“เศรษฐา” ยันเป็นนายกฯ ของทุกคนไม่เลือกพื้นที่

รัฐสภา 4 เม.ย.- “เศรษฐา” ฟาดกลับ “ชวน” ใช้มุกเดิมอภิปรายเรื่องใต้มา 20 ปี ยันเป็นนายกฯ ของทุกคน ไม่เลือกพื้นที่ ลั่น 4 ปี ประเทศจะเจริญมากกว่ารัฐบาลอื่นๆ บอก “เป็นห่วงนะ” เอามุกเดิมมาพูด ขอให้ใช้มุกใหม่ ก่อนจะไม่เหลือเก้าอี้ในสภา เหน็บทุกวันนี้ สส.ก็ไหลไปอยู่พรรคอื่น คะแนนพรรคก็น้อยลงทุกวัน


นายเศรษฐา ทวีสิน นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​การคลัง​ ลุกขึ้นชี้แจงการอภิปรายนายชวน หลีกภัย สส.พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ราคายางพารา เป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจโดยรายละเอียดเพราะเอกสมณพงศ์เผ่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ชี้แจงไปแล้ว ชัดเจนแล้ว ซึ่งตนก็ขอแสดงความยินดีกับชาวสวนยาง ที่ราคาดีที่สุดในรอบ 10 ปี ขอแสดงความเห็นใจฝ่ายค้าน ไม่คิดว่าจะต้องหาเหตุผล ว่าทำไมราคายางถึงดีไม่ใช่ผลงานของรัฐบาล แต่จริงๆแล้ว ตลอดที่เราเข้ามาทำงานราคายางก็ขึ้น อย่างต่อเนื่อง ราคายางก็อธิบายไปแล้ว แต่ยังอภิปรายคงวกไปเวียนมาตลอด เพราะวิธีคิดและการบริหารงานของเราทั้ง 2 พรรค ไม่เหมือนกัน แต่ตนขอเอาผลงานเป็นหลัก และการที่ราคายางขึ้นมามากที่สุดในรอบ 10 ปี เพราะรัฐบาลมีการบริหารงานแบบเชิงรุก เข้าใจถึงปัญหา ลงรายละเอียดทุกเม็ด ทำให้ราคายางขึ้น สำหรับ ประเทศไทย มียางอยู่ 30% ของโลก เราคือมหาอำนาจ เช่นเดียวกับซาอุดิอาระเบียที่เป็นมหาอำนาจทางด้านน้ำมัน เราจึงมั่นใจว่าเราเป็นที่ใหญ่ ในเรื่องของยางพารา เป็นผู้นำต้องมีความกล้าในการผลักดันนโยบายต่างๆ เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี

ส่วนเรื่องการปรับยางเถื่อนไม่ใช่แค่สั่งการอย่างเดียว ต้องลงไปดูในรายละเอียด กระชับพื้นที่ ทั้งฝ่ายความมั่นคงกระทรวงการคลัง ศุลกากร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทุกคนช่วยกันทำงาน ซึ่งเป็นเรื่องเศรษฐศาสตร์ 101 ที่หลายท่านก็น่าจะรู้ หากเราทำอย่างจริงจังก็สามารถทำได้ แต่ในอดีตกลับไม่มีการดำเนินการเลย ทั้งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คนก่อนหน้านี้ ก็เป็นคนใต้ เป็นคนที่มีกินมีใช้มาจากยางพารา แต่ก็ไม่ได้ดูแลอะไรที่ควรจะทำ รัฐบาลนี้มีใจและทำงานอย่างแท้จริง และจะทำต่อไปเพื่อรักษาราคายางพาราให้สูงต่อไป แต่ราคาของผู้อภิปรายในเรื่องนี้ในสายตาประชาชน จะเป็นอย่างไรตนรับผิดชอบไม่ได้


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวต่อว่า ราคายาง ตนรับผิดชอบครับ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็น อดีตนายกรัฐมนตรีก็ได้อภิปรายไปพอสมควรก็อยากเรียนให้ทราบว่า ภาคใต้ไม่ได้มีแค่ยางอย่างเดียวมีโอกาสอีกมากมาย เป็นเรื่องที่รัฐบาลเราก็ให้ความสนใจ แต่ก็ยังวกไปเวียนมา ยังเป็นฝ่ายค้านที่งงๆอยู่

“ตนฟังนายชวนไม่ผิด เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 ได้กล่าวไว้ว่าพรรคเพื่อไทยพัฒนาเเฉพาะจังหวัดที่เลือกเขา จังหวัดอื่นไว้ทีหลัง ซึ่งท่านพูดชัดเจน แต่ผมเองก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นนายกของคนทั้งประเทศ ไม่เคยแบ่งแยกพื้นที่ตามคะแนนเสียงที่ได้รับ การที่ตนลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หลายครั้ง เป็นที่ประจักษ์อยู่แล้ว ผมว่า เรื่องมุขด้อยค่าพรรคที่อยู่คนละพรรคกับท่าน เป็นมุขเดิมๆ ลองใช้มุขใหม่ดูบ้างเถอะ เพราะทุกวันนี้ สส.ก็ไหลไปอยู่พรรคอื่น คะแนนพรรคทำเองก็น้อยลงไปทุกวัน ลองอะไรใหม่ๆบ้างดีกว่า ไม่งั้นวันหลังจะไม่เหลือพื้นที่ในสภาเลย น่าเสียดายเป็นพรรค ที่มีอุดมการณ์มาโดยตลอด เป็นห่วงนะครับ ขอให้มันท้าทายหน่อย ไม่ใช่เอามุขเดิมๆมาพูดตลอดเวลา ” นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ตนเป็นนายกรัฐมนตรีของคนทั้งประเทศ ไม่เคยแบ่งแยกพื้นที่ตามคะแนนเสียงที่ได้รับ และตนเชื่อว่าการกระทำของตน เป็นที่ประจักษ์อยู่แล้ว ไม่เคยเลือกปฏิบัติ แต่เกรงว่าท่านจะเลือกอธิบายหรือไม่ ถือเป็นสิทธิ์ของท่านแล้งกัน แต่ถ้าจำไม่ผิดท่านมีความมั่นคงในเรื่องนี้มาตลอด 20 ปี ตั้งแต่สมัยอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เพราะเราพูดถึงปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาตลอดเวลา ตนจึงอยากจะเปลี่ยนมุมมองใหม่บ้าง เรื่องของ 3 จังหวัดชายแดน แน่นอนว่า เรื่องความมั่นคงเป็นเรื่องสำคัญ แต่เราพยายามมาแล้วหลายปี ก็ยังไม่เวิร์ค ก็ลองเอาเรื่องของโอกาสเข้ามาเสริม เผื่อมั่งคั่งแล้วจะมั่นคงอยู่ตาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร Soft Power และวัฒนธรรม หรืออะไรอีกหลายอย่าง แต่ไม่เป็นไรมุมมองเราต่างกัน ตนมุ่งไปทางการพัฒนา ความมั่งคั่ง แต่ก็ไม่เคยละเลยเรื่องความมั่นคง


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สส.ฝ่ายค้านมองว่าการแก้ปัญหาภาคใต้ต้องกลับ ย้อน กลับไปมองอดีต แต่รัฐบาลนี้เราเข้าใจอดีต แต่เรามองในอนาคตครับ วิธีมองก็ต่างกันอีก ตนเชื่อว่าท่านหวังดีแต่ตอนนี้เราเป็นรัฐบาลขอมองวิธีใหม่ๆ ขอให้เปิดใจให้กว้าง แนวทางการพัฒนา คือเราทำให้ทุกคนเจริญไปด้วยกันพร้อมกับโอกาส ส่วนคนที่ผิดก็ต้องเดินหน้าไปตามกระบวนการ ไม่ได้หยุด

“ตนมั่นใจว่าภายใน 4 ปีนี้ ประเทศเราจะเจริญมากกว่าที่รัฐบาลอื่นๆ เคยทำมา ตนขอให้เชื่อมั่น และให้ความเชื่อมั่นต่อประชาชนว่า นายกฯคนนี้ จะไปทุกพื้นที่ จะมองเห็นทุกภูมิภาค และจะทำงานทุกวันเพื่อคนไทยทุกคน ประชาชนเลือกนักการเมืองได้ แต่นักการเมืองเลือกประชาชนไม่ได้ ดังนั้น ทุกภารกิจของตน จะพิสูจน์คำพูดวันนี้” นายกรัฐมนตรี ระบุ .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

“โชต้า” แข้งลิเวอร์พูล ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

สเปน 3 ก.ค. – “ดิโอโก้ โชต้า” กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล และทีมชาติโปรตุเกส เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุระหว่างการพักผ่อนที่ประเทศสเปนกับน้องชาย “มาร์ก้า” สื่อชื่อดังของสเปน รายงานข่าวว่า ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล วัย 28 ปี เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่จังหวัดซาโมรา ทางตะวันตกของประเทศสเปน ระหว่างการเดินทางไปพักผ่อนกับ อังเดร น้องชาย เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณกิโลเมตรที่ 65 ของทางหลวงสาย เอ-52 ใกล้เขตซานาเบรีย โดยโชต้าอยู่ในรถคันดังกล่าวพร้อมกับอังเดร น้องชายวัย 26 ปี ซึ่งเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน และเล่นให้กับสโมสรเปนาฟีแอล ในลีกโปรตุเกส รถยนต์ที่ทั้งสองโดยสาร ประสบเหตุหลุดออกจากถนนและเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง มีพยานในที่เกิดเหตุโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินหมายเลข 112 ระบุว่า รถถูกไฟคลอกทั้งคัน ดิเอโก้ โชต้า ย้ายจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาร่วมทัพลิเวอร์พูลในปี 2020 ด้วยค่าตัวราว 44.7 ล้านยูโร ราว 1,700 […]

สั่งปิดประชุมสภาฯ หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 3 ก.ค. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันแรก ประเดิมด้วยกระทู้สดเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขณะนี้ประธานสั่งปิดประชุมแล้ว หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ประเดิมด้วยการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชนชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีคุยกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณดี กัมพูชายอมคุยด้วยแล้ว ทางฝ่ายระดับสูงของกัมพูชาเริ่มมีการคุยว่า เชิญไปประชุมทวิภาคี จีบีซี หารือ 2 ประเด็น ถอนกำลังพล-ลดเข้มงวดมาตรการชายแดน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านโซเชียลฯ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาทำให้การพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขเราก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน ขอเรียนว่า มีสัญญาณบวกและวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลยังคงมาตรการในการควบคุมด่านอยู่ มีไว้เพื่อสร้างแรงกดดันที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม ยืนยันกองทัพทำตาม นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หลังการถามกระทู้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณารายงานของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอที่ประชุมให้นับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบจำนวน สส.ภายในห้องประชุม ซึ่งขณะนี้มี […]

ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง

ทำเนียบ 3 ก.ค.-ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้1.นายภูมิธรรม เวชยชัย2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค4.นายพิชัย ชุณหวชิร5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตาม 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป […]

เจ้าอาวาสวัดม่วง ยันบริสุทธิ์ใจ ยินดีให้ตรวจสอบ

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ลงพื้นที่วัดม่วง ตรวจสอบกรณีเงินสด 10 ล้าน และทองคำ 300 บาท หายไป เจ้าอาวาสวัด เผยบริสุทธิ์ใจ ยอมเสียเงินดีกว่าเสียชื่อเสียง ยืนยันแยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีวัด โดยบัญชีวัดจะมีคณะกรรมการและไวยาวัจกรดูแล ส่วนเงินที่หายไป เป็นเงินส่วนตัวที่จะนำไปใช้ทำบุญวันเกิด ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เดินเข้ามาภายในวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยปฏิเสธให้ข้อมูล เบื้องต้นตอบเพียงว่าเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลการเงินของวัด หลังปรากฏข่าวออกไป เจ้าอาวาสวัดม่วง บอกว่าเงินที่หายไปเป็นปัจจัยที่เบิกมา เพื่อเตรียมนำมาทำบุญวันเกิด โดยจะนำเงินส่วนนี้ไปแจกให้กับเด็กนักเรียน และนำไปนิมนต์พระมาทำบุญ รวมถึงจะนำบางส่วนไปใช้ในการก่อสร้างเจดีย์ โดยวันที่ไปเบิกเงินที่ธนาคารไปกับคนสนิท 2 คน และเบิกเงินจำนวน 10 ล้านบาท หลังจากนั้นเดินทางกลับ และนำปัจจัยใส่กระเป๋าวางไว้ใต้โต๊ะในกุฏิ เนื่องจากภายในเซฟมีการเก็บเงินของวัดไว้ จึงไม่ต้องการนำไปรวม ตนเองเองรู้ที่เก็บเงินเพียงคนเดียว ยืนยันมีการแยกบัญชีเงินส่วนตัวและเงินของวัด ในส่วนของวัดจะมีกรรมการและไวยาวัจกรดูแล แต่เงินของตัวเองซึ่งเก็บมากว่า 40 ปี มีอยู่ประมาณ […]