“เศรษฐา” ยันเป็นนายกฯ ของทุกคนไม่เลือกพื้นที่

รัฐสภา 4 เม.ย.- “เศรษฐา” ฟาดกลับ “ชวน” ใช้มุกเดิมอภิปรายเรื่องใต้มา 20 ปี ยันเป็นนายกฯ ของทุกคน ไม่เลือกพื้นที่ ลั่น 4 ปี ประเทศจะเจริญมากกว่ารัฐบาลอื่นๆ บอก “เป็นห่วงนะ” เอามุกเดิมมาพูด ขอให้ใช้มุกใหม่ ก่อนจะไม่เหลือเก้าอี้ในสภา เหน็บทุกวันนี้ สส.ก็ไหลไปอยู่พรรคอื่น คะแนนพรรคก็น้อยลงทุกวัน


นายเศรษฐา ทวีสิน นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​การคลัง​ ลุกขึ้นชี้แจงการอภิปรายนายชวน หลีกภัย สส.พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ราคายางพารา เป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจโดยรายละเอียดเพราะเอกสมณพงศ์เผ่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ชี้แจงไปแล้ว ชัดเจนแล้ว ซึ่งตนก็ขอแสดงความยินดีกับชาวสวนยาง ที่ราคาดีที่สุดในรอบ 10 ปี ขอแสดงความเห็นใจฝ่ายค้าน ไม่คิดว่าจะต้องหาเหตุผล ว่าทำไมราคายางถึงดีไม่ใช่ผลงานของรัฐบาล แต่จริงๆแล้ว ตลอดที่เราเข้ามาทำงานราคายางก็ขึ้น อย่างต่อเนื่อง ราคายางก็อธิบายไปแล้ว แต่ยังอภิปรายคงวกไปเวียนมาตลอด เพราะวิธีคิดและการบริหารงานของเราทั้ง 2 พรรค ไม่เหมือนกัน แต่ตนขอเอาผลงานเป็นหลัก และการที่ราคายางขึ้นมามากที่สุดในรอบ 10 ปี เพราะรัฐบาลมีการบริหารงานแบบเชิงรุก เข้าใจถึงปัญหา ลงรายละเอียดทุกเม็ด ทำให้ราคายางขึ้น สำหรับ ประเทศไทย มียางอยู่ 30% ของโลก เราคือมหาอำนาจ เช่นเดียวกับซาอุดิอาระเบียที่เป็นมหาอำนาจทางด้านน้ำมัน เราจึงมั่นใจว่าเราเป็นที่ใหญ่ ในเรื่องของยางพารา เป็นผู้นำต้องมีความกล้าในการผลักดันนโยบายต่างๆ เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี

ส่วนเรื่องการปรับยางเถื่อนไม่ใช่แค่สั่งการอย่างเดียว ต้องลงไปดูในรายละเอียด กระชับพื้นที่ ทั้งฝ่ายความมั่นคงกระทรวงการคลัง ศุลกากร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทุกคนช่วยกันทำงาน ซึ่งเป็นเรื่องเศรษฐศาสตร์ 101 ที่หลายท่านก็น่าจะรู้ หากเราทำอย่างจริงจังก็สามารถทำได้ แต่ในอดีตกลับไม่มีการดำเนินการเลย ทั้งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คนก่อนหน้านี้ ก็เป็นคนใต้ เป็นคนที่มีกินมีใช้มาจากยางพารา แต่ก็ไม่ได้ดูแลอะไรที่ควรจะทำ รัฐบาลนี้มีใจและทำงานอย่างแท้จริง และจะทำต่อไปเพื่อรักษาราคายางพาราให้สูงต่อไป แต่ราคาของผู้อภิปรายในเรื่องนี้ในสายตาประชาชน จะเป็นอย่างไรตนรับผิดชอบไม่ได้


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวต่อว่า ราคายาง ตนรับผิดชอบครับ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็น อดีตนายกรัฐมนตรีก็ได้อภิปรายไปพอสมควรก็อยากเรียนให้ทราบว่า ภาคใต้ไม่ได้มีแค่ยางอย่างเดียวมีโอกาสอีกมากมาย เป็นเรื่องที่รัฐบาลเราก็ให้ความสนใจ แต่ก็ยังวกไปเวียนมา ยังเป็นฝ่ายค้านที่งงๆอยู่

“ตนฟังนายชวนไม่ผิด เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 ได้กล่าวไว้ว่าพรรคเพื่อไทยพัฒนาเเฉพาะจังหวัดที่เลือกเขา จังหวัดอื่นไว้ทีหลัง ซึ่งท่านพูดชัดเจน แต่ผมเองก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นนายกของคนทั้งประเทศ ไม่เคยแบ่งแยกพื้นที่ตามคะแนนเสียงที่ได้รับ การที่ตนลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หลายครั้ง เป็นที่ประจักษ์อยู่แล้ว ผมว่า เรื่องมุขด้อยค่าพรรคที่อยู่คนละพรรคกับท่าน เป็นมุขเดิมๆ ลองใช้มุขใหม่ดูบ้างเถอะ เพราะทุกวันนี้ สส.ก็ไหลไปอยู่พรรคอื่น คะแนนพรรคทำเองก็น้อยลงไปทุกวัน ลองอะไรใหม่ๆบ้างดีกว่า ไม่งั้นวันหลังจะไม่เหลือพื้นที่ในสภาเลย น่าเสียดายเป็นพรรค ที่มีอุดมการณ์มาโดยตลอด เป็นห่วงนะครับ ขอให้มันท้าทายหน่อย ไม่ใช่เอามุขเดิมๆมาพูดตลอดเวลา ” นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ตนเป็นนายกรัฐมนตรีของคนทั้งประเทศ ไม่เคยแบ่งแยกพื้นที่ตามคะแนนเสียงที่ได้รับ และตนเชื่อว่าการกระทำของตน เป็นที่ประจักษ์อยู่แล้ว ไม่เคยเลือกปฏิบัติ แต่เกรงว่าท่านจะเลือกอธิบายหรือไม่ ถือเป็นสิทธิ์ของท่านแล้งกัน แต่ถ้าจำไม่ผิดท่านมีความมั่นคงในเรื่องนี้มาตลอด 20 ปี ตั้งแต่สมัยอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เพราะเราพูดถึงปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาตลอดเวลา ตนจึงอยากจะเปลี่ยนมุมมองใหม่บ้าง เรื่องของ 3 จังหวัดชายแดน แน่นอนว่า เรื่องความมั่นคงเป็นเรื่องสำคัญ แต่เราพยายามมาแล้วหลายปี ก็ยังไม่เวิร์ค ก็ลองเอาเรื่องของโอกาสเข้ามาเสริม เผื่อมั่งคั่งแล้วจะมั่นคงอยู่ตาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร Soft Power และวัฒนธรรม หรืออะไรอีกหลายอย่าง แต่ไม่เป็นไรมุมมองเราต่างกัน ตนมุ่งไปทางการพัฒนา ความมั่งคั่ง แต่ก็ไม่เคยละเลยเรื่องความมั่นคง


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สส.ฝ่ายค้านมองว่าการแก้ปัญหาภาคใต้ต้องกลับ ย้อน กลับไปมองอดีต แต่รัฐบาลนี้เราเข้าใจอดีต แต่เรามองในอนาคตครับ วิธีมองก็ต่างกันอีก ตนเชื่อว่าท่านหวังดีแต่ตอนนี้เราเป็นรัฐบาลขอมองวิธีใหม่ๆ ขอให้เปิดใจให้กว้าง แนวทางการพัฒนา คือเราทำให้ทุกคนเจริญไปด้วยกันพร้อมกับโอกาส ส่วนคนที่ผิดก็ต้องเดินหน้าไปตามกระบวนการ ไม่ได้หยุด

“ตนมั่นใจว่าภายใน 4 ปีนี้ ประเทศเราจะเจริญมากกว่าที่รัฐบาลอื่นๆ เคยทำมา ตนขอให้เชื่อมั่น และให้ความเชื่อมั่นต่อประชาชนว่า นายกฯคนนี้ จะไปทุกพื้นที่ จะมองเห็นทุกภูมิภาค และจะทำงานทุกวันเพื่อคนไทยทุกคน ประชาชนเลือกนักการเมืองได้ แต่นักการเมืองเลือกประชาชนไม่ได้ ดังนั้น ทุกภารกิจของตน จะพิสูจน์คำพูดวันนี้” นายกรัฐมนตรี ระบุ .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบกสดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ ขอพระราชทานยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ วันที่ 30 ก.ค. 68 กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ จำนวน 4 นาย ดังนี้ 1.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น ตำแหน่งพลลาดตระเวน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ (25 ก.ค.68) ณ วัดตลาดราชมงคล อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.อ. ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยโท […]

ทบ.ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบก ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน ประชาคมโลกต้องเห็นความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน-โรงเรียน-โรงพยาบาล เร็วๆ นี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีว่า จุดที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร บริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันนั้น เป็นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางทหาร สำหรับฝ่ายไทยมีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลกคือ ความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ กองทัพบกไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล โดยขอย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา.-313.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก

ทำเนียบ 30 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก พร้อมประณามกัมพูชาละเมิดมนุษยธรรมร้ายแรง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประณามการกระทำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาอย่างรุนแรง กรณีการใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายที่เป็นสถานพยาบาลของไทยในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานและเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้นายจิรายุ ยังเปิดภาพโรงพยาบาลบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) คำโปรย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โคก, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซำเม็ง “ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกจับตามองและประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่พลเรือ” โฆษกรัฐบาล ระบุ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. พบว่า จากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ได้ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 15 ราย ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ บาดเจ็บสาหัส 12 […]

เหตุพลุระเบิด เสียชีวิตเพิ่มเป็น 10 คน

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่โรงพยาบาล รวมเสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย คืบหน้าเหตุพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุด พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิต จำนวน 10 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 9 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ขณะนี้ได้สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงประสานชุด EOD เข้าเก็บกู้ดินปืน เนื่องจากตรวจสอบพบหลุมขนาดใหญ่สีดำจำนวน 2 หลุม และดินปืนจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังพบร่างผู้เสียชีวิต ชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนข้อมูลการตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังนี้มีการลักลอบผลิตพลุไล่นก.-สำนักข่าวไทย