“ภูมิธรรม” ท้า “หมอวรงค์” จูงมือไปพิสูจน์ข้าว 10 ปีด้วยกัน

ม.ราชภัฏเพชรบุรี 14 พ.ค.-“ภูมิธรรม” บอก “ของขึ้น” เหตุ “หมอวรงค์” ด้อยค่าข้าว 10 ปี ท้ามาจูงมือไปพิสูจน์ด้วยกัน อย่าจินตนาการ ด้อยค่าจะส่งผลกระทบต่อประเทศ ยันข้าวไม่เน่า พิสูจน์ได้ วอนให้หยุด ถ้าไม่หยุดจะดำเนินการตามกฎหมาย

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลาออกจากตำแหน่งพร้อมระบุเหตุผลการตัดสินใจว่าไม่ให้เกียรติกัน ว่า ไม่ทราบรายละเอียด ให้เขาไปพูดกันเอง หากวิจารณ์ไปจะเป็นเหมือนการจินตนาการและไปพูดกันเอาเอง ซึ่งต้องไปถามผู้ที่เกี่ยวข้อง


เมื่อถามถึงความคืบหน้าผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ข้าว 10 ปี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตนได้เขียนความเห็นและความในใจของตนให้ที่ประชุมและสาธารณชนรับรู้แล้ว ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนได้พิสูจน์ทราบขั้นต้นก่อนนำออกมาประมูล รวมทั้งเป็นการพิสูจน์ที่โปร่งใสและกว้างขวาง ตนไม่ได้เข้าไปยุ่งในกระบวนการด้านใน และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เนื่องจากข้าวกองใหญ่มาก ถึง 150,000 กระสอบ

ส่วนเมื่อคืนนี้(13 พ.ค.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคไทยภักดีระบุว่าไม่มีตรา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยืนยันได้ว่ามีหมด สามารถดูภาพจากสื่อที่ถ่ายเอาไว้ได้ อยากให้วิจารณ์ตามฐานข้อเท็จจริง ไม่ใช่อยู่ ๆนั่ งคิดไปเอง หรือสร้างนิยายในอากาศ และนำมาพูดโดยที่ไม่เป็นประโยชน์ ข้าวเป็นสินทรัพย์ของประเทศไทย สร้างรายได้จากการส่งออก การออกมาด้อยค่าโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงเท่ากับทำลายเศรษฐกิจและความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ไม่อยากให้นพ.วรงค์ด้อยค่า ตนพร้อมพิสูจน์อยู่แล้ว


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้างต้น กระบวนการโปร่งใสที่สุดแล้ว ทุกสำนักข่าวยืนยันได้ว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร ซึ่งผมชี้ให้เห็นว่าข้าวน่าจะสามารถนำไปประมูลได้ แนะนำไปประมูลอย่างเปิดเผย โดยที่ทุกคนมีสิทธิ์ประมูล ผมไม่ได้ย้อมแมวขาย ไม่จำเป็นต้องหอมเหมือนข้าวใหม่ และจะนำไปขายที่ตลาดแอฟริกา เนื่องจากเขากินข้าวเก่ากันอยู่แล้ว และเขาชอบข้าวเก่า ดังนั้น คนที่จะมาซื้อจะยอมซื้อข้าวเน่าหรือ ผู้ประกอบการผู้ส่งออกข้าวทั้งหมด ธุรกิจเป็นหมื่นล้านอยู่แล้ว จะมาโกหกเพื่อให้ธุรกิจเขาพัง

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนที่ออกมาพูดและไม่มีความรู้ เป็นการให้ข้อมูลเท็จเข้าไปในคอมพิวเตอร์ “ผิดกฎหมาย” แต่ตนมองว่าคงไม่มีเจตนาอะไร หากยังไม่หยุด ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปจัดการให้เหมาะสม อย่าด้อยค่าข้าวไทย ด้อยค่าประเทศ เพราะจะกระทบกระเทือนในระยะยาว ตนไม่ได้คิดจะไปฟอกขาว ข้าวออกดีก็ขายได้ราคาดี หากเน่าจริงก็ขายตามสภาพ จะขายเป็นอุตสาหกรรม ปุ๋ย หรือคนกิน ก็อยู่ที่ข้อเท็จจริง พิสูจน์ได้ ไม่มีอะไรต้องปิดบัง ขึ้นอยู่กับผู้ประมูลส่งออก ให้กรอกข้อมูลเองว่าจะเอาหรือไม่ และนำไปทำอะไร และเขาก็ให้ราคามา

“จากที่ดูข้างต้น โรงสีระบุว่าสามารถนำมาขัดสีได้ ส่วนสารรมควัน ทั่วโลกให้การยอมรับและไม่มีผลกระทบต่อชีวิตผู้คน รวมทั้งมีอีกหลายกระบวนการเพื่อขายข้าวเพื่อให้ข้าวได้ราคาดี นำรายได้เข้าคลัง ส่วนที่มาด้อยค่า ท่านสะใจใช่หรือไม่ นพ.วรงค์ อยากทำเช่นนี้ใช่หรือไม่ แนะให้มาจูงมือผมไปพิสูจน์ ถ้าเข้าสู่กระบวนการได้ นนพ.วรงค์ ต้องรับผิดชอบมากกว่านี้ ฉะนั้น ยุติได้แล้ว ส่วนกระบวนการหลังจากนี้ จะเปิดให้ประมูล และเข้าสู่กระบวนการ ส่วนประเด็นการทานข้าว ผมก็รับประทานอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย จะพิสูจน์อะไรอีก และยังมีปัญหาอะไรอีก ยังทำลายประเทศไทยไม่พอใช่หรือไม่”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว


เมื่อถามว่า กระทรวงพาณิชย์จะไม่ส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งที่เป็นจริงขณะนี้กระบวนการจะเกิดขึ้นท่ามกลางการประมูลอยู่แล้ว หากมีปัญหาจริง ๆ ตนไม่ขัดข้องและสามารถไปยื่นได้ แนะให้นำกระบวนการมาตรฐานมาตรวจสอบ ไม่ใช่อาจารย์คนนั้นคนนี้มาตรวจสอบ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ เพราะมันเป็นหน้าที่ของกระทรวง ที่เกี่ยวข้อง หากได้รับเรื่อง ตนจะพาเขาไปเจาะข้าวทันที และนำมาเข้าสู่ขบวนการ

“ผมอยากให้จบเรื่องนี้ เพราะมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก ส่วนที่บอกว่าสร้างความชอบธรรมให้นักการเมือง ที่พูดออกมามีสมองหรือไม่ ผมยืนยันว่าข้าวที่นำออกมามี 2 ถุงที่ให้นายกิตติ สิงหาปัดและนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวช่อง 3 เพียง 2 คนเท่านั้น ซึ่งผมมองว่าเป็นสื่อ เมื่อได้รับประทานแล้วจะได้เข้าใจ ข้าวนั้นเป็นข้าวหลวง หากจะนำออกไปต้องมีกระบวนการ หากนำออกไปมันผิดกฎหมาย ผมไปกับเจ้าหน้าที่รัฐจึงนำออกมาได้เพื่อให้พิสูจน์ทราบ ผมทำตามกระบวนการ  ยืนยันว่าไม่ได้เป็นข้าวเน่า หากเน่าก็จะขายเป็นราคาข้าวเน่า แต่ผมทานแล้วมันดี ขายได้ในราคา 18-20 บาท หากนำไปขาย 5 บาท อย่างที่เคยขายมันดีหรือ ผมไม่ได้โมโห แต่พูดจากอารมณ์และใจจริง แต่ของมันขึ้น และหากพิสูจน์แล้วว่าข้าวไม่เน่ามันจะกระทบใคร หรือนพ.วรงค์ปกป้องความผิดของตัวเองหรือเปล่า ผมไม่ทราบ” นายภูมิธรรม กล่าว.-317.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]