแล้ว “เกม” มือยิงยัดถังถ่วงอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ

นครสวรรค์ 29 พ.ค. – เมื่อสัปดาห์ก่อน เกิดเหตุสะเทือนขวัญ พบศพถูกยัดใส่ถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร โยนทิ้งในอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ จ.นครสวรรค์ วันนี้จับผู้ต้องหาได้แล้ว จากเหตุสยองอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ เมื่อมีผู้พบศพชายปริศนา ถูกยัดอยู่ภายในถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร ลอยอยู่ใกล้กับตลิ่ง เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ตำรวจ สภ.ตะคร้อ ต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อหาคำตอบให้กับเหตุการณ์อันโหดเหี้ยมนี้ เบื้องต้นสามารถยืนยันได้ว่าชายดังกล่าวเสียชีวิตมาแล้ว 3-5 วัน และมีร่องรอยถูกยิงด้วยปืนลูกซอง จากการตรวจสอบในถังพลาสติกยังพบก้อนหินขนาดใหญ่ ถุงปุ๋ย และกระเป๋าสะพายข้าง ไปจนถึงโทรศัพท์มือถือ ทำให้สามารถค้นหาและทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายจุฑาเพชร หรืออ้วน อายุ 44 ปี ที่รับจ้างทำไร่ในพื้นที่ อ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี จากการสืบสวนและแกะรอยจากกล้องวงจรปิดมานานกว่า 1 สัปดาห์ ทำให้พบว่านายปารวี หรือเกม อายุ 35 ปี เป็นผู้ก่อเหตุ เมื่อตรวจสอบรถกระบะและห้างนาของนายเกม ยิ่งพบหลักฐานสำคัญที่ยืนยันได้ว่านายเกมคือคนร้าย […]

ตั้ง 2 ประเด็น เหตุบุกยิง ครู-อส. งานแข่งตะกร้อ

นราธิวาส 29 พ.ค. – เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานเหตุคนร้ายยิงถล่ม สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส คาดผู้ก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 10 คน ด้านภรรยาตำรวจที่เสียชีวิต ร่ำไห้ทำใจไม่ได้ ส่วนเหตุบุกยิง ครู-อส. กลางงานแข่งตะกร้อ จนท.ตั้ง 2 ปมก่อเหตุ “ปัญหาส่วนตัว-ความมั่นคง” จากเหตุคนร้ายลอบยิงตำรวจขณะเข้าแถวเคารพธงชาติ ที่สถานีตำรวจภูธรจะแนะ ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส และยิงใส่ป้อมรักษาการประตู กระทั่งเกิดการยิงตอบโต้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงประมาณ 15 นาที จนกลุ่มผู้ก่อเหตุหลบหนีไป หลังเกิดเหตุ ส.ต.อ.อับดุลเลาะ มะกาเซ็ง อายุ 30 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และสิบตำรวจเอก เจษฎา พรหมรัตน์ อายุ 33 ปี บาดเจ็บสาหัส เมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านตำรวจที่เสียชีวิต เป็นสถานที่จัดงานให้ชาวบ้านมาร่วมทำบุญและแสดงความเสียใจกับครอบครัว หลังนำร่าง ส.ต.อ.อับดุลเลาะ ประกอบพิธีฝังศพที่กูโบร์บ้านบาเร๊ะบาโร๊ะ เมื่อคืนที่ผ่านมา (28 พ.ค.) นางสาวนุชฮูดา […]

ทางออก 3 ข้อ ไทย-กัมพูชา ตกลงร่วมคลี่คลายสถานการณ์ช่องบก

อุบลราชธานี 29 พ.ค. – สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เช้าวานนี้ (28 พ.ค.) บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ขณะนี้เข้าสู่วันที่ 2 แม้ไม่มีการปะทะเพิ่มเติม แต่เจ้าหน้าที่ยังตรึงกำลังแน่นหนา ส่วนชาวบ้านในพื้นที่เริ่มเตรียมความพร้อมสำหรับการอพยพ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่การแก้ปัญหาที่สำคัญคือ ผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองประเทศได้คุยกันแล้ว เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นได้ข้อสรุป 3 ข้อ.-สำนักข่าวไทย

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]