ทำเนียบฯ 7 ส.ค. – “ภูมิธรรม“ เปิดทำเนียบฯ รับฟังข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเครือข่ายเด็ก-เยาวชน ระบุขอชื่นชม-รู้สึกมีพลังจากได้พูดคุย ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญรับฟังเสียงของคนรุ่นใหม่ หวังนำไปจัดทำนโยบายสาธารณะให้เกิดประโยชน์
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเวทีรับฟังเสียงและข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของเครือข่ายเด็กและเยาวชน โดยมี น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ทั้งนี้ ได้การแบ่งกลุ่มเยาวชนเพื่อนำเสนอความคิดเห็น 7 กลุ่ม ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ช่วงหนึ่งโดยตัวแทนเยาวชนได้กล่าวถึงปัญหาที่ทำให้ไปไม่ถึงฝัน เนื่องจากมีความเหลื่อมล้ำในโครงสร้าง ทั้งเยาวชน ผู้พิการ ถูกตีกรอบให้เป็นเพียงผู้รับความช่วยเหลือ ถูกจำกัดสิทธิการเลือกตั้งเข้าไม่ถึงกระบวนการยุติธรรม และโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกัน ขณะที่วงจรรัฐประหาร วัฒนธรรมอำนาจนิยมที่ลดทอนการมีส่วนร่วมของเยาวชน รวมทั้งเยาวชนในต่างจังหวัดเข้าไม่ถึงสิทธิบริการ และโครงสร้างขั้นพื้นฐาน แต่ในมุมมองของเยาวชนไม่ได้มองว่าความเหลื่อมล้ำทั้งหมดนี้เกิดจากปัญหารัฐธรรมนูญที่ยังไม่ได้ฟังเสียงของเยาวชนอย่างแท้จริง จึงต้องการรัฐธรรมนูญที่รับรองสวัสดิการขั้นพื้นฐาน
นายภูมิธรรม กล่าวมอบนโยบายว่า วันนี้เป็นการแสดงเจตจำนงของรัฐบาลและรัฐมนตรีทุกคนต่อการแสดงออกของเด็กและเยาวชน และพร้อมรับฟังสิ่งต่างๆ ที่จะนำมาใช้พัฒนาและดำเนินการต่อ ปรากฏการณ์ในช่วงโควิด-19 มีเยาวชนจำนวนมากที่จบการศึกษาในเมืองและหันกลับบ้าน มีทั้งเป็นกลุ่มเยาวชนของหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรม ศูนย์วัฒนธรรมต่างๆ มีทั้งลูกหลานกลุ่มเปราะบาง ลูกชาวไร่ชาวนา ไปถึงลูกเจ้าสัวที่มีฐานะ รวมตัวกันกลับไปคิดพัฒนาพื้นที่บ้านเกิดและสร้างสรรค์ทำงานในพื้นที่ เกิดนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ดียิ่งขึ้น มีการพัฒนาคนในพื้นที่ ทั้งคนรวยและจนให้กลับไปสู่รากฐาน และได้เห็นในสิ่งที่ควรต้องทำและพัฒนาได้อย่างน่าสนใจ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอชื่นชมและรู้สึกมีพลังจากที่ได้พบพูดคุยกับคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นพลังสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศ ตนได้มีส่วนร่วมในการริเริ่มสภาเยาวชนแห่งชาติ เมื่อปี 2000 ให้นำเด็ก เยาวชน ตั้งแต่มัธยมถึงมหาวิทยาลัย เข้ามามีส่วนร่วมในการเขียนบทความ โรงเรียนในฝัน ข้อเสนอเรื่องการศึกษา ฝึกคิดและหาคำตอบ เพื่อหาตัวแทนของแต่ละจังหวัด จังหวัดละ 2 คน เข้ามาพูดคุยและนำเสนอปัญหา ได้พูดคุยกับประธานสภาฯ และนายกรัฐมนตรี จนทำให้เกิดนโยบายที่ดีหลายอย่างเกิดขึ้น
นายภูมิธรรม กล่าวว่า การรับฟังข้อเสนอวันนี้จะเป็นการสะท้อนความรู้สึกนึกคิดและกระตุ้นให้รับรู้ถึงปัญหาที่เยาวชนเสนอมา ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับฟังเสียงของคนรุ่นใหม่ และเห็นด้วยกับเด็กเยาวชนว่าข้อเสนอไม่ควรจะแค่นำเสนอ รับฟังแล้วจบ แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง หยิบเรื่องสำคัญขึ้นมาพูดในเชิงนโยบายเพื่อให้ได้ข้อสรุป เช่น เรื่องของรัฐธรรมนูญ เพื่อลงลึกและช่วยกันทำให้เป็นนโยบายสาธารณะ ทั้งนี้ รัฐบาลจะนำข้อเสนอแนะต่างๆ ไปสร้างให้เกิดประโยชน์ต่อไป
“ผู้ใหญ่ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหา แต่เมื่อผ่านโลกมามากอาจทำให้อ่อนล้าเกินไป แต่เมื่อได้ฟังแนวคิดคนรุ่นใหม่ เชื่อว่าเยาวชนที่เป็นคนรุ่นใหม่เหล่านี้จะเป็นดวงตะวันที่ส่องแสงแรงกล้าต่อไป และโลกจะฝากไว้ที่มือของเยาวชนทุกคนที่จะช่วยทำให้เกิดความร่วมมือที่กว้างขวางขึ้นในอนาคตต่อไป” นายภูมิธรรม กล่าว.-316-สำนักข่าวไทย