กมธ.การทหาร ถกลับลากไส้เส้นเงินแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ

รัฐสภา 26 มิ.ย.- กมธ.การทหาร เชิญ “อดีตเลขา ปปง.-เหล่าทัพ” ถกลับกลุ่มทุนในกัมพูชา ตั้งเป้าลากไส้เส้นเงินแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ “วิโรจน์” เผยข้อมูลเพียบ บอกหากจัดการได้ “กัมพูชา” ติดแบล็กลิสต์อีกรอบ ย้ำ นานาชาติพร้อมถล่ม โดยเฉพาะ “ฝรั่งเศส” เหตุไปลอบสังหาร “ลิม กิมยา” งง “นายกฯ ไทย” ไม่เคยสาวต่อ ปม “ฮุน เซน” ขู่เปิดชื่อ 7 นักการเมือง เอี่ยวฟอกเงินใน “เขมร”


คณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน เป็นประธานคณะกรรมาธิการ ประชุมลับ เรื่องเครือข่ายกลุ่มทุนในราชอาณาจักรกัมพูชา การปราบปรามการฟอกเงิน และกรณีความขัดแย้งไทย-กัมพูชา โดยเชิญสำนักงานปลัดกระกทรวงกลาโหม, ผู้นำเหล่าทัพ และอดีตเลขาธิการคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าร่วมประชุม

โดยระหว่างการประชุม นายวิโรจน์ ได้แถลงข่าวว่า วันนี้ทางคณะกรรมาธิการทหาร ได้ประชุมหารือกัน เกี่ยวกับเส้นทางการเงินการเชื่อมโยงของกลุ่มทุนในประเทศกัมพูชาที่อาจเชื่อมโยงกับการก่ออาชญากรรมในประเทศไทย ว่าจะมีกลไกป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินที่สามารถดำเนินงานได้ตามกฎหมาย ซึ่งจะได้เป็นการปกป้องคนไทยให้ปลอดภัยจากอาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งเราต้องพูดถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์ รวมถึงธุรกิจสีดำ และที่น่ากลัวที่สุดคือการค้ามนุษย์และการค้ายาเสพติด


ในข้อเสนอที่เป็นไปได้เบื้องต้น เราเชื่อว่าทาง ปปง. และตำรวจไซเบอร์ (สอท.) น่าจะมีศักยภาพและข้อมูลระดับหนึ่งอยู่แล้ว ถึงธุรกรรมทางการเงิน ในการโอนเงินไปมาระหว่างไทยกัมพูชา เพราะเงินทุก 700,000 บาทขึ้นไป ต้องรายงานให้ ปปง. ทราบ หรือถ้าเป็นเงินสดเข้าใจว่าต้องขออนุญาตทางธนาคารแห่งประเทศไทยหรือศุลกากรในการขนเงินสดและมีข้อมูลอยู่แล้ว ทางคณะกรรมาธิการจะขอข้อมูลเส้นเงินย้อนหลัง 10 ปี เพื่อพิจารณาการเติบโตทางการเงินระหว่างไทยกัมพูชาจะได้วิเคราะห์สถานการณ์ต่อไป

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าหากวันนี้ทางนายกรัฐมนตรี สั่งการอย่างจริงจังให้ทาง ปปง.และ สอท. เร่งทำงานกับหน่วยงานนานาชาติ ก็สามารถทำงานได้เลย เพราะมีข้อมูลการฟอกเงินคนถ่ายเงินหรือธุรกรรมที่ผิดปกติ หากเราพบความผิดปกติก็เชื่อว่าจากข้อมูลที่ได้จากในกรรมาธิการ มีความเป็นไปได้ว่าอาจมีธุรกรรมทางการเงินที่เกิดขึ้นในประเทศกัมพูชาและประเทศที่ถูกขึ้นบัญชีดำ จากองค์กรป้องกันการฟอกเงินและการเงินที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย หากได้ข้อมูลที่ครบถ้วนก็ให้ ปปง.รายงาน ซึ่งเงินที่ผิดกฎหมาย ให้กับทาง องค์กรป้องกันการฟอกเงินทราบผ่านกลไก ICRG เพื่อให้พิจารณาขึ้นเป็นบัญชีสีเทาหรือแบล็คลิสต์ ข้อดีจะได้เป็นการสกัดกั้นอาชญากรรมทางไซเบอร์ แก๊งคคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงพนันออนไลน์จะลดลง

นายวิโรจน์ ระบุว่า เราสันนิษฐานว่าในกรณีนี้อาจเกี่ยวข้องกับบริษัท ฮุ่ยวัน (Huione) ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งเงินที่สำคัญ ที่เชื่อมโยงกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และพลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งเข้าใจว่าหน่วยปราบปรามการฟอกเงินของสหรัฐ ดำเนินการสืบสวนสอบสวนติดตามกรณีนี้อยู่หากรัฐบาลเรามีความตั้งใจจริงก็สามารถทำงานร่วมกันกับสหรัฐอเมริกาได้ ซึ่งความจริงแล้วประเทศกัมพูชาถูกขึ้นบัญชีสีเทาตั้งแต่ปี 2519 เพิ่งจะปลดในปี 2023 หากเรามีหลักฐานเส้นเงินต่าง ๆ ที่เชื่อมโยง กับประเทศที่ติดแบล็คลิสต์ขององค์กรป้องกันการฟอกเงินฯ ก็จะเป็นมูลเหตุ ทำให้ประเทศกัมพูชากลับไปติดบัญชีสีเทา หรืออาจติดบัญชีสีดำ ซึ่งหมายความว่าธุรกรรมการเงินต่าง ๆในประเทศกัมพูชาจะถูกตรวจสอบอย่างหนัก หรืออาจถูกห้ามทำธุรกรรม นอกจากประเทศไทยจะได้อานิสงส์แล้ว โลกใบนี้ก็จะปลอดจากอาชญากรรมไซเบอร์ด้วย


นายวิโรจน์ ยังกล่าวว่า ส่วนอีกข้อเสนอตนอยากจะร้องขอไปยังนายกรัฐมนตรีให้เร่งสั่งการให้มีคณะทำงานเร่งแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมไซเบอร์ทั้งหมด และพิจารณาการลงนาม ให้สัตยาบันในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยอาชญากรไซเบอร์ 2024 หรือ UNCC2024 หากเราจะเป็นประเทศที่ร่วมก่อตั้ง ก็ต้องลงนามภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2569 และหากเราตรวจพบว่ามีการทำอาชญากรรมไซเบอร์ เราสามารถขอความร่วมมือภาคีส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้ และดำเนินคดีข้ามประเทศได้ ตรงนี้เราสันนิษฐานว่าแหล่งการทำอาชญากรรมไซเบอร์แหล่งใหญ่แห่งหนึ่งในภูมิภาคก็อาจจะเกิดขึ้นที่ประเทศกัมพูชา

“สิ่งเดียวที่นายกรัฐมนตรีกังวล ซึ่งหากสังเกตคือนายกฯ ไม่เคยตอบแล้วไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย หลังจากที่สมเด็จฮุน เซนเคยระบุว่าจะเปิดชื่อนักการเมืองไทยที่มีอยู่ 7 คนซึ่งไปฟอกเงินที่กัมพูชา และวันนี้จากการหารือใน กมธ. เราก็งงว่าถ้าเปิดมาแล้วกลัวอะไร ซึ่งมีข้อสันนิษฐานว่าหากเปิดมาแล้ว 7 ชื่อ และพบว่าคนในนั้นมีรายชื่อเป็นรัฐมนตรีหรือเป็นเครือญาติของรัฐมนตรี หรือเป็นเครือญาติของนายกรัฐมนตรี ส่วนในกรณีที่เป็นรัฐมนตรีจะเกิดปัญหา คือ การรายงานทรัพย์สินบัญชีต่อ ป.ป.ช. อันเป็นเท็จ ว่าร่ำรวยผิดปกติ และอาจเกี่ยวพันกับการทุจริต ซึ่งหากเข้าข่ายการกระทำความผิดในการทุจริตก็จะเป็นความผิดมูลฐานที่ ปปง. สามารถเข้าไปสืบและอายัดทรัพย์ ให้ตกเป็นของแผ่นดินได้ตามกฎหมาย จึงเป็นการตั้งข้อสังเกตว่า นี่คือความกังวลที่อยู่ในใจของนายกฯหรือไม่ ” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ ระบุว่า หากนายกฯใช้มาตรการควบคุมด่านถ้าไตร่ตรองดีแล้วผ่าน สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แล้วก็สามารถดำเนินการได้แต่อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าการควบคุมด่านส่งผลกระทบต่อทั้งประชาชนและผู้ประกอบการของไทย ซึ่งในวันนี้เรายังไม่เห็นมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการและประชาชนที่ทำการค้า ตามแนวชายแดนอย่างน้อย 7 จังหวัดเลย แต่หากมีความจำต้องควบคุมด่านตนไม่เห็นแย้งแต่ยังยืนยันว่าต้องมีมาตรการ ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการชาวไทยและคนชาวไทย

เมื่อถามว่าการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมลับในวันนี้ผลถือว่าพอใจหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า เห็นกลไกที่คิดว่าได้ผลกว่าควบคุมด่าน ซึ่งตนคิดว่ามาตรการที่พุ่งเป้าไปที่กระเป๋ากับสตางค์ของตระกูลฮุน จะสามารถกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์ที่หลอกหลอนประชาชน ซึ่งการพนันออนไลน์มีการประเมินแล้วว่าประเทศไทยสูญเสียเงินไปกว่า 60,000 ล้านบาท แก๊งคอลเซ็นเตอร์ 30,000 ล้านบาท ทุกคนรับทราบถึงปัญหานี้ดีทำไมไม่เลือกมาตรการนี้ จะได้แก้ปัญหาในประเทศและกดดันตระกูลฮุนไปด้วย โดยที่นานาประเทศให้ความร่วมมือ

“จำฝรั่งเศสได้หรือไม่ กรณีการเสียชีวิตของนายลิม กิมยา นักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชา ซึ่งเขามี 2 สัญชาติกัมพูชาและฝรั่งเศส การเสียชีวิตที่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ฝรั่งเศสแถลงการประนามด้วยซ้ำไป และหากคลิปจากอัลจาซิรา เป็นเรื่องจริง เสียงของคนที่คล้ายฮุนเซนเป็นคนสั่งการปฏิบัติการกำจัดฝ่ายตรงข้าม โดยที่ร่วมกับตำรวจไทย คำถามคือผู้บังคับบัญชาสูงสุดของตำรวจไทยคือนายกรัฐมนตรี นั่นแสดงว่าเรากำลังปล่อยให้ฮุนเซนสั่งการนายกรัฐมนตรี ให้มาฆ่าคนเย้ยกฎหมายในราชอาณาจักรไทย ไม่ต้องสนใจขื่อแปประมวลกฎหมายอาญาในประเทศไทยแล้วหรือ” นายวิโรจน์กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า หากดำเนินการตามมาตรการที่แนะนำไปจะได้เคลียร์ชนักติดหลัง ของนายกรัฐมนตรีด้วยว่าเป็นลูกสมุนฮุนเซน ซึ่งเรื่องอาชญากรรมทางไซเบอร์ในกัมพูชานอกจากสหรัฐอเมริกาแล้ว ยังมีประเทศในแถบสแกนดิเนเวียและตำรวจสากล พร้อมที่จะทำงานร่วมกัน รวมไปถึงประเทศจีนด้วยนายกรัฐมนตรีควรจะทำงานร่วมกับนานาประเทศ หากสำเร็จ เราจะลดทอนความชอบธรรมของกัมพูชาในเวทีสากลทันที แล้วข้อเรียกร้องที่ไปขึ้นศาลโลกจะไม่สมเหตุสมผล

“หมายความว่าอะไรครับ ประเทศที่มีส่วนเกี่ยวพันกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ เป็นแหล่งซ่องสุม การกระทำผิดกฎหมายต่างๆ คุณก็ไร้ความชอบธรรมแล้ว ในเบื้องต้นในเวทีสากลหรือนานาชาติ ส่วนที่บอกว่า 7 รายชื่อก็เปิดมาเลย จะได้รู้ว่าใครเป็นใครจะได้จัดการในคราวเดียว หรือท่านนายกฯกลัวว่าเปิดมาจะเจอ เครือญาติของท่าน เพราะหลายท่านก็ทราบว่าญาติของท่านนายกฯไปแต่งงานกับทางฝั่งนั้น ผมไม่อยากตั้งข้อสังเกตแต่การประชุมในวันนี้ทำให้ผมอดตั้งข้อสังเกตไม่ได้ ” นายวิโรจน์ กล่าว.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย