“วิโรจน์” ชำแหละงบฯ กลาโหม จับตา ทอ.จัดซื้อเครื่องบินขับไล่

รัฐสภา 20 มิ.ย.-“วิโรจน์” ชำแหละงบฯ กลาโหม ไม่ตอบโจทย์ภัยความมั่นคง – จับตา ทอ.จัดซื้อเครื่องบินขับไล่ 1.95 หมื่นล้าน ยืนยันถ้ามีประโยชน์ การชดเชยคุ้มค่า ก้าวไกลพร้อมหนุน

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายงบประมาณกระทรวงกลาโหม ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 วาระแรก ในหัวข้อ “งบกลาโหม แบบหวังว่า แล้วทุกอย่างจะดีเอง สาธุ” ว่า กระทรวงกลาโหม มีรายจ่ายลงทุนในอัตราที่ต่ำอย่างน่าเป็นห่วง ข้อมูล ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2567 พบอัตรารายจ่ายการลงทุน อยู่ที่ 17.67% โดยกองทัพบกต่ำที่สุด 4.89% และคาดว่า จะมีการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนที่ย่ำแย่ไม่ทัน ไม่ส่งเสริมความมั่นคงของประเทศต่อภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงไป และนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพิ่งจะระดมเปิดใบสั่งซื้อช่วงท้ายปีงบประมาณ โดยมีกระแสข่าวว่า ที่ล่าช้า เพราะต้องใช้เวลาในการเรียกรับเงินทอนจากบริษัทโบรคเกอร์ แต่ไม่ยอมสั่งซื้อยานเกราะจากผู้ผลิตในประเทศที่มีประสิทธิภาพ เพียงแต่ไม่มีสำรองเงินทอนไว้ปรนเปรอนายพล


นายวิโรจน์ ยังย้ำว่า งบประมาณบุคลากรของกองทัพ ลดลงเพราะการทยอยเกษียณของกำลังพลในช่วงยุคสงครามเย็น ก่อน 14 ตุลา 16 และ 6 ตุลา 19 ที่มาครบกำหนดเกษียณในช่วงเวลานี้ทำให้กำลังพล เกษียณตามธรรมชาติ ไม่ใช่เกิดจากความพยายามของรัฐมนตรี และแทนที่รัฐมนตรีฯ จะใช้โอกาสดังกล่าว ให้กองทัพอยู่ภายใต้พลเรือน เร่งควบรวมหน่วยงานต่าง ๆ หรือปิดอัตราบรรจุ เพื่อไม่ให้มีการบรรจุใหม่ กลับไม่ดำเนินการปรับโครงสร้างใด ๆ

นายวิโรจน์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ความมั่นคงในแนวชายแดนไทย-เมียนมา ที่ฝ่ายความมั่นคงทราบมีการใช้โดรนพลีชีพ ระเบิดนำวิถี รวมถึงยังมีแนวโน้มการกระทำผิดดฎหมาย ทั้งยาเสพติด ค้ามนุษย์ และของเถื่อนก็มีความถี่มากขึ้น รวมถึงยังมีรายงานการปะทะต่าง ๆ มีการใช้โดรนมาปฏิบัติการว่า กองทัพบก ยังให้ความสำคัญกับโดรนต่ำมาก แม้จะมีการจัดซื้อในปีงบประมาณ 2568 ก็แค่ 10 ตัว ส่วนระบบ Anti-โดรน ของฝ่ายตรงข้าม ก็มีงบประมาณสนับสนุนเล็กน้อยแค่ 540 ล้าน สะท้อนการประเมินสถานการณ์ต่ำ และล้าหลัง ไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริงที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.ประเมินมา และแม้รัฐมนตรีฯ จะออกมาท้าเพิ่มงบจัดซื้อ ก็จะเจอปัญหาอื่น เพราะกรมยุทธการทหารบก ก็ไม่ได้มีการกำหนดแนวทางการใช้โดรนที่ครอบคลุม ทั้งเชิงยุทธการ การพลีชีพ และการติดอาวุธ มีเพียงการลาดตระเวนเท่านั้น และไม่มีการเพิ่มทักษะให้กับกำลังพลใด ๆ ด้วย ซึ่งยังไม่นับรวมปัญหาชายแดนภาคใต้ ที่มีปัญหาคล้ายกัน แต่กลับไม่มีการสนับสนุนงบประมาณ เพื่อปราบปรามยาเสพติด และการค้าของเถื่อน


ส่วนงบประมาณสำหรับการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ของกองทัพนั้น นายวิโรจน์ บอกว่า แม้จะเพิ่มจากปีที่แล้ว 92 ล้านบาท แต่งบประมาณสำหรับจัดหาอุปกรณ์ และชิ้นส่วน กลับลดลงถึง 580 ล้านบาท จึงเชื่อว่า ยานเกราะที่จอดรอซ่อม ก็จะยังไม่สามารถซ่อมบำรุงได้ โดยเฉพาะยานเกราะล้อยาง ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติภารกิจชายแดนไทย-เมียนมา สวนทางกับงบค่ารถประจำตำแหน่งของนายพล ที่ได้รับงบประมาณ 550 ล้านบาท

นายวิโรจน์ ยังตั้งข้อสังเกตถึงงบประมาณค่าใช้จ่ายในการฝึกศึกษาทางการทหาร ที่ปี 2568 นี้ จะได้งบประมาณเพิ่ม 582 ล้านบาทว่า เป็นเพราะสาเหตุใด ทั้งที่ยอดการเกณฑ์ทหารลดลง และงบบุคลากรก็ลดลง รวมถึงงบประมาณด้านค่าใช้จ่ายสนับสนุนการส่งกำลังและซ่อมบำรุง และผลิตเพื่อแจกจ่ายของกองทัพบก ที่ปี 2568 ได้รับเพิ่ม 1,286 ล้านบาท ซึ่งงบดังกล่าว ถูกตั้งข้อสังเกตทุกปีงบประมาณ ที่มีอัตราการเบิกจ่ายต่ำ และมักถูกโยกไปเบิกจ่ายซื้ออาวุธประเภทอื่น โดยอ้างระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการงบประมาณ 2563 เป็นเครื่องมือ ซึ่งหากการใช้จ่ายไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงการใช้จ่ายได้ เพราะเป็นวัตถุประสงค์เดียวกัน จึงขอให้กรรมาธิการฯ ได้พิจารณางบประมาณดังกล่าวนี้อย่างเข้มงวดด้วย เพราะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นผู้รับทราบภายหลัง หลังเหล่าทัพเปลี่ยนแปลงงบประมาณแล้ว ภายใน 45 วัน และหวังว่า นายสุทิน จะกล้าแก้ระเบียบฉบับนี้ เพื่อไม่ให้รัฐมนตรี เป็นเพียงหัวหลักหัวตอ

นายวิโรจน์ ยังกล่าวถึงงบประมาณผูกพันการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทน ระยะที่ 1 ที่มีวงเงินสูงถึง 19,500 ล้านบาท ซึ่งสูงที่สุดในงบกองทัพ เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยเรียกร้องให้การจัดซื้อ จะต้องคำนึงถึงนโยบายการชดเชยที่ทำให้ประชาชน ได้ประโยชน์ร่วมด้วย ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ การลงทุน และการถ่ายทอดเทคโนโลยี ไม่ใช่นำเงินไปซื้ออย่างดื้อ ๆ และจะต้องคำนึงการชดเชยทางอ้อม เช่น การลงทุนทางตรงจากต่างประเทศในนวัตกรรม อุตสาหกรรมพลังงานสะอาด เกษตรกรรมสมัยใหม่ และอุตสาหกรรมไซเบอร์ เพื่อจ้างแรงงานทักษะสูง และสนับสนุนทุนการศึกษาแก่พลเรือน ซึ่งไทยอาจได้รับมูลค่าการชดเชย สูงเท่ามูลค่าการจัดซื้อในครั้งนี้ได้ พร้อมยืนยันว่า หากการจัดซื้อในครั้งนี้ มีความเหมาะสม ทั้งราคา การชดเชย พรรคก้าวไกล พร้อมสนับสนุน และปกป้องงบประมาณก้อนนี้ของกองทัพอากาศ


นายวิโรจน์ กล่าวสรุปในช่วงท้ายว่า การจัดสรรงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ไม่มียุทธศาสตร์ ไม่คำนึงบริบทความมั่นคงที่เปลี่ยนแปลงไป และภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ทำให้เชื่อได้ว่า งบประมาณกระทรวงกลาโหมในปี 2568 จะสร้างความมั่นคงให้ประเทศชาติ และประชาชนได้ รวมถึงการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง เพื่อให้กองทัพอยู่ใต้พลเรือน ปัจจัยคัญไม่ใช่แค่นายรัฐมนตรีเท่านั้น แต่กลไกสำคัญไม่แพ้กันคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ยังคาดหวังอะไรไม่ได้มากกว่านี้ และงบฯ ปี 2568 ก็ไม่ได้สะท้อนการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญ รัฐมนตรีฯ เป็นเพียงหุ่นเชิด เป็นโฆษกของกองทัพ ดำเนินนโยบายต่อของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และยังสามารถทำได้ดีกว่าพลเอกประยุทธ์ด้วยซ้ำ ดังนั้น พรรคก้าวไกล จึงไม่อาจรับหลักการร่างงบประมาณฯ ฉบับนี้ได้.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิด “เขากระโดง”

ดีเอสไอ 3 ก.ย.-รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิดเรื่องเขากระโดงไม่มีกำหนด ความคืบหน้าการสืบสวนเรื่องร้องเรียนการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดงจังหวัดบุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งอธิบดีดีเอสไอมีคำสั่งสืบสวน และดีเอสไอได้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานพบกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่รฟท.เกี่ยวข้อง ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ติดต่อจะมอบให้ฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องวันนี้ เวลา 14.00น. ล่าสุดพ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย รฟท.ได้ประสานกลับมายังตน ขอเลื่อนการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ออกไปก่อน อย่างไม่มีกำหนด กรณีนี้ พนักงานสอบสวนดีเอสไอตรวจสอบพบ กลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟเข้าไปเกี่ยวข้อง และการรถไฟฯ เป็นผู้เสียหายจึงประสาน รฟท.ไปให้มาแจ้งความดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่รัฐอื่นในการเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณพื้นที่เขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ หากรฟท.ไม่มาแจ้งร้องทุกข์ ก็เข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ดีเอสไอจะทำหนังสือแจ้งรฟท.อีกครั้งให้มาแจ้งความร้องทุกข์ หากยังไม่มาอีก ก็จะประชุมพนักงานสอบสวน ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้บริหารการรถไฟฯ เรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องฐานเป็นผู้สนับสนุนเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ติดป้ายให้ ‘ชาวกัมพูชา’ รื้อถอน-ย้ายออก พื้นที่บ้านหนองจาน

สระแก้ว 4 ก.ย.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งติดป้ายให้ชาวกัมพูชา รื้อถอน-ย้ายออก พื้นที่บ้านหนองจาน ในส่วนของไทย หากฝ่าฝืนเอาผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง-ป่าไม้ โทษปรับ-จำคุก เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน จ.สระแก้ว ติดตั้งประกาศบังคับใช้กฎหมายชาวกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่ในราชอาณาจักรไทย บริเวณบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยป้ายมี 3 ภาษา ไทย-กัมพูชา-อังกฤษ พร้อมแผนที่ ระบุว่า “ประกาศให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกถือครองที่ดินและอยู่อาศัยทำกินในราชอาณาจักรไทย เป็นการกระทำความผิดในราชอาณาจักรไทย ตามแผนที่แนบท้ายกรอบสีฟ้า หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทย หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทยตามกฎหมายดังนี้ 1.พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11 มาตรา 62 และมาตรา 81 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท 2.พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 […]

เร่งล่าคนร้ายฆ่าหญิงสาวยัดกระเป๋าเดินทางถ่วงน้ำ

ชลบุรี 3 ก.ย. – คดีสังหารโหดหญิงปริศนายัดกระเป๋าเดินทาง โยนทิ้งอ่างเก็บน้ำ จ.ชลบุรี ตำรวจเร่งหาเบาะแสล่าตัวคนร้าย พบลายนิ้วมือแฝงบนดัมเบลที่ใช้ถ่วงน้ำหนักกระเป๋า ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน นำกระเป๋าเดินทางสีดำขนาดใหญ่ ซึ่งมีโซ่เหล็ก และกุญแจล็อกแน่นหนา ขึ้นมาตรวจสอบ หลังจากพบลอยอยู่ในอ่างเก็บน้ำคลองบางไผ่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ จากการตรวจสอบภายในกระเป๋า พบศพหญิงสาว อายุประมาณ 30 ปี ไม่ทราบสัญชาติ เปลือยท่อนบน นุ่งกางเกงขา 3 ส่วน สีครีม นอนขดตัวอยู่ในกระเป๋า พบร่องรอยเขียวช้ำบริเวณลำคอ กลางหน้าอก และดั้งจมูก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลว่า ผู้ตายเป็นใคร มาจากไหน ส่วนบริเวณช่องใส่ของด้านหน้ากระเป๋า พบแผ่นดัมเบล 9 แผ่น (ขนาดน้ำหนัก 5 กก. จำนวน 1 แผ่น / 2.5 […]

แห่แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” ปมยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา

3 ก.ย. – แห่แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” ปมยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา ชี้ผิดมาตรา 112 และมาตรา 157 สะพัด! ตีกลับ พ.ร.ฎ.ยุบสภา เหตุไม่เป็นไปตามระเบียบ-กฤษฎีกาแย้งไร้อำนาจ ด้าน “อนุทิน” บอกยังเป็นแค่ข่าว รอรัฐบาลแจงดีกว่า นายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และนายสุรทิน พิจารณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เอาผิดนายภูมิธรรม เวชยชัย ในความผิดมาตรา 112 พร้อมเผยว่า การพยายามยื่นทูลเกล้าฯ พ.ร.ฎ.ยุบสภา ถือเป็นการกระทำที่มิบังควร เนื่องจากไม่มีอำนาจหน้าที่หรือสิทธิที่สามารถทำได้ นายไทกร ระบุว่า ได้รับข้อมูลว่านายภูมิธรรม นำเรื่องพระราชกฤษฎีกายุบสภาไปส่งยังสำนักพระราชวังแล้ว หนังสือฉบับนั้นได้ถูกส่งกลับมาที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แต่พรรคเพื่อไทยและนายภูมิธรรมยังไม่ยอมที่จะเคารพต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ทั้งๆ ที่รู้ว่าตนเองไม่มีสิทธิในการที่จะใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญเพื่อที่จะยุบสภา กลับมีความพยายามที่จะเรียกประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะใหญ่ โดยมีการทาบทามให้ ดร.วิษณุ เครืองาม และคณะ มาทำหน้าที่ เพื่อที่จะตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาขึ้นอีกฉบับใหม่ในวันพรุ่งนี้ เพื่อที่จะนำส่งสำนักพระราชวังอีกครั้ง ถือว่าการกระทำที่ไม่บังควร “ศุภชัย” […]