“ทักษิณ” ย้ำดิจิทัล​วอลเล็ต เป็นหัวใจกระตุ้นเศรษฐกิจ

อาคารชินวัตร​ 20 ส. ค. – “ทักษิณ” ชี้​ “แพทองธาร” ดีเอ็นเอเดียวกัน​หวังเป็นนายกฯ นำเศรษฐกิจได้​ ไม่ต้องติวเข้ม แต่ช่วยกันคิด ยอมรับห่วง ย้ำดิจิทัล​วอลเล็ตสำคัญ เป็นหัวใจกระตุ้นเศรษฐกิจ มองต้องเร่งอัดฉีด​ โยนถามเจ้าตัวยังตื่นเต้นไหม แต่ส่วนตัวตื่นเต้นตลอดเวลา


นายทักษิณ​ ชินวัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จะมีการปรับนโยบายหรือไม่ หลังมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีกับฝ่ายเศรษฐกิจ กำลังพูดคุยกันถึงแนวทาง ซึ่งความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจต้องมีแน่นอน และต้องทำอย่างเร็ว ช้าไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจไหลลง ยิ่งไหลลงเท่าไหร่ก็ยิ่งดึงขึ้นมายากเท่านั้น ตอนนี้กำลังวางแผนอยู่ หลังจากที่ทำงานได้แล้วก็คงจะมีการสั่งการทันที

เมื่อถามว่า ในมุมมองของนายทักษิณ จะต้องทำโครงการนี้ต่อหรือไม่ นายทักษิณ ระบุว่า คำว่าดิจิทัลวอลเล็ต มี 3 เรื่อง คือ​


  1. การกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่ต้องทำ
  2. การให้ประชาชนมีโอกาสเรียนรู้ด้านเทคโนโลยี เพื่อจะใช้ประโยชน์ในโอกาสต่อไปข้างหน้า​ ซึ่งก็ต้องทำต่อไป แต่ความเร่งด่วนอาจรอได้
  3. อนาคต เมื่อวางโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไว้แล้ว จะสามารถใช้ประโยชน์ได้กับประชาชนและประเทศ ให้ประชาชนกับรัฐบาลติดต่อเชื่อมกันได้ทางเศรษฐกิจ และเป็นช่องทางให้ประชาชนใช้ประโยชน์ทางธุรกิจ ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเป็นเรื่องของเทคนิคที่ต้องมีต่อไป

โดยเรื่องที่ 2 และ 3 นั้นรอได้ แต่ 1 รอไม่ได้ สำหรับรูปแบบจะอิงเทคโนโลยีบ้างหรือไม่อิงบ้างก็ได้ แต่ต้องถูกกฎหมายและไม่ขัดแย้งกับคนที่เห็นต่าง เยอะจนเกินไป

เมื่อถามว่า โครงการอาจเปลี่ยนแปลง แต่การอัดฉีดยังคงมีเหมือนเดิมใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า จะมีการอัดฉีด​เท่าที่เห็นนายกรัฐมนตรีคุยกับฝ่ายงบประมาณ คือควรจะต้องทำ

เมื่อถามถึงกรณีเรื่องเศรษฐกิจเป็นประเด็นสำคัญ จะเข้ามาช่วยหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ช่วยให้คำแนะนำ แต่การตัดสินใจเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี


เมื่อถามว่า หากเปลี่ยนเป็นการแจกเงินสด จะตอบโจทย์ประชาชนมากกว่าหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ข้อดีของการแจกเงินสดคือเร็ว แต่ข้อเสียคือ กลัวจะใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่เต็มที่

เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร ต้องระวังอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องระวังคือปัญหาของประเทศที่หมักหมม เป็นปัญหาใหญ่ ปัญหาหนัก ซึ่งเรื่องเศรษฐกิจไม่ใช่เรื่องเล่น ชาวบ้านลำบากมาก วันนี้เศรษฐกิจใต้ดินเป็นครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจบนดิน ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน แสดงให้เห็นว่าโอกาสที่ถูกกฎหมายในการทำมาหากิน ถูกปิดมานาน คนก็เลยลงใต้ดินหมด วันนี้เศรษฐกิจใต้ดินใหญ่ พนันออนไลน์ ปีละ 500,000 ล้านบาท

เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร เป็นผู้นำรัฐบาล แต่หลายคนมองว่า มืออาจไม่ถึงในบทบาทของผู้นำเศรษฐกิจ​ ส่วนตัวมีความมั่นใจในตัว น.ส.แพทองธาร อย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า ก็ดีเอ็นเอเดียวกัน หวังว่าคงจะได้

เมื่อถามว่า ​จะต้องติวเข้มเป็นพิเศษหรือไม่ในด้านเศรษฐกิจ นายทักษิณ กล่าวว่า คงต้องช่วยกันคิด เพราะไม่ใช่เรื่องของคนคนเดียวคิด ทำงานต้องเป็นทีม แต่ยอมรับว่าเป็นห่วงอยู่ พร้อมยกตัวอย่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่ประเทศไทยได้รับเหรียญเฉพาะในกีฬาประเภทเดี่ยว แต่ประเภททีม ไม่ได้สักเหรียญ

เมื่อถามว่า ปกตินายกรัฐมนตรีต้องเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ​เอง​ นายทักษิณ​ ตอบทันทีว่า แน่นอน​ แต่ต้องมีคนช่วย ซึ่ง น.ส.แพทองธาร เน้นการทำงานเป็นทีม ในพรรคก็ทำงานเป็นทีม ก็เอาคนจากพรรคมาช่วยหลายคน​

เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร ได้เป็นนายกรัฐมนตรีมา 2-3 วันแล้ว หายตื่นเต้นหรือยัง นายทักษิณ กล่าวว่า ต้องถามเจ้าตัว แต่ตนตื่นเต้นตลอดเวลา.-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย