ก.ต่างประเทศ 27 ต.ค.-โฆษก กต.ยันตัวประกันไทยที่ถูกจับกุม 18 คน ไม่ใช่ 54 คนตามข่าวลือ วอนแรงงานไทยกลับประเทศ หากสถานการณ์สงบอิสราเอลยินดีรับกลับเข้าทำงานอีกครั้ง
นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลและภารกิจอพยพคนไทยกลับประเทศ ว่า สถานการณ์การสู้รบขณะนี้ มีความเป็นห่วงในพื้นที่ เลบานอน เวสต์แบงก์ ฉนวนกาซา ฝ่ายต่าง ๆที่เกี่ยวข้องพยามพูดคุยกับอิสราเอล ให้ชะลอการบุกแบบเต็มรูปแบบไปก่อน ด้วยความคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวประกัน ซึ่งตัวประกัน ที่เราติดตามได้รับการปล่อยตัวออกมา 2 ระลอกแล้วจำนวน 4 คน โดยเป็นคนอิสราเอลทั้งหมด ทุกฝ่ายเรียกร้องให้ดูแลความปลอดภัยตัวประกันและปล่อยตัวประกันออกมาให้เร็วที่สุด
“ในส่วนของแรงงานชาวไทยในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบ ขณะนี้มีผู้เสียชีวิต 33 ราย บาดเจ็บ 18 ราย โดยที่ขณะนี้มี 5 รายที่อยู่ในระหว่างการรักษาพยาบาล และที่ถูกควบคุมตัวเป็นตัวประกันอยู่ที่ 18 ราย ขณะที่นักศึกษาไทยในสถาบัน AICAT ที่เดินทางกลับประเทศนั้น ขณะนี้มีอยู่ทั้งสิน 40 ราย และที่ไม่ประสงค์เดินทางกลับมีจำนวน 75 ราย เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ส่วนข่าวลือเรื่องตัวประกันชาวไทยที่มีรายงานว่าถูกจับถึง 54 คนนั้น ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ติดต่อกับทางการอิสราเอล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข่าวดังกล่าว ผลคือไม่ทราบแหล่งที่มา ตัวเลขที่ได้รับการยืนยันยังอยู่ที่ 18 รายเท่าเดิม จากนี้ทางกระทรวงต่างประเทศจะติดตามอย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมเราจะเปิดเผยให้พี่น้องสื่อมวลชนได้รับทราบ” โฆษกกระทรวงการต่าวประเทศ กล่าว
นางกาญจา กล่าวว่า ไทยเป็นชาติที่อพยพมากที่สุด มีเที่ยวบินทุกวัน เนื่องจากมีคนไทยอยู่ที่อิสราเอลเป็นจำนวนมาก ส่วนแรงงานไทยที่รอค่าแรง รัฐบาลพยายามส่งความถึง โดยขอให้แน่ใจว่าปลอดภัย และขอให้กลับมาตั้งหลักที่ไทยก่อน เพราะการกลับไปทำงาน ทางการอิสราเอลยินดีตอบรับอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงประเด็นที่เอกอัครราชทูตอิสราเอล พูดในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติเมื่อวานนี้ (26 ต.ค.) โดยยกภาพวิดิโอที่ชายคนหนึ่งถูกทำร้าย อ้างว่าเป็นแรงงานไทย นางกาญจนา กล่าวว่า กระทรวงต่างประเทศได้ติดตามเรื่องนี้ คณะผู้แทนถาวรประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก จะหารือกับฝ่ายเลขานุการของที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ตามหลักการนำเอกสารหรือวิดิโอมาเผยแพร่ในที่ประชุมต้องขออนุญาตประธานในที่ประชุมก่อน เข้าใจว่าครั้งนี้ไม่ได้ขออนุญาต โดยปกติเรื่องผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตมีความละเอียดอ่อน เราต้องเคารพต่อผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย