ถกญัตติอำนาจรัฐสภา หลังไม่บรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ

รัฐสภา 29 มี.ค.-สภาฯ ถกญัตติอำนาจรัฐสภา หลังประธานรัฐสภา ไม่บรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเพื่อไทย-ก้าวไกล เข้าวาระ เพราะขัดคำวินิจฉัยศาล “พริษฐ์” มอง ส่งศาล รธน.ชี้ขาด เหมือนยื่นดาบให้คนไม่เห็นด้วย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เรื่อง ขอเสนอญัตติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2563 ข้อ 31 ให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 (2)  นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา แจ้งต่อที่ประชุมวิปสามฝ่ายตกลงกันว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาทั้งสิ้น 6 ชั่วโมง แบ่งเป็น ฝ่ายค้าน 2 ชั่วโมง รัฐบาล 2 ชั่วโมง และสมาชิกวุฒิสภา 2 ชั่วโมง 

นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย  กล่าวว่า ตนเองและคณะ 123 คน ได้ใช้สิทธิตามมาตรา 256 (1) และ (2) รัฐธรรมนูญปี 2560 เสนอญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยจัดทำเป็นรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ …) พ.ศ … โดยมีหลักการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มเติมหมวด 15/1 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งประธานรัฐสภา ไม่ได้บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระ เห็นว่าขัดกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564


นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า พรรคก้าวไกลสนับสนุนให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชนโดยเร็วที่สุด ยอมรับว่า รู้สึกหนักใจภายใต้ความพยายามหลายฝ่ายที่จะบรรลุเป้าหมาย แต่รัฐสภาพยายามส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยทุกครั้งที่รัฐสภาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยเฉพาะการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เหมือนเป็นการยื่นดาบให้คณะตุลาการ 9 คน ที่แต่งตั้งโดยกลุ่มคนที่ไม่ได้อยากเห็นการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และให้กลุ่มคนดังกล่าวมีอำนาจฟันธงชี้ขาดว่ารัฐสภาแห่งนี้ทำอะไรได้หรือไม่ได้

“ที่ผ่านมาเป็นเหมือนกล่องสุ่ม ที่ไม่เป็นคุณต่อกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สาเหตุที่ทำให้เราต้องมาพิจารณาญัตติดังกล่าว เนื่องจากประธานรัฐสภาไม่บรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล โดยอ้างว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/ 2564 ยืนยันว่าการตัดสินใจของประธานรัฐสภาไม่ถูกต้อง  ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ร่าง ของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ซึ่งมีเหตุผลสอดคล้องกันจะขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้อย่างไร”นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์  กล่าวเปรียบเทียบเนื้อหาสาระของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับซึ่งคล้ายกัน มีการเสนอให้แก้ไขมาตรา 256 และหมวด 15/1 ทำให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกบรรจุและพิจารณาเห็นชอบโดยรัฐสภา ในมาตรา 256 (8) แห่งรัฐธรรมนูญปัจจุบันกำหนดชัดเจนว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากผ่านความเห็นชอบ 3 วาระของรัฐสภา จำเป็นจะต้องจัดทำประชามติ ซึ่งหากผ่านความเห็นชอบของประชาชนจะมี ส.ส.ร.เข้ามาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่  ซึ่งจะต้องมีการทำประชามติถามความเห็นจากประชาชนอีกครั้งหนึ่ง จึงขอตั้งคำถามว่ากระบวนการเหล่านี้ขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่


เมื่อดูคำวินิจฉัยศาลธรรมนูญที่ 4/2564 เขียนไว้ว่ารัฐสภามีหน้าที่และอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยต้องให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญได้ลงประชามติเสียก่อนว่าประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และเมื่อจัดทำร่างฉบับใหม่เสร็จแล้ว ต้องให้ประชาชนลงประชามติเห็นชอบหรือไม่กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับฉบับใหม่อีกครั้ง  ซึ่งหมายถึงการทำประชามติ 2 ครั้ง หนึ่งครั้งก่อนที่จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และอีกหนึ่งครั้งหลังจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

“ตนเองได้รับข้อมูลมาว่า เหตุผลที่ประธานรัฐสภาไม่บรรจุเรื่องดังกล่าวเข้าในระเบียบวาระเพราะตีความคำว่า “เสียก่อน” ต่างออกไป โดยตีความว่า “เสียก่อน” คือการทำประชามติเสียก่อนมีการเสนอร่างแก้ไขฉบับใดๆ เข้าสู่รัฐสภา จึงตัดสินใจไม่นำเรื่องดังกล่าวเท่าที่ประชุมรัฐสภา จนกว่าจะมีการทำประชามติ เพิ่มอีกหนึ่งครั้ง ก่อนเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญใดๆ เข้าสู่รัฐสภา หมายความว่าโร้ดแมปในการเดินหน้าสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องมีการจัดทำประชามติถึง 3 ครั้ง”นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์  กล่าวว่า ปัญหานี้ให้ไปดูคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน เพื่อเข้าใจเจตนา ซึ่งเป็นกระบวนการที่ประธานรัฐสภายังไม่ได้ทำ เนื่องจากตัวแทนคณะกรรมการประสานงานเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีมติเสียงข้างมากให้ประธานรัฐสภาไม่บรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล  ศึกษาเพียงแค่คำวินิจฉัยกลาง ไม่ได้ศึกษาคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ ตามคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เสียงข้างมาก 5 ใน 9 คนวินิจฉัยว่าประธานรัฐสภาบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในระเบียบวาระได้ จึงอนุมานได้ว่าคำวินิจฉัยที่ 4/2564  ประธานรัฐสภาสามารถบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวได้ และหากวันนี้(29 มี.ค.) รัฐสภามีมติส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่เคยวินิจฉัยมาแล้วเมื่อปี 2564 และยังปฎิบัติหน้าที่อยู่ในตอนนี้ ก็จะยังวินิจฉัยเช่นเดิม

นายพริษฐ์ เห็นว่าการไม่บรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่ระเบียบวาระเป็นการตัดสินใจที่สวนทางกับคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก  เชื่อว่าประธานรัฐสภาทราบดีว่าการปกครองในระบอบประชาธิปไตย การตัดสินใจใช้อำนาจปฏิเสธไม่บรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจาก สส.ที่มาจากการเลือกตั้งเป็นเรื่องใหญ่ จึงจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เมื่อไม่บรรจุระเบียบวาระต้องมาพิสูจน์และอธิบายให้กระจ่างต่อสังคม

“หรือแม้วันนี้จะตัดสินใจทบทวน และบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลเข้าสู่วาระการประชุม สมาชิกอาจจะเห็นแย้งและเสนอญัตติให้รัฐสภาเสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญอยู่ดี   ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นการคาดการณ์ปรากฏการณ์แบบนั้น ไม่ควรเป็นเหตุผลให้ประมุขของสภาฯ ไม่ทำหน้าที่อย่างถูกต้องและสอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย  หวังว่าประธานรัฐสภาจะทบทวนการตัดสินใจและบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม เพื่อผลักดันให้เกิดรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชนโดยเร็วที่สุด”นายพริษฐ์ กล่าว.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]