อาคารชินวัตร 3 วิภาวดี 11 ก.ย.- นายกฯ ยอมรับปรับรูปแบบจ่ายเงินดิจิทัล เพราะประชาชนรอไม่ได้ ยันแม้ปรับรูปแบบจ่ายเงินดิจิทัล แต่ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจตามเป้าที่วางไว้
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเป็นคนชี้แจงรายละเอียดทั้งหมด
ทั้งนี้ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ในช่วงหาเสียงระบุว่าจะได้เงิน 10,000 บาทก้อนเดียวทั้งหมด แต่เมื่อทำเป็นนโยบายวิธีการที่จะทำกับที่หาเสียงไว้ต่างกันออกไป จะชี้แจงเรื่องนี้อย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า มีความแตกต่างแน่นอน เพราะเมื่อเป็นรัฐบาลและลงมือทำ มีเรื่องของระบบที่ต้องติดตั้งอีกนานและต้องรอ แต่เศรษฐกิจรอไม่ได้ ประชาชนรอไม่ไหว จึงต้องปรับเปลี่ยนให้กับประชาชนก่อน
“เป้าหมายของเราในการทำดิจิทัลวอลเล็ต นั้นก็คือการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ แล้วกระตุ้นไม่พอ เรายังต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในแบบดิจิทัลด้วย แต่มันมาช้ากว่า เพราะฉะนั้นเศรษฐกิจต้องกระตุ้นก่อน แต่เราไม่ได้มีนโยบายเดียว ยังมีอีกหลายๆ อันที่กระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่อันนี้เป็นอันหลักเร่งด่วน เห็นผลทันที เพราะฉะนั้นจึงอยากรีบทำ” น.ส.แพทองธาร กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน จะเดินหน้าจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต เป็นก้อนเดียว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งเดียว แต่เมื่อการปรับเปลี่ยน จะมีผลกระทบต่อเรื่องที่วางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การวางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมีหลายเฟสที่ต้องกระตุ้น ซึ่งโครงการดิจิทัลวอลเล็ตก็ถือเป็นหนึ่งภาพใหญ่ที่เราต้องกระตุ้นก่อน แต่ต้องไม่ลืมโครงสร้างดิจิทัลที่ต้องต่อด้วย
“ตอนแรกจะไม่ให้เป็นเงินสดเลยทั้งหมด เป็นดิจิทัลทั้งหมด แต่อย่างที่บอกเศรษฐกิจรอไม่ได้ เราจึงต้องแบ่งเฟส ดิจิทัลยังอยู่ แต่อาจเปลี่ยนเป็นว่า 5,000 บาทหรือไม่ เดี๋ยวให้รัฐมนตรีคลังแถลงในรายละเอียด” น.ส.แพทองธาร กล่าว
ทั้งนี้ หากมีการแบ่งจ่าย ก็อาจไม่ส่งผลให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจอย่างที่รัฐบาลตั้งใจไว้นั้น อาจเป็นเพียงดีเปรสชัน นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแน่นอน แต่รูปแบบเปลี่ยนไป และขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ คลังชี้แจงอีกที และไม่กระทบกับเป้าหมายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ตั้งไว้ เพราะเรามีการแบ่งเฟสแล้ว และย้ำว่าไม่ได้มีนโยบายเดียวที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดขึ้น การแบ่งทีละเฟสและทำควบคู่นโยบายอื่นๆ ก็จะทำให้เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจอยู่ดี
ทั้งนี้ มีการมองว่า พรรคเพื่อไทยใช้วิธีการหาเสียงไปก่อน โดยที่ดิจิทัลวอลเล็ต ยังไม่เกิดขึ้นเลย และนโยบายก็ล้าช้าออกไปอีก น.ส.แพทองธาร ชี้แจงว่าที่ล้าช้าออกไป เพราะมีกระบวนการรับฟังการทำระบบดิจิทัลวอลเล็ต จากหลายๆ ฝ่าย เพื่อทำให้รัดกุมและดีที่สุด .314.-สำนักข่าวไทย