“ปกรณ์วุฒิ” ป้อง บอกยังไม่ถวายสัตย์ จะไปกล่าวหาไม่ได้

รัฐสภา 18 ก.ย.-“ปกรณ์วุฒิ” ป้อง บอกยังไม่ถวายสัตย์ จะไปกล่าวหาไม่ได้ หลังถูกจี้ถาม “ครม.อนุทิน” ไล่เช็กบิล จนท. ทำคดี “เขากระโดง-ฮั้ว สว.” ถาม ครม. รักษาการทำอะไรไม่ได้หรือ บอกบวกเลขเก่ง ย้อนถามสื่อ เสียงในสภาเพิ่มขึ้นแล้วหรือ เชื่อไม่มีทางเป็นไปได้ “ภูมิใจไทย” พลิกเป็นเสียงข้างมาก ถ้าไม่มีพรรคแตก เหน็บพรรค 132 เสียง สส. จะลดลงอีกหรือไม่

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีราย รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์แสดงความเห็นว่าพรรคประชาชนไม่ทันเกมการเมืองพรรคภูมิใจไทย ว่า ตนน้อมรับทุกความเห็นทั้งผู้สนับสนุนพรรคสมาชิกพรรค ก็มีความเห็นต่าง แม้กระทั่งประชาชนทั่วไปก็เป็นเรื่องปกติ ตนน้อมรับความคิดเห็นของนายชูวิทย์ด้วยความเคารพ และได้ติดตามมานานตอนที่ ลงเล่นการเมืองตนก็ได้เลือกพรรคนายชูวิทย์ด้วย ซึ่งถ้าหากถามว่าทันเกมการเมืองหรือไม่ ตนคิดว่าพรรคของเรามาทำงานการเมือง ดังนั้นการตัดสินใจในแต่ละครั้งก็ต้องคิดดี ๆ ว่าตัดสินใจบนพื้นฐานความนิยมของพรรคหรือผลประโยชน์สูงสุดของประเทศ โดยหัวหน้าพรรคก็ได้พูดไปหลายครั้งว่า เรามองบนโอกาสสูงสุด ที่จะทำให้เกิดการยุบสภาและคืนอำนาจให้ประชาชน โดยเร็วในเวลาที่เหมาะสม และเปิดประตูบานแรกสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราไม่ได้เอาฐานความนิยมของพรรคมาเป็นตัวตั้ง แต่เราเอาฐานสิ่งที่เราอยากเห็นภาพของประเทศในอนาคตเป็นตัวตั้ง แต่น้อมรับทุกคำวิจารณ์ จะบอกว่าเราไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองหรืออะไรก็ตามก็เป็นคำวิจารณ์ที่เราพร้อมน้อมรับอยู่แล้ว


เมื่อถามว่ามีคนไหลเข้าพรรคภูมิใจไทยเยอะ เพราะการโหวตของพรรคประชาชนในวันนั้นเป็นการเพิ่มฐานให้พรรคภูมิใจไทยในวันนี้หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนคิดว่ามันเป็น “What If” ที่เราตอบไม่ได้ ตนคิดว่าสื่อมวลชนก็ทราบดีว่าบางพรรคมีสัญญาณของการแตกมานานแล้ว ต่อให้เกิดหรือไม่เกิดเหตุการณ์นี้เขาก็อาจจะไหลไปทางนั้นอยู่ดี มันเป็น What if ที่ตอบไม่ได้ คงจะไม่สามารถพิสูจน์ได้ก็ไปดูที่การเลือกตั้งครั้งหน้า

เราก็ยืนยันในการหาเสียงและรณรงค์ในการเลือกตั้งแบบเดิม อยากให้ทุกพรรคใช้อุดมการณ์ เราไม่ได้มีปัญหากับเรื่องบ้านใหญ่ การใช้กระแสในท้องถิ่นในพื้นที่เล็ก ๆ ในความเป็นผู้มีอิทธิพล เราไม่เห็นด้วยกับการทำการเมืองแบบนั้นมากนัก และเราก็พยายามผลักดันการเมืองให้เป็นไปในทางที่เป็นอุดมการณ์เป็นหลัก


เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรในเมื่อเสียงพรรคภูมิใจไทยเพิ่มขึ้น นายปกรณ์วุฒิ ย้อนถามว่ายังไม่ได้เลือกตั้งเลยเสียงเพิ่มขึ้นอย่างไร ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่าเสียงในสภา แต่นายปกรณ์วุฒิก็ถามต่อว่า

“เสียงในสภาเพิ่มขึ้นแล้วหรอครับ พูดถึงเสียงข้างมากใช่หรือไม่ ตนต้องบอกว่า พรรคประชาชนมี 142 พรรคเพื่อไทยมี 141 อาจจะไปแล้ว 9 คน เหลือ 132 พรรคประชาชาติ มีอยู่ 9 เสียง บวกกันดี ๆ นะครับ 280 กว่านะครับ จะเป็นเสียงข้างมากได้อย่างไร ถ้าพรรคบางพรรคไม่แตก ผมคิดว่าความพยายามเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากต้องดูตั้งแต่วันที่โหวตนายกฯ แน่นอนว่าเราไปห้าม สส.ไม่ให้ไปโหวตฝั่งไหนไม่ได้อยู่แล้ว บางพรรคที่มีมติอย่างหนึ่ง แต่ สส.ก็โหวตอีกอย่างหนึ่ง เราคงไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นความผิดใคร แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ พรรคภูมิใจไทยจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากได้ต้องมีพรรคใหญ่แตกแบบจริงจังเลย เพราะฉะนั้นเรื่องเสียงข้างมากยังไม่มีความใกล้เคียง ผมว่ามันเป็นการตีตนไปก่อนไข้มาก ๆ” นายปกรณ์วุฒิกล่าว

เมื่อถามว่าถ้าเสียงเพิ่มขึ้นถือว่าผิดสัญญาหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ในMOA ระบุว่าไม่กระทำการใด ๆ เพื่อให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก การจับตาให้ทำตาม MOA เราจับตาอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว เรามองอยู่ตลอด


“อย่างที่บอกตัวเลขอยู่ในหัวผมตลอด ผมเก่งเลขครับ มัน 290 บาทตอนนี้ ถ้ามันไม่มีพรรคไหนที่แตกเป็น 30-40 เสียง มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก พรรคประชาชน อยู่ที่เดิม 140 กว่าเสียง อาจจะฝากไปตั้งคำถามกับอีกพรรคนึงก็ได้ ว่าจะลดจาก 132 (เสียงของพรรคเพื่อไทย) อีกหรือไม่” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

เมื่อถามว่าเห็นโผของคณะรัฐมนตรีแล้วรู้สึกคุ้มค่าต่อการโหวตให้หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนว่า 4 เดือนแน่นอนว่ามีหลายรายชื่อที่น่าชื่นชม แต่ต้องบอกว่ารายชื่อเหล่านี้มาไม่ได้เลยถ้าไม่มีพรรคประชาชนประกาศว่าไม่รับเก้าอี้ใด ๆ เพราะมันมีโควตาเหลือที่ไม่ต้องไปแบ่งให้พักร่วมรัฐบาลอื่น แต่โควตาคนนอกก็ถือว่าเป็นหน้าตาที่ดีอาจแก้ปัญหาระยะสั้นที่เราได้เคยพูดคุยกันไว้แล้ว เพราะหากไปดูตำแหน่งของคนนอกจะอยู่ที่กระทรวงเศรษฐกิจและความมั่นคง ต้นคิดว่าพอจะแก้ปัญหาระยะสั้นได้บ้าง ส่วนครม. ที่เป็นสัดส่วนพรรคการเมืองตนคิดว่าก็ไม่แตกต่างจากรัฐบาลเพื่อไทยเท่าไหร่ ไม่ได้ผิดหวังสมหวังหรือว่าแปลกใจอะไร

สำหรับที่คนวิจารณ์ว่ามีรัฐมนตรีบุรีรัมย์ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า พูดตรงๆก็คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ก็จับตาอย่างใกล้ชิดเราอาจได้เห็นการอภิปรายนโยบาย ที่ชี้ให้เห็นว่ามีการตั้งรัฐมนตรีบางคนเพื่อมาทำการอะไรบางอย่างใน 4 เดือนนี้หรือไม่การตรวจสอบเริ่มขึ้นแล้ว

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าได้มีการดำเนินการล่วงหน้าเช็คบิลเจ้าหน้าที่ที่ทำคดีเขากระโดง และฮั้วสว.แล้ว นายปกรณ์วุฒิ ก็ย้อนถามว่าทำอย่างไร

“แล้วครม.รักษาการทำอะไรไม่ได้เลยหรือครับ ต้องบอกว่าก่อนหน้านี้ครม.รักษาการคือพรรคอะไรนะครับ รัฐบาลของพรรคเพื่อไทยถูกหรือไม่ ต้องถามว่าก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยก็เคยถามเรื่องฮั้วสว.และเขากระโดงกับพรรคประชาชน ต้องถามกลับว่าช่วงที่เป็นครม.รักษาการได้กระทำการใด ๆ ที่จะทำให้เรื่องนี้เป็นไปตามกระบวนการหรือไม่ มากแค่ไหน อย่างเมื่อวานนี้ที่มีการพาดหัวข่าวเรื่องเขากระโดงผมก็คิดว่าบางสื่อพาดหัวเกินจริงไปนิดนึง จะเห็นว่ากำลังรอคำพิพากษาจากศาลปกครอง ซึ่งผมก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติ จะให้รัฐบาลไปทำอะไรครับ ต้องรอคำพิพากษา คดีฮั้วสว.แน่นอนว่าเราก็ติดตาม และคาดหวังว่ากระทรวงยุติธรรม DSI จะทำงานอย่างเต็มที่ไม่มีข้อกังขา และเข้าไปเป่าคดีอะไรแต่คดีที่ใหญ่ขนาดนี้ 4 เดือนไม่ทันอยู่แล้ว การสืบสวนสอบสวนอะไรผมไม่รู้หรือเปล่าว่าจะทันด้วยซ้ำ เพราะใช้เวลาหลายปีอยู่แล้วกับคดีที่ใหญ่ขนาดนี้ แต่เราติดตามอย่างใกล้ชิดแน่นอน ว่ามีการแทรกแซงหรือไม่” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

เมื่อถามว่าขณะนี้เสี่ยงแล้วหรือยังที่จะมีการแทรกแซง นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนคงไม่สามารถตอบได้ เพราะเราไม่ได้เห็นพฤติกรรมใด ๆ อาจเห็นข่าวว่าคนนี้ทำแบบนั้นคนนั้นทำแบบนี้ แต่อย่าลืมว่ารัฐบาลยังไม่เข้าถวายสัตย์ฯ และยังไม่มีอำนาจอะไร จะไปกล่าวหาครม. ที่ยังไม่ได้ถวายสัตย์ฯ ตนคิดว่าไม่สามารถทำได้ในฐานะผู้แทนราษฎร

เมื่อถามยามว่าเป็นเรื่องผิดปกติหรือไม่ เพราะมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่หลายส่วนที่ทำคดีเหล่านี้ ถูกเรียกกลับหรือชะลอไม่ให้ดำเนินการ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียด แต่ถ้าเป็นการชะลอเรื่องคดีที่อยู่ในศาลปกครองตนถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่แน่ใจในรายละเอียดจริง ๆ ว่าการระงับครั้งนี้เกิดจากกระบวนการอะไร การกระทำที่ไม่รอคำพิพากษาต่างหากที่ถือว่าผิดปกติ ยืนยันว่าพรรคประชาชนตรวจสอบเรื่องนี้คาดหวังว่าจะไม่มีการแทรกแซง

“ผมย้ำอีกครั้งครม.ยังไม่ได้ถวายสัตย์ ยังเป็นครม.เดิม คุณอนุทินยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์แถลงนโยบาย ยังไม่มีอำนาจที่จะไปสั่งการใด ๆ ดังนั้นตอนนี้ผมไม่สามารถไปกล่าวหาว่าเขาทำอะไรหรือไม่ทำอะไรได้บ้าง ต้องรอการแถลงนโยบาย” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

ผู้สื่อข่าวจึงถามเจาะไปที่คดีฮั้วสว. ที่เจ้าหน้าที่ถูกเรียกตัวไม่ให้ดำเนินการต่อ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ตนไม่ทราบข้อมูลเลย แต่พรรคประชาชนมีทีมงานที่ดูเรื่องนี้อยู่ แต่ตนไม่ทราบข้อมูลจึงไม่สามารถตอบคำถามได้.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเสริมกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – ตำรวจเสริมกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังวานนี้ชาวกัมพูชาพยายามเข้ามาทำลายทรัพย์สิน รื้อลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยไทย จนเจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกไป ที่วัดหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาพยามเข้ามารื้อลวดหนาม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินราชการในพื้นที่บริเวณอธิปไตยของไทยอีกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายมีการดำเนินการอย่างที่ปฏิบัติมาเมื่อวานนี้ตามหลักสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะจากข้อมูลตามเพจ พบชาวกัมพูชาระดมมวลชนเพิ่ม ดังนั้น วันนี้นอกจากตำรวจในจังหวัดสระแก้วแล้ว ยังมีการเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอีก 2 กองร้อย 340 คน ได้แก่ ตำรวจจากปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ทางกองทัพบกย้ำว่าจุดปะทะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้ารุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ. -สำนักข่าวไทย

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย

สภาหอการค้าไทย 18 ก.ย.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย ย้ำนำชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ แล้ว ลั่นลุยงานทันที หลังโปรดเกล้าฯ เผย “เอกนิติ” คัด รมช.คลัง มาเองกับมือ โวเร่งเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อพบกับทุกคน และมีว่าที่รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับตน เจอกันมานาน มีความสนิทสนมคุ้นเคย เคารพนับถือกันเป็นอย่างดี นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่มาวันนี้ เพื่อมาพบทุกท่านและนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมาแนะนำให้รู้จัก เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจมารับฟังรายละเอียด และรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นรัฐบาลที่จะเน้นในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ นายอนุทินยังแนะนำผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส […]

พายุในทะเลจีนใต้ ส่อแรงขึ้นเป็นโซนร้อน ทำฝนเพิ่มระยะนี้

กรุงเทพฯ 18 ก.ย.-กรมอุตุฯ เตือนพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน แม้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ส่งผลให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านตอนกลางประเทศ ทำให้ไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และบางพื้นที่อาจมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ย้ำจะมีฝนตกต่อเนื่องถึงต้นเดือนตุลาคม นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศเปิดเผยว่า พายุลูกดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 19.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 120.0 องศาตะวันออก บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ เคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้วในช่วงเช้าวันนี้ (18 ก.ย.) โดยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกเล็กน้อย ด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 19–20 กันยายน 2568 ทั้งนี้แม้พายุไม่ได้เข้าไทยโดยตรง แต่จากอิทธิพลทางอ้อมของพายุ จะดันให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 18–25 กันยายนนี้ พื้นที่ที่มีแนวโน้มฝนตกสะสมในระดับเสี่ยง ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน […]

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย