ทำเนียบ 19 ก.ย.-เยาวชน ยื่น 3 ข้อเรียกร้อง ค้าน พ.ร.บ.กาสิโนถูกกฎหมาย เชื่อส่งผลกระทบทุกมิติแก่เด็กและเยาวชน วอนนายกฯ ในฐานะที่เป็นแม่เห็นแก่อนาคตลูก
เครือข่ายเยาวชน ประกอบด้วย เด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายบางกอกนี้ดีจัง เครือข่าย Youth Club เด็กมีภูมิ เครือข่ายนักสื่อสารสุขภาวะรุ่นใหม่ ภาคีเครือข่ายเยาวชนและเครือข่ายผู้ปกครองในสถานศึกษา เดินทางมายื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความกังวลต่อนโยบายอบายมุขบนดินของรัฐบาล และเรียกร้องให้หยุดการเดินหน้ากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงครบวงจร ที่มีแหล่งพนันหรือกาสิโน โดยนำโมเดลกาสิโนจำลองมาคืนให้กับรัฐบาล เพื่อแสดงออกถึงการไม่ยอมรับ และคัดค้าน เป็นการส่งเสียงสะท้อนของเด็ก เยาวชน ที่กำลังจะเติบโตเป็นอนาคตของชาติ เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ ในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ย.)
นายรวิศุทธ์ คณิตกลเศรษฐ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กมีภูมิ กล่าวว่า จากคำแถลงนโยบายของนายกฯ ต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา เรื่อง นโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลจะดำเนินการทันที โดยเฉพาะนโยบายที่ 4 การสร้างรายได้ใหม่ด้วยการนำเศรษฐกิจนอกระบบและเศรษฐกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบภาษี และนโยบายที่ 7 การเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เช่น สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เป็นที่ทราบกันดีว่าจะมีสถานกาสิโนเป็นส่วนประกอบสำคัญ ทำให้น่ากังวลเป็นอย่างยิ่งว่านโยบายดังกล่าวจะสร้างสภาวะแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัยเพิ่มขึ้นในสังคม ทั้งการเพิ่มขึ้นของแหล่งพนันออนไลน์ และบ่อนการพนันถูกกฎหมายขนาดใหญ่ ที่อาจส่งผลกระทบทุกมิติแก่เด็ก เยาวชน และครอบครัว เพราะการเพิ่มแหล่งพนันเท่ากับการเพิ่มการดูดขับทรัพย์สินออกจากครัวเรือน และก่อให้เกิดการกระจายรายได้ที่เลวลง สิ่งเหล่านี้อาจนำมาสู่ปัญหาสังคมและผลกระทบมากมาย โดยเฉพาะปัญหาการเพิ่มขึ้นของผู้เล่นพนันที่มิอาจยับยังชั่งใจตนเองได้ จนนำมาสู่การเบียดเบียนครอบครัว การทะเลาะเบาะแว้ง และการใช้ความรุนแรง นอกจากนี้การเพิ่มขึ้นของการพนันถูกกฎหมายด้วยนโยบายของรัฐบาล จะกลับกลายเป็นการส่งเสริมการมีพฤติกรรมที่ไม่ไม่เหมาะสม สนับสนุนให้ประชาชนหวังรวยทางลัด โดยไม่คิดจะทำงาน เกิดแบบอย่างที่ไม่ดี และสร้างความย้อนแย้งสับสนให้แก่เด็กและเยาวชนผู้จะเติบโตมาเป็นอนาคตของประเทศ
นางสาววศิณี สนแสบ ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน กล่าวว่า ในฐานะที่นายกรัฐมนตรีเป็นมารดาของบุตรทั้งสองคน และเป็นที่จับตามองของแม่ทั้งประเทศ เครือข่ายเด็กเยาวชนและครอบครัว จึงขอเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี ดังนี้ 1.ขอให้ทวนโยบายการสนับสนุนการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย และการสนับสนุนให้มีสถานกาสิโนถูกกฎหมาย ด้วยการหยุดการเดินหน้าร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. รวมทั้งแนวคิดในการจะออกฎหมายหรือมาตรการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มอบายมุขบนดินต่างๆ ที่มีอยู่และอาจจะมีตามมา
2.ขอให้เร่งผลักดันให้เกิดการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมและลดปัญหาจากการพนัน โดยเฉพาะอย่างยิงพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.ศ.2478 ซึ่งถือเป็นกฎหมายที่ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย และเร่งยกเครื่องการบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมการพนันให้มีประสิทธิภาพ โดยการตั้งหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ มีอำนาจหน้าที่ที่มากพอ และมีความเป็นอิสระจากการแทรกแซงของฝ่ายใด ๆ ด้วยการคำนึงถึงอนาคตของเด็กและเยาวชนเป็นสำคัญ มากกว่าผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่อาจได้ไม่มากพอกับความเสียหาย และขอให้มีการทำประชามติรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ในเรื่องนี้ด้วย เนื่องจากเป็นนโยบายที่มีผลกระทบเป็นวงกว้าง
3.เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติที่กำลังจะมาถึงนี้ ขอให้นายกรัฐมนตรีประกาศนโยบายที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วน ทั้งเอกชน และภาคสังคม ในการพัฒนาปัจจัยส่งเสริมพัฒนาการเชิงบวกแก่เยาวชน โดยความสนับสนุนอย่างเต็มที่ของรัฐบาล และขอให้รัฐเพิ่มความจริงจังในการบังคับใช้มาตราการเพื่อคุ้มครองสวัสดิการเด็กและเยาวชน
นายมนตรี แก้วกระจ่าง เครือข่ายผู้ปกครองในสถานศึกษา กล่าวว่า อยากเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีในฐานะที่เป็นแม่คนหนึ่ง ก็คงไม่อยากให้บุตรหลานของท่านเติบโตมาในสังคมที่มีอบายมุขรายล้อมรอบตัวเช่นนี้ และตราบใดที่รัฐบาลไม่แสดงผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ว่าสามารถกำกับดูแลการบังคับใช้กฎหมายได้อย่างจริงจังจัง การทุจริต คอรัปชั่น รับส่วย ได้โต๊ะ ยังเต็มบ้านเต็มเมือง ประชาชนก็ไม่อาจเชื่อมั่นได้ว่านโยบายอบายมุขบนดิน ที่รัฐบาลประกาศเดินหน้าโดยอ้างแต่ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ จะก่อให้เกิดสังคมที่ปลอดภัย มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกัมกับการเจริญเติบโตของเด็กและเยาวชน
“อยากถามท่านนายกฯว่า ท่านเชื่อจริงหรือว่านโยบายนี้จะทำให้ประชาชนมีกินมีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีได้? แทนที่รัฐบาลจะไปสนใจทำเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ร้าย รัฐบาลควรเอาทรัพยากรมาทำสถานที่ Edutainnment ให้แก่เด็กๆ ให้พวกเขามีที่เล่นและเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมที่มีความปลอดภัย จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากกว่า” นายมนตรี กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย