วุฒิสภารับหลักการร่าง พ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

รัฐสภา 31มี.ค.- “วุฒิสภา” รับหลักการร่าง พ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เห็นด้วยปลดล็อกโฆษณา “เทวฤทธิ์” ชี้ต้องทำให้รายย่อยมีโอกาสแข่งกับรายใหญ่ ขณะที่ “สว.พรชัย” ให้ยกเลิก ม.32 ส่งเสริมสุราชุมชนให้เป็นที่รู้จัก สามารถประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จัก กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ด้าน “นันทนา” เแนะนำ “ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้” ทำสาเกแข่งญี่ปุ่น ทำแชมเปญแข่งฝรั่งเศส


ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่.. พ.ศ….ที่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ไปแล้วเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2568 ที่สามารถโฆษกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า-เบียร์ได้ โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา(วิปวุฒิสภา) ได้มอบหมายให้คณะกรรมาธิการ(กมธ.)จำนวน 3 คณะเป็นผู้พิจารณาศึกษาร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของสมาชิก คือ1. กมธ.การท่องเที่ยวและการกีฬา 2. กมธ.การพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส และความหลากหลาย ทางสังคม และ 3.กมธ.การสาธารณสุข

โดยเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว.อภิปรายว่า ในส่วนของการโฆษณา บางเรื่องเราอาจจะเห็นว่าการโฆษณาแนบเนียน ซึ่งคนที่สามารถทำได้ก็คือผู้ค้ารายใหญ่ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาแฝง หรือเอาสินค้าที่มีลักษณะใกล้เคียงกันมาแต่รายย่อยทำไม่ได้ ดังนั้นการจำกัดกำแพงที่สูงขึ้นสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือขาที่จะก้าวข้ามกำแพงไปสู่ผู้บริโภคไม่เท่ากันแน่นอน และต้องเท่าทันสื่อซึ่งทำได้โดยไม่อาจเซ็นเซอร์หรือปิดหูปิดตาด้วยการควบคุมกำกับแต่การให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาเปิดเผยโปร่งใสจะสร้างความตระหนักรู้ให้เท่าทันโฆษณาหรือการรณรงค์ต่างๆ การปล่อยให้เสรีและเป็นธรรมจะทำให้ประชาชนตระหนักรู้ การที่ตั้งกำแพงสูงเกินไปนอกจากจะทำให้ประชาชนไม่รู้ข้อมูลแล้ว อาจจะเป็นการทำลายเป้าหมายของตัวเองด้วยการเซ็นเซอร์ ดังนั้นต้องทำอย่างเสมอภาคทั้งฝ่ายทุนใหญ่และทุนเล็ก ไม่ใช่ปล่อยให้ทุนใหญ่สามารถทุ่มการรณรงค์โฆษณาได้อย่างเต็มที่ โดยที่ฝ่ายทุนเล็กไม่สามารถแข่งได้


ด้านนายพรชัย วิทยเลิศพันธุ์ สว.อภิปรายว่า ตนยังไม่เห็นภาพการบังคับใช้กฎหมายจะมีกลไกการตรวจสอบอย่างไร จะให้ตำรวจสุ่มตรวจผู้ที่ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ หรือจะให้เกิดเหตุก่อน เช่นเมาแล้วขับ เมาแล้วอาวะวาดก่อน หรือเจอผู้เยาเมาก่อน ถึงจะไปเอาผิดกับผู้จำหน่ายหรือ นั้นจำเป็นจะต้องกำหนดกลไกการบังคับใช้กฎหมายก่อนหรือไม่ ทุกที่ที่จำหน่ายเหล้าควรมีการติดตั้งวงจรปิดไว้หรือไม่เพราะถ้าไม่ชัดเจนอาจมีเอื้อให้เกิดการเรียกสินบนจากร้านค้า ร้านอาหาร ผับ บาร์ ต่างๆ โดยผู้บังคับใช้กฎหมายมากขึ้นหรือไม่ เรารู้กันอยู่แล้วว่าธุรกิจกลางคืนการส่งสวยให้ตำรวจเป็นเรื่องธรรมดาอยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านานจึงกลัวว่าร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้จะทำให้เกิดปัญหาส่วยตำรวจนี้รุนแรงยิ่งขึ้น

นายพรชัย กล่าวต่อว่า ส่วนข้อกำหนดการโฆษณาใหม่จะยุติธรรมสำหรับกลุ่มสุราชุมชนหรือไม่ เพราะไม่มีมาตรการใดที่จะช่วยสนับสนุนให้สุราชุมชนสามารถโฆษณาผลิตภัณฑ์ของตนเองให้เป็นที่รู้จักของประชาชนและลืมตาอ้าปากได้เลยจึงอยากถามว่าแล้วผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่เป็นที่รู้จักมาก่อนจะประชาสัมพันธ์ตนเองจนเป็นที่รู้จักได้อย่างไร ดังนั้นตนขอเสนอว่า ให้ยกเลิกมาตรา 32 ที่ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อมเฉพาะสำหรับสุราชุมชน เพื่อเป็นการปลดล็อคและสามารถประชาสัมพันธ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ให้ผู้ผลิตสุราชุมชนสามารถประชาสัมพันธ์สินค้าและพูดถึงผลิตภัณฑ์ของตัวเอง สัญลักษณ์ ส่วนประกอบวิธีการจัดการการผลิต แหล่งที่มาหรือลักษณะของผลิตภัณฑ์ได้ ซึ่งจะเป็นการช่วยส่งเสริมสุราชุมชนของไทยให้เป็นที่รู้จักกว้างขวาง และส่งเสริมซอฟพาวเวอร์ของประเทศไทยได้ด้วย

ขณะที่น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.อภิปรายว่า คิดว่ากฎหมายฉบับนี้เปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่างในประเทศไทย โดยเฉพาะวิธีคิดของคนไทยเกี่ยวกับความสมดุลทางสังคม ผ่านมาอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของไทยแทบจะเป็นการผูกขาดของผู้ผลิตรายใหญ่ไม่กี่ราย เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรายใหม่ยากมากด้วยการห้ามโฆษณาอย่างเข้มงวด แบรนด์ที่คนรู้จักอยู่แล้วหากินได้สบาย ตลาดขยายตัว แต่รายใหม่แจ้งเกิดไม่ได้ ถึงจะคุณภาพดีอย่างไรแต่โฆษณาไม่ได้ก็ไม่ได้เกิด รวมทั้งข้อกำหนดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทยอยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศซาอุดิอาระเบีย ระบบภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทยทำให้ชาวตะวันตกตกใจกันมากไม่ว่าจะเป็นไวน์ วิสกี้ หรือเบียร์ยี่ห้อที่ขายอยู่ในประเทศไทยราคาสูงกว่าที่ขายอยู่ในยุโรป 2-3 เท่า ทั้งหมดนี้อาจจะส่งผลดีในแง่ดีสาธารณสุขหรือปัญหาความปลอดภัยบนท้องถนน แต่มีผลลบทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างมาก


“อุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีมูลค่ารวม 3 แสนล้านบาท ประมาณ 1.6% ของจีดีพีในประเทศไทย แล้ววันนี้ประเทศไทยมีผู้ผลิตกี่ราย ถ้าที่ร้อยเอ็ด ภูเก็ต เชียงราย มีคนอยากจะทำบ้างจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ เราเป็นประเทศที่เคร่งศีลธรรมกัน แต่ของแบรนด์รวยกันสุดๆ อย่างนี้เรากำลังปกป้องผลประโยชน์ใครอยู่ คงไม่ต้องพูดถึงโอกาสการส่งออกของประเทศแต่โอกาสที่ประเทศไทยจะใช้ภูมิปัญญาหรือนวัตกรรมไปหารายได้จากต่างประเทศ โอกาสที่จะเอาวัตถุดิบทางการเกษตรเข้ามาสร้างอุตสาหกรรมแล้วนำรายได้เข้าประเทศ ลองคิดดูเราเป็นประเทศที่มีผลผลิตข้าวมากมายล้นตลาด จนกระทรวงพาณิชย์ปวดหัวอย่างมากในการหาตลาดระบายข้าว ทำไมเราไม่เอาข้าวหอมมะลิจากทุ่งกุลาร้องไห้มาทำเอาสาเกแข่งกับญี่ปุ่นดูบ้าง ดังนั้นการที่ประเทศไทยจะผ่อนปรนเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีความหมายเป็นอย่างมาก น่าจะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพมากในเวลาที่สถานการณ์เศรษฐกิจกำลังวิกฤตอยู่ในขณะนี้ ถ้าสาเกหรือสาโทของไทยโด่งดังไประดับโลกแบบญี่ปุ่น หรือแชมเปญของฝรั่งเศส ชื่อเสียงเศรษฐกิจของประเทศไทยจะรุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาลขนาดไหน จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะให้คนไทยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเข้าไปเปิดตลาดกับชาวโลกบ้าง”น.ส.นันทนา กล่าว

น.ส.นันทนา กล่าวต่อว่า ตนมีข้อสังเกตต่อร่างกฏหมายฉบับนี้ 3 ประการคือ 1. ให้น้ำหนักมิติด้านสาธารณสุขมากเกินไปหรือไม่ มาตรา 10 คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับชาติก็ให้รมว.สาธารณสุข เป็นประธาน รองประธานก็เป็นปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่เรื่องนี้มีมิติที่หลากหลายทั้งเศรษฐกิจและสังค การหารายได้เข้าประเทศ หรือแม้แต่ที่รัฐบาลเรียกว่าซอฟพาวเวอร์ 2.บทลงโทษ สำหรับความผิดภายใต้กฎหมายฉบับนี้มาตรา 37 ที่มีการปรับหลักแสนบาทและอาจสูงถึง 5 แสนบาท รวมทั้งมีโทษจำคุก ถือว่าหนักมากทำอย่างกับว่าแอลกอฮอล์เป็นเครื่องดื่มร้ายแรงเหมือน ฝิ่น เฮโรอีน ยาบ้า ซึ่งเทียบกันไม่ได้ และ 3. มาตรา 31 มีอำนาจหน้าที่กับเจ้าหน้าที่กว้างขวางมาก สามารถเข้าไปในพื้นที่ในเวลาใดก็ได้ เรียกขอดูเอกสาร ตรวจสอบพยานหลักฐานที่จะใช้ในการดำเนินคดี ยึดอายัดเครื่องดื่มใดๆ แม้กระทั่งปิดร้านได้เลย เขียนแบบนี้ทำราวกับว่าไวน์ เบียร์ รุนแรงเท่ากับยาเสพติด ที่สำคัญกำลังตีเช็คเปล่าให้กับเจ้าหน้าที่ ในที่สุดก็จะกลายเป็นแหล่งทำมาหากินของคนมีสี หากมีความไม่ถูกต้องก็ควรดำเนินการตามกฎหมายปกติ ประเด็นเหล่านี้ตนไม่เห็นด้วยจึงขอไปแปรญัตติในชั้นคณะกรรมาธิการต่อไป

หลังสมาชิกอภิปรายเสร็จสิ้นที่ประชุมทลงมติรับหลัการวาระที่ 1 เห็นด้วย 139 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ถือว่าที่ประชุมเห็นชอบรับร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ไว้พิจารณา และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน 27 คน แปรญัตติภายใน 7 วัน .312.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]