สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 2 ก.พ.- “วิโรจน์” เผยหารือ “สุทิน” ชื่นมื่น รับปากสนับสนุน โครงการพลทหารปลอดภัย ยัน เดินหน้าตรวจสอบ สด.43 เต็มที่
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังเข้าหารือ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าในที่ประชุมเป็นการพูดคุยที่เข้าใจบทบาทซึ่งกันและกัน ซึ่งในอำนาจนิติบัญญัติ หรือคณะกรรมาธิการการทหาร มีหน้าที่ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่แล้ว ทางนายสุทิน ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และเป็น สส.อาวุโส ก็เข้าใจบทบาทของคณะกรรมาธิการเป็นอย่างดี หวังเป็นอย่างยิ่งว่านับจากนี้ การขอข้อมูลข้อเท็จจริงใดๆ กับคณะกรรมาธิการ มายังหน่วยงานของกองทัพ จะได้รับการประสานงานที่แนบแน่นใกล้ชิดรวมทั้งได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนมากขึ้น เพราะเข้าใจหน้าที่ซึ่งกันและกัน หรือเรียกได้ว่า ทำงานเข้าอกเข้าใจกัน ไม่ว่าจะเป็นกรณีของการกู้เรือรบหลวงสุโขทัย, เรือดำน้ำ, เงินนอกงบประมาณ, ธุรกิจกองทัพ หรือประเด็นปัญหาต่างๆ ส่วนตัวเชื่อว่านับจากนี้กรรมาธิการการทหารจะได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่จากกระทรวงกลาโหม
นายวิโรจน์ เผยอีกว่า วันนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมากที่รัฐมนตรีตกปากรับคำสนับสนุนและร่วมกันดำเนินโครงการพลทหารปลอดภัย ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีให้กับคุณพ่อและคุณแม่ รวมทั้งพลทหาร โดยจะดำเนินการโครงการดังกล่าว ก่อนการจับใบดำใบแดงที่จะถึงนี้ โดยจะมีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดระหว่าง กรรมาธิการการทหาร หน่วยงานของกองทัพที่ได้รับมอบหมาย เพื่อสกัดกั้นการกระทำที่ออกนอกลู่นอกทาง และอาจผิดหลักมนุษยชน พร้อมยืนยันว่า เราจะพยายามจะสกัดกัน และทำให้การบาดเจ็บ ความรุนแรง หรือการสูญเสียใดๆ ในค่ายทหารของพลทหารเป็นศูนย์ให้ได้
นอกจากนี้ยังมีการประสานงานฝึกอบรม ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าใจถึงเรื่องพระราชบัญญัติอุ้มหาย ซ้อมทรมาน เนื่องจากจะเป็นกฎหมายที่กรรมาธิการใช้อ้างอิงในการปฏิบัติ และวันนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ถือว่าเป็นฤกษ์งามยามดีต้องการเปิดตัวโครงการพลทหารปลอดภัยร่วมกัน
ส่วนที่นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหาร และ ใบ สด.43 นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนยินดีตรวจสอบในเรื่องนี้ ซึ่งคณะกรรมการการทหารทำหนังสือถึง พลโททวีพูล ริมสาคร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) เรียบร้อยแล้ว ว่าให้ส่งเอกสารทั้งหมดมาให้กรรมาธิการตรวจสอบ และประสานงานกับกองพิสูจน์หลักฐานด้วย
“โดยจะให้ดูเนื้อกระดาษว่าตรงกันหรือไม่ ลายเซ็นของนายทหารที่เซ็นไปแล้ว เป็นลายเซ็นจริงหรือไม่อย่างไร และมีชื่อว่าอะไร รวมทั้งมีประชาชนที่ถูกหลอกลวงในลักษณะเช่นนี้ เฉลี่ยแล้ว 1 ปี มีกี่คนคิดเป็นมูลค่าความเสียหายของประเทศชาติเท่าไหร่ ดังนั้น เราจะทำเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา” นายวิโรจน์ กล่าว
ทั้งนี้ ได้เตือนนายจิรัฏฐ์เรียบร้อยว่าให้นำเอกสารไปตรวจสอบ ทางเราจะขอ สด.43 ในเล่มเดียวกันและในปีเดียวกันของนายจิรัฏฐ์มาตรวจสอบ และจะส่งกองพิสูจน์หลักฐานด้วยว่าเนื้อกระดาษนั้นเป็นเนื้อกระดาษเดียวกันและปีเดียวกันหรือไม่ แต่เบื้องต้นต้องขอความร่วมมือจากทางกระทรวงกลาโหม ให้พิสูจน์ว่านายทหารที่เซ็นชื่อเหล่านั้นมีตัวตนจริงหรือไม่
“จะรื้อให้หมดมูลค่าความเสียหายจากการหากินใน สด.43 ปีละเท่าไหร่ รวมทั้งมีการส่งต่อผลประโยชน์ไปยังนายทหารระดับสูงกี่คน ยืนยันว่าจะพยายามสืบให้ได้นายวิโรจน์ กล่าว
ส่วนกรณีการจัดซื้อเรือดำน้ำที่จะมีการตั้งคณะกรรมการศึกษาหาทางออกการจัดซื้อเรือดำน้ำ ขึ้นมาดูในเรื่องนี้ นายวิโรจน์ กล่าวว่า เข้าใจดีว่ากรรมาธิการไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวข้องกับคณะกรรมการที่หน่วยราชการตั้งขึ้น ดังนั้น จึงได้ส่ง นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เข้าร่วมในคณะกรรมการ ซึ่งตนได้ย้ำไปว่า นายพิจารณ์ ไม่ได้ไปในฐานะของคณะกรรมาธิการการทหาร ขณะเดียวกันคณะกรรมาธิการการทหารไม่มีใครเห็นแย้ง การตัดสินใจทั้งหมดอยู่ที่วิจารณญาณและดุลพินิจของนายพิจารณ์เอง ท้ายที่สุดนี้ เชื่อว่านายพิจารณ์เป็นคนที่ติดตามเรื่องนี้และมีความรู้ความสามารถ และน่าจะคลี่คลายปัญหาให้กับประเทศชาติได้.-317.-สำนักข่าวไทย