“วิโรจน์” ขอ ปชช. ดึงสติ หลังมีกระแสเรียกร้องรัฐประหาร

รัฐสภา​ 9 มิ.ย. – “วิโรจน์” ลั่น เร็วไปเรียกสถานการณ์คลี่คลาย รับมาตรการจูงใจกลับสู่โต๊ะเจรจาได้ผล ถาม “กัมพูชา” มีความชอบธรรมอะไรเอาเรื่องขึ้นศาลโลก เรียกร้องให้เคารพ MOU43 หลังกัมพูชาเข้าข่ายละเมิด ขอ ปชช. ดึงสติกลับมา หลังมีกระแสเรียกร้องรัฐประหาร ชี้ “ภูมิธรรม” ขอบคุณกัมพูชา เป็นมารยาททางการทูต


นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ที่ดูเหมือนจะคลี่คลายลงแล้ว ว่า เร็วเกินไปที่จะเรียกว่าคลี่คลาย แต่เรียกว่ากลับไปสู่สถานการณ์ที่เริ่มจะมีแนวทางในการเจรจาเป็นเหตุเป็นผลได้ แสดงว่ามาตรการในการจูงใจให้กัมพูชากลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้งถือว่าได้ประสิทธิผลตามสมควร

เมื่อถามว่าทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาอยากให้ประเทศไทยขึ้นศาลโลกอยู่นั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า การคลี่คลายข้อพิพาทหรือความขัดแย้งของประเทศที่มีพรมแดนติดกัน ตนคิดว่าการหารือจะเป็นประโยชน์กับประชาชนทั้งสองประเทศมากกว่า และหากวิเคราะห์จริง ๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากฝั่งไทยที่มีข้อเสนอใหม่ หรือเรียกร้องอะไรที่แตกต่างไปจาก MOU 2543 แต่เป็นฝ่ายกัมพูชาที่ดำเนินการเข้าข่ายละเมิด MOU 2543 ที่ตกลงร่วมกัน


“ต้องยืนยันว่ากัมพูชาจะมีความชอบธรรมอะไร ที่จะนำเอาข้อพิพาทนี้ไปสู่การคลี่คลายในเวทีอื่น เพราะว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายละเมิด MOU 43 และข้อเรียกร้องจนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยไม่ได้เรียกร้องอะไรเพิ่มเติมเลย เราเรียกร้องให้กัมพูชาเคารพ MOU 43 เราและเขาได้ลงนามร่วมกันโดยสมัครใจ ดังนั้นเราต้องมองสถานการณ์ให้ออก” นายวิโรจน์กล่าว

ส่วนจะมีเรื่องการเมืองในประเทศเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนคิดว่าคงจะมีทั้งการเมืองในประเทศ การเมืองระหว่างประเทศ และไม่ละทิ้งประเด็นที่เกี่ยวพันกับประเทศมหาอำนาจด้วยแต่เรื่องนี้ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แล้วต้องระมัดระวังในการให้ความเห็นแต่ต้องผูกทั้ง 3 เรื่องเข้าด้วยกัน

นายวิโรจน์ ระบุว่า อาจจะมีมาตรการที่ชัดเจนออกมา อย่างเช่นตอนนี้บางคนเรียกว่ามาตรการกดดัน แต่ตนขอเรียกว่ามาตรการในการสร้างแรงจูงใจให้กัมพูชากลับมาสู่โต๊ะเจรจาดีกว่า ซึ่งประเทศไทยจะต้องมีมาตรการในระยะยาวได้ หรือจนกว่ากัมพูชาจะกลับเข้ามาเจรจาในกรอบ MOU 2543 ดังนั้นตนคิดว่ารัฐบาลต้องเตรียมอนุมัติกรอบงบประมาณ หรือ งบกลาง ที่จะมาสนับสนุนให้ผู้ประกอบการปรับตัวหรือนำมาชดเชยเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ย้ำว่ารัฐบาล ต้องยืนระยะมาตรการกดดันต่าง ๆเหล่านี้ให้ได้และพร้อมที่จะดำเนินมาตรการตลอดไป ตราบใดที่ทางกัมพูชายังไม่เจรจา


เมื่อถามว่าทางสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อถกปัญหานี้เป็นอย่างไรบ้างนั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ ซึ่งตนก็เคยเสนออยู่แล้ว ไม่ว่าจะในสภาผู้แทนราษฎรหรือประชุมร่วมกันของทั้ง 2 สภาก็ยินดี รัฐบาลก็จะได้มีข้อเสนอแนะแนวทางที่เป็นเอกภาพมากขึ้น เป็นความร่วมมือกันระหว่างอำนาจนิติบัญญัติและอำนาจบริหาร

ส่วนมองอย่างไรที่ขณะนี้มีกระแสในโลกโซเชียลที่ออกมาเรียกร้องให้มีการรัฐประหารนั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า ต้องย้ำว่าการคลี่คลายข้อพิพาทระหว่างประเทศสิ่งสำคัญที่สุดคือความชอบธรรมและเป็นความชอบธรรมในเวทีโลกที่ประเทศของเราสามารถอธิบายกับนานาอารยประเทศได้

“ดังนั้นหากเราทำลายประชาธิปไตยด้วยน้ำมือของเราเอง แล้วได้รัฐบาลใหม่ที่ได้จากการฉกฉวยโอกาสทำรัฐประหาร ซึ่งรัฐบาลเช่นนั้นจะไม่มีที่ยืนบนเวทีโลกเลย ไม่มีความชอบธรรมใด ๆ ในการไปเจรจากับมิตรประเทศหรือประเทศอื่น ๆ เลย และจะเป็นรัฐบาลที่ไม่มีใครในโลกยอมรับก็จะเข้าทางฝั่งกัมพูชาหรือสิ่งที่ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและประธานองคมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และ พลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ต้องการทันที” นายวิโรจน์กล่าว

นายวิโรจน์ ยังกล่าวว่า เราต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าสิ่งที่ สมเด็จฯ ฮุน เซน และ พลเอกฮุน มาเนต ต้องการคืออะไร ต้องการทำลายความชอบธรรมของประเทศไทยในศาลโลก ในเวทีโลก ฉะนั้นเราต้องดึงสติกลับมา เพราะกัมพูชาเขาเป็นคนละเมิด MOU 43 ซึ่งเป็นเสมือนข้อตกลงที่ทำร่วมกันไว้ระหว่างไทยและกัมพูชา และหากคิดแบบเป็นกลางข้อตกลงนี้ไทยและกัมพูชาทำร่วมกันโดยความสมัครใจ ไทยไม่ได้เป็นฝ่ายละเมิดแต่อย่างใด ที่ผ่านมาก็ดำเนินการตาม MOU 43 ไปได้ด้วยดี ความผาสุก ความเป็นอยู่ การอยู่ดีกินดี และการค้าการขายระหว่างประชาชนที่อยู่ในแนวพรมแดนของทั้งสองฝ่ายก็พัฒนาไปตามลำดับไม่ได้มีปัญหา

นายวิโรจน์ ระบุว่า วันนี้เราต้องยืนยันว่ารัฐบาลกัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิด MOU 43 และกลับท้าทายที่จะไปขึ้นศาลโลกอย่างนี้ จริง ๆ แล้วตนเองคิดว่าความชอบธรรมในการดำเนินการเช่นนั้นของฝั่งรัฐบาลกัมพูชานั้นไม่มีเลย ดังนั้นตนเองขอยืนยันว่าเราต้องดำรงความชอบธรรมย้ำว่าการอดทนอดกลั้นและแสวงสันติวิธีในการคลี่คลายข้อพิพาทถูกต้องแล้ว แต่สิ่งที่เราจะต้องทำคือ ดำรงไว้ซึ่งความชอบธรรมของประเทศไทยด้วยในขณะเดียวกันก็ต้องดำเนินมาตรการอื่น ๆ ควบคู่เพื่อจูงใจให้รัฐบาลกัมพูชาเข้าใจถึงสถานการณ์และยินดีที่จะมาร่วมโต๊ะเจรจาภายใต้เงื่อนไขที่สมเหตุสมผล และการหยิบยื่นข้อเสนอที่มันเป็นจริงได้

ซึ่งเราต้องยืนยันว่าประเทศไทยของเรายังไม่มีข้อเรียกร้องอะไรใหม่ ๆ ประเทศไทยไม่มีข้อเสนออะไรที่กัมพูชารับไม่ได้เรายังยืนยันเหมือนเดิมว่ากลับมาที่ MOU 43 ที่ทั้งสองประเทศ ได้ลงนามร่วมกันด้วยความสมัครใจ

“ผมคิดว่าเราต้องดำรงไว้ซึ่งความชอบธรรมของประเทศไทยตรงนี้และอย่าถูกแรงยั่วยุ ท้าทายแล้วใช้กำลังโดยไม่จำเป็น ใช้กำลัง และใช้การปะทะโดยไม่เข้าเงื่อนไขที่เรากำหนดเอาไว้ ซึ่งฝั่งสมเด็จฯ ฮุน เซน และ พลเอกฮุน มาเนต ก็จะหยิบยกเพื่อบั่นทอนความชอบธรรมของเรา” นายวิโรจน์ กล่าว

วันนี้ตนเองอยากให้รัฐบาลสื่อสารให้ชัดสื่อสารทั้งกับคนไทยทั้งชาวกัมพูชาทั้งชาวโลกและชาวอาเซียนให้รู้ว่าประเทศไทยเราไม่ได้เรียกร้องอะไรใหม่ใหม่ไม่ได้หยิบยื่นข้อเสนออะไรที่กัมพูชารับไม่ได้เราเพียงแต่ยึดมั่นใน MOU 43 ที่ทั้งสองประเทศได้ตกลงร่วมกันและสถานการณ์ปัจจุบันนี้เป็นฝ่ายรัฐบาลกัมพูชาต่างหากที่ละเมิดข้อตกลง MOU 43

อย่างไรก็ตามตนเองเชื่อว่ารัฐบาล จนวินาทีนี้ก็เดินเกมได้เข้าร่องเข้ารอยแต่ต้องเดินเกมได้ในระยะยาว ไม่ใช่แค่ใช้กฎอัยการศึกเพียงอย่างเดียว เพราะกองทัพก็จะมีอำนาจเฉพาะเรื่องความมั่นคงและควบคุมพื้นที่ แต่การอนุมัติงบประมาณการกำหนดมาตรการทางการคลังการกำหนดมาตรการทางการทูตที่ต้องทำควบคู่กันนั้นกฎอัยการศึกไม่ได้ให้อำนาจกับกองทัพดังนั้น วันนี้ตนเองคิดว่านายกรัฐมนตรีต้อง จะต้องเร่งอนุมัติงบกลางเพื่อเข้ามาชดเชยเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการในแนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบได้แล้วเพื่อให้มาตรการดังกล่าวสามารถทำให้ผู้ประกอบการไทยปรับตัวได้ และยืนระยะที่จะกดดันอย่างนั้นได้อย่างต่อเนื่องและตลอดไปตราบใดก็ตามที่ฝั่งรัฐบาลกัมพูชายังคงไม่เคารพ MOU 2543

สำหรับการสื่อสารที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ใช้คำขอบคุณรัฐบาลกัมพูชา ตรงนี้สะท้อนนัยยอะไรหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ในเรื่องของการรักษามารยาททางการทูต ซึ่งตนเองคิดว่าเรารับได้ ที่ผ่านมาจะสังเกตได้ว่าประชาชนไทยจะไปจับจ้องอริยาบท จะไปจับจ้องคำพูดของนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรี แต่เหตุผลเพราะประชาชนไม่เห็นมาตรการที่เป็นรูปธรรมเท่านั้นเอง

ซึ่งหากมีมาตรการที่เป็นรูปธรรมออกมาต่อเนื่องที่สามารถกดดันหรือสร้างแรงกดดันให้กัมพูชาก้าวมาสู่โต๊ะเจรจาอย่างสมเหตุสมผลคิดว่าประชาชนจะเข้าใจพิธีการที่ต้องทำอย่างเป็นทางการ ก็ต้องมีความจำเป็นที่จะต้องรักษามารยาททางการทูต คิดว่าอย่าไปจับจ้องจับผิดอย่างนั้นเลย ดูที่มาตรการ ที่เป็นทางการและผลสัมฤทธิ์ของมัน เชื่อว่าตอนนี้กำลังเดินเข้าไปสู่เส้นทางที่ ทำให้เราบรรลุถึงผลได้ และวันนี้สังคมไทย ต้องดึงเข้ามาสู่จุดที่ว่าเราต้องการบรรลุวัตถุประสงค์ด้วยวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด.-319​ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

The Ministry of National Defence claims Cambodia has not withdrawn troops from its sovereign territory

กห.กัมพูชายืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย

พนมเปญ 9 มิ.ย. – กระทรวงกลาโหมแห่งชาติ เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชายึดครองมายาวนาน เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ “ตามแถลงข่าวจากกระทรวงกลาโหมแห่งชาติในวันนี้ กระทรวงฯ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังต่อไปนี้: 1.ไม่มีการถอนกำลังทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาได้ประจำการมาเป็นเวลานาน 2.การดำเนินการทั้งหมดของกองทัพกัมพูชาประกอบด้วยการประจำการ การจัดวางกำลัง การปรับเปลี่ยน และการเคลื่อนย้าย อยู่ภายในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา 3.กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานทุกรูปแบบ 4.กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาเขตแดนกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) เพื่อดำเนินการวัดแนวเขตแดนและจัดทำเส้นเขตแดนในส่วนที่เหลือระหว่างสองประเทศ รวมถึงจุดที่กัมพูชาจะยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) กระทรวงกลาโหมแห่งชาติขอให้เพื่อนร่วมชาติและสื่อมวลชนใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยเฉพาะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และเชื่อถือได้” .-814.-สำนักข่าวไทย