นายกฯ ชูจุดแข็งไทยท่องเที่ยว ​ทำไทยเป็นไฮซีซั่น​ตลอดปี

กทม. 12 มี.ค.- นายกฯ ปาฐกถา “โอกาสการลงทุนไร้ขีดจำกัดในประเทศไทย” ลั่น เศรษฐกิจทั่วโลกเป็นสิ่งท้าทาย พยายามเปลี่ยนความไม่แน่นอนให้เป็นโอกาสของประเทศ ขอทุกภาคส่วนทำบรรยากาศให้น่าลงทุน ชู จุดแข็งไทยท่องเที่ยว​ทำไทยให้เป็นไฮซีซั่น​ตลอดทั้งปี ดัน​ Man​ -​ Made Destination​ บอก ต่างชาติสนใจลงทุนแลนด์​บริจด์ ชม บีโอไอ ทุบสถิติรอบ 10 ปี ลงทุนพุ่ง 1.13 ล้านล้านบาท


น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษเปิดงานเผยแพร่ยุทธศาสตร์และนโยบายส่งเสริมการลงทุน ในหัวข้อ “Ignite Thailand : Invest in Endless Opportunities โอกาสการลงทุนไร้ขีดจำกัดในประเทศไทย” โดยมีพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมงาน

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีทุกวันนี้การลงทุนทั่วโลก เศรษฐกิจทั่วโลกเป็นสิ่งที่น่าท้าทาย การที่จะเกิดการลงทุนใหม่ได้เป็นเรื่องท้าทายอย่างมากเช่นกัน ทุกคนที่อยู่ในวงการภาครัฐและเอกชน วงการธุรกิจการลงทุนคงทราบดีว่าการจะหาช่องทางให้เกิดการลงทุนใหม่ไม่ได้ง่ายเหมือนหลายสิบปีที่แล้ว และตอนนี้เศรษฐกิจของเรา ค่อยๆเติบโตขึ้น และอยากให้เติบโตก้าวกระโดดกว่านี้ แต่หลายอย่างเราลงทุนช้าไป ช่วงนี้เราพยายามจะดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาให้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสให้กับประเทศของเรา ในฐานะผู้นำรัฐบาล พยายามเปลี่ยนความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ให้เป็นโอกาสของประเทศให้ได้ แต่จะเปลี่ยนได้อย่างไรทำได้อย่างไร หลายภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ภาครัฐอย่างเดียวหรือเอกชนอย่างเดียว หรือภาคประชาชนอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เกิดการลงทุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างบูรณาการ รัฐบาลแสดงความมั่นคงชัดเจนมาตลอด เราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้คนทั่วโลกทราบว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุน เป็นประเทศแห่งโอกาส มีทั้งคนและทรัพยากรพร้อม ต้องแสดงศักยภาพของประเทศให้ชัดเจน และรัฐบาลต้องสร้างโอกาสการลงทุนอย่างไม่รู้จบ เปิดทางให้ทุกคนในโลกเห็นว่าการลงทุนของเราจะต้องมีความมั่นคง เมื่อลงทุนแล้วจะได้อะไรกลับไปมากมาย เราต้องสร้างความเชื่อมั่น รวมถึงเรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ที่รัฐบาลพยายามทำในหลายโครงการให้มั่นคงยิ่งขึ้น ผลักดันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเรื่องของรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ เพิ่มการเชื่อมภาคใต้เข้าสู่ศูนย์กลางการค้าและบริการอนุมัติการลงทุนเรื่องของรถไฟสายสีม่วงและสีม่วงใต้เชื่อมกรุงเทพชั้นนอกกับชั้นในเข้าด้วยกัน


นอกจากนี้ยังมีรถไฟความเร็วสูงภาคอีสาน ระยะที่ 2 เชื่อมคมนาคมขนส่งของประเทศไทยในระดับภูมิภาค ซึ่งการสร้างรถไฟเหล่านี้นอกจากเพิ่มการขนส่งสินค้า ยังเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประเทศเราอย่างมาก นอกจากนั้นยังมีท่าอากาศยาน ที่จะเป็นการลงทุนที่สำคัญที่รัฐบาลได้เริ่มโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะ 3 มูลค่าการลงทุนเบื้องต้น 1.5 แสนล้านบาท และเริ่มพัฒนาโครงการเพื่อขยายการใช้งานท่าอากาศยานทั้งในกรุงเทพฯและภูมิภาค ถือเป็นโครงการที่สำคัญมากที่จะทำให้โลจิสติกส์ของคนไทยเข้มแข็งขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า โครงการที่สำคัญหลังจากที่ตนไปเยือน สาธารณรัฐ
ประชาชนจีน ผู้นำจีนรวมถึงประเทศอื่นสนใจอยากจะมาลงทุน คือ โครงการแลนด์บริดจ์ เชื่อมต่อ 2 ทะเล อ่าวไทยและอันดามัน จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าของภูมิภาคหากสร้างแลนด์บริดจ์สำเร็จจะเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคทันที ทุกประเทศเพื่อนบ้านต้องมาผ่านที่เราจะทำให้เกิดการเชื่อมโยงขึ้นมากมาย ทั้งการท่องเที่ยวการค้า การเกิดอาชีพใหม่ๆเกิดรายได้ใหม่ๆแน่นอนต้องเกิดขึ้นแน่ในประเทศ

นอกจากนั้นเรายังมองเห็นเรื่องการบริหารจัดการน้ำเป็นสิ่งสำคัญ ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีปัญหาเรื่องอุทกภัยน้ำท่วม ดินโคลนถล่มอย่างรุนแรง โดยเฉพาะภาคเหนือ รัฐบาล และตนเองกลับไปดูงบต่างๆใช้งบค่าเยียวยาไปเท่าไหร่บ้าง ซึ่งการเยียวยาประชาชนเป็นสิ่งที่รัฐทำได้และเต็มใจทำ แต่จะดีกว่าหรือไม่ ถ้าประชาชนไม่ต้องผ่านเรื่องราวน้ำท่วม ขนย้ายขนออกจากบ้านไม่ได้ ไม่ต้องเกิดน้ำท่วม ไม่ต้องจ่ายค่าเยียวยามั่นใจว่าประชาชนเลือกที่จะไม่เอาน้ำท่วมดีกว่า แทนการรับค่าเยียวยา การที่ได้ไปสัมผัสชาวบ้านรู้สึกเขามีปัญหาเรื่องนี้มาก ตนคิดว่าการที่เขาจะลงทุนความเป็นอยู่พี่น้องประชาชนสำคัญกว่าทุกเรื่อง ฉะนั้นรัฐบาลได้วางแผนจัดการเรื่องการทำผนังกั้นน้ำต่างๆทั้งภาคเหนือภาคอีสานและทุกพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วม เป็นสิ่งที่รัฐวางแผนใหญ่ในการแก้ปัญหาตรงนี้


นอกจากนี้รัฐบาลยังตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ ที่นักลงทุนต้องให้ความสนใจในฐานะศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์และอากาศยานของภูมิภาค เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการค้าการลงทุนของประเทศไทยต่อ ประเทศอื่นๆทั่วโลกมากยิ่งขึ้น เราพยายามสร้างและมุ่งเน้นในเรื่องความรู้สึก ทั้งรัฐบาลและเอกชนในประเทศของเราให้ความร่วมมือ ซึ่งกันและกันเพื่อให้ชาวต่างชาติ ตัดสินใจ ลงทุนที่ไทยหรือไม่ ตรงนั้นจะเกิดความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า รัฐบาลเน้นลงทุนทางด้านเทคโนโลยี Digital ธุรกิจในอนาคต semi conductor และ Data Center ต่างๆเข้ามา ถือเป็นสิ่งสำคัญเพราะจะเป็นการลงทุนระยะยาว ทำให้ทั่วโลกเห็นว่าถ้าประเทศไทยมีความพร้อมในการลงทุน ศักยภาพของคนก็มีพร้อมเช่นกัน รัฐบาลไม่ได้ละเลย คิดว่าการพัฒนาศักยภาพของคนสำคัญมากเราได้ให้นักลงทุนเข้ามามีชาวต่างชาติเข้ามาทำงาน ซึ่งเราเข้าใจว่าการศึกษาของเรายังไม่สมบูรณ์แบบในเรื่องเทคโนโลยี จึงเกิดนโยบายที่เรียกว่าโอดอสให้ทุนเด็กๆน้องๆนักเรียนได้ไปเรียนดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น ขอเน้นย้ำว่าการให้ทุนดังกล่าวไม่ใช่ให้เรียนต่อสาขาใดก็ได้ แต่ต้องเป็นสาขาที่ไทยอาจจะยังไม่มีความพร้อมมากพอ แต่ถ้าพร้อมมากพอก็เรียนต่อในประเทศไทยได้ ส่วนภาควิชาเทคโนโลยีต่างๆการสร้างทำ Data ที่ต่างประเทศมีครบกว่า ตรงนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลสนับสนุนให้ทุนการศึกษาเหล่านี้ เสริมสร้างให้น้องๆได้มีสกิลมีพื้นฐาน เพื่อประกอบอาชีพในอนาคต ทำให้เขามีเงินเดือนเพิ่มมากขึ้นกว่าอาชีพปกติ และสร้างรายได้ให้กับครอบครัวมากขึ้น

ขณะเดียวกันยังมีแผนการผลิตบุคลากรเพิ่มมากกว่า 80,000 คนและดึงดูดบุคลากรจากทั่วโลก การดึงดูดคนจากต่างชาติเข้ามาจะช่วยพัฒนาศักยภาพของคนไทย เพราะจะเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการทำงาน เป็นการเรียนรู้ไปด้วยทำงานไปด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่อยากทำควบคู่กันไปเพื่อเตรียมความพร้อมให้เด็กรุ่นต่อไปและปัจจุบันก็มีองค์ความรู้พร้อมที่จะแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันต้องทำคู่ขนานไปทั้งหมด

“การที่จะดึงดูดนักลงทุนเพิ่มมากขึ้น ก็จะต้องทำให้การลงทุนของเราง่ายบรรยากาศการลงทุนน่าลงทุน เวลาไปไหนพบบริษัทต่างชาติเขาจะพูดว่าขั้นตอนเราเยอะ เราก็พยายามอยากให้เป็นศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ ให้เร็วที่สุดโดยตัดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น ซึ่งตนเคยอยู่เอกชนมาก่อนเวลาส่งเอกสารต้องส่งถึง 10 ที่ คิดว่าทุกคนคงเข้าใจเหมือนกัน ทุกองค์กรจะโดนเรียกเอกสารฉบับเดียว แต่ต้องส่งไป 10 ที่ก็ทำให้เสียเวลาพอสมควร ฉะนั้นจะพยายามกระชับเรื่องนี้ให้สั้นมากยิ่งขึ้นเป็นบรรยากาศที่น่าลงทุนเพิ่มมากขึ้น” นายกรัฐมนตรี ระบุ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยยังให้ความสำคัญกับภาคการผลิตมาก ทั้งด้านการเกษตร อาหาร บริการ ด้านการท่องเที่ยวและการแพทย์ ถือเป็นจุดแข็งของประเทศไทย ยากที่จะแข่งขันได้ เรามี service ซ่อนอยู่ในตัวคนไทยนั่นคือซอฟต์พาวเวอร์รัฐบาลสนับสนุนทุกด้าน โดยมีการเตรียมความพร้อมยกระดับพัฒนาอุตสาหกรรมเหล่านี้ให้ผสมกับเทคโนโลยีภูมิปัญญาเดิมของชาวบ้านมาผสมกัน เพื่อให้เพิ่มพูนสิ่งเหล่านี้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการชูครัวไทยสู่ครัวโลก ร้านอาหารไทยมีทั่วโลก แต่วัตถุดิบสิ่งต่างๆมาจากประเทศไทยหรือเปล่า อยากสนับสนุนการปลูกของเกษตรกรไปถึงร้านอาหารเมืองนอก เพื่อให้ชาวต่างชาติลิ้มรสของไทยจริงๆเพิ่มโอกาสให้กับพี่น้องเกษตรกรไทย อยากเน้นย้ำตั้งแต่ต้นน้ำกลางน้ำและปลายน้ำ

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่าปีนี้ไทยโปรโมทการท่องเที่ยวอยากให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นตัวเลขการท่องเที่ยวของเรา ใกล้จะกลับมาใกล้ช่วงก่อนโควิดแล้ว บางจังหวัดตัวเล็กเกินช่วงโควิดไปแล้ว ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีรู้ว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเรากำลังไปด้วยดี
ซึ่ง Family Business ของดิฉันทำธุรกิจโรงแรมจะเห็นว่าการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น สมัยเพิ่งเริ่มโควิดใหม่ๆ Booking ไม่เคยเต็มแต่ช่วงนี้เต็มตลอดทราบเลยว่าประเทศไทยเป็นช้อยส์แรก ของชาวต่างชาติ ถือเป็นสิ่งที่เราต้องทำจุดแข็ง ที่แข็งอยู่แล้วให้สตรองมากยิ่งขึ้น ให้น่าเข้ามาเที่ยวมากขึ้น ฉะนั้นการท่องเที่ยวแบบ Man made tourism ถือเป็นสิ่งสำคัญรัฐบาลสนับสนุนมากขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทยได้สนุกสนาน อย่างมหาสงกรานต์ ที่จะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน เราพยายามเชื่อมทุกจังหวัดของประเทศจริงๆแล้ว สงกรานต์ไม่ใช่แค่ 3 วัน สามารถเที่ยวได้ทั้งเดือน โดยมีกิจกรรมตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงปลายเดือน โดยกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาจะเริ่มออกแผนที่มาว่าที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง ไม่จำเป็นต้องเป็นเมืองหลัก เมืองรองก็น่าเที่ยว

ทั้งนี้ตนได้ไปงาน ITB ที่เยอรมัน การท่องเที่ยวใหญ่ที่สุด เป็นที่รู้จัก เป็นการเปิดโอกาสให้จังหวัดเมืองรองต่างๆ มีโอกาสไปเปิดบูธ พูดคุยกับต่างชาติแบจับคู่ธุรกิจ ซึ่งทุกคนบอกว่าได้ประโยชน์อย่างมาก จึงได้ฝากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเก็บข้อมูลเหล่านั้นมาเพื่อเพิ่มโอกาสในปีหน้าต่อไปว่ามีจังหวัดไหน ที่พร้อมจะไปโดยจะทำเป็นรุ่นๆ ที่จะไปเมืองนอก และเอาจังหวัดเล็กๆไปนำเสนอด้วย ซึ่งต่างชาติอาจจะไม่รู้จัก แต่คนไทยทราบดี จึงต้องแนะนำว่าประเทศไทยเรามีที่เที่ยวอีกว่า มาเมืองไทยสามารถเที่ยวได้ทั้งปีเที่ยวได้ตลอดไม่อยากให้มี Low season เกิดขึ้น อยากให้มีแค่High Season ของประเทศไทย สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลสนับสนุนอย่างเต็มที่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันนี้เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ประเทศไทยทำลายสถิติใหม่ รับการส่งเสริมการลงทุนมูลค่ามากกว่า 1.13 ล้านล้านบาทถือว่าเป็นการลงทุนที่สูงที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการผลักดันให้เกิดการลงทุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องขอบคุณทาง boi ทำงานอย่างหนักเห็นผลงานเป็นที่ประจักษ์เป็นตัวเลขที่สูงสุดในรอบ 10 ปีน่าภูมิใจของประเทศไทยอย่างยิ่ง

ขอเน้นย้ำว่าการพัฒนาเศรษฐกิจการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต้องอาศัยภาครัฐเอกชนและภาคประชาชน ถ้าเราทำบรรยากาศของประเทศให้เป็นที่น่าลงทุนได้ เราจะสามารถพัฒนาเศรษฐกิจให้มั่นคงและยั่งยืนต่อไปได้ .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]