รมว.กต.เยือนกาตาร์ขอบคุณช่วยเหลือ 5 ตัวประกันไทย

รัฐกาตาร์ 5 มี.ค.- รมว.กต.เยือนกาตาร์ขอบคุณช่วยเหลือตัวประกันไทย 5 คน พร้อมขอช่วยตัวประกันคนสุดท้าย พร้อมหารือทวิภาคีดันความร่วมมือความมั่นคงอาหาร-พลังงาน-มนุษย์


นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางเยือนรัฐกาตาร์ โดยได้เข้าพบหารือกับ เชค มุฮัมมัด บิน อับดุลเราะฮ์มาน บิน ญาสซิม อาล ษานี นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัฐกาตาร์ เพื่อแสดงความขอบคุณที่รัฐบาลกาตาร์ ให้การสนับสนุนการเจรจาและประสานงานการปล่อยตัวคนไทย 5 คน เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 พร้อมทั้งขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติม ในการช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยที่เหลืออยู่อีก 1 ราย และการนำร่างผู้เสียชีวิต 2 รายกลับประเทศไทย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังเปิดเผยอีกว่า ในการพบหารือกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัฐกาตาร์ครั้งนี้ เพื่อตอกย้ำความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทย-กาตาร์ โดยตนได้ขอบคุณกาตาร์ ที่ช่วยเจรจาให้ชาวไทยที่ถูกควบคุมตัวในฉนวนกาซาให้ได้รับการปล่อยตัว และขอรับการสนับสนุนผลักดันให้มีการปล่อยตัวชาวไทยที่เหลืออีกหนึ่งราย และยังได้หารือแนวทางส่งเสริมความร่วมมือใน 3 ด้านหลัก คือ ความมั่นคงทางอาหาร โดยไทยพร้อมแบ่งปันความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเกษตร และการแปรรูปอาหาร ความมั่นคงด้านพลังงาน โดยเฉพาะการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด และความมั่นคงของมนุษย์ ทั้งเรื่องสาธารณสุข การศึกษา และการท่องเที่ยว พร้อมทั้งหารือทวิภาคีถึงแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน เนื่องในวาระครบรอบ 45 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย-กาตาร์ ในสาขาต่าง ๆ ที่มีศักยภาพด้วย อาทิ พลังงานหมุนเวียนและพลังงานทางเลือก ความมั่นคงทางอาหารและนวัตกรรมฮาลาล การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และเทคโนโลยีและนวัตกรรม


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้เชิญให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัฐกาตาร์เยือนไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นประธานร่วมในการประชุม High JC เพื่อผลักดันความร่วมมือในด้านดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมด้วย

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลและฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 กาตาร์ได้มีบทบาทสำคัญเป็นตัวกลางในการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกันระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ร่วมกับสหรัฐอเมริกา และอียิปต์ ซึ่งนำไปสู่การปล่อยตัวประกันในฉนวนกาซา รวมทั้งตัวประกันชาวไทย 28 ราย ซึ่งได้เดินทางกลับไทยแล้ว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้ลงนามความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตรา หรือ Visa สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต ราชการ หรือรูปแบบพิเศษ ระหว่างไทย-การ์ตา ร่วมกับรัฐมนตรีแห่งรัฐด้านต่างประเทศกาตาร์ พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลางระหว่างกันด้วย.312 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ได้เบาะแสเพิ่ม โจร 30 วิ ล็อกเป้าชิงทอง 1.6 ล้าน

เหตุคนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนปลอม ชิงทองมูลค่า 1.6 ล้าน กลางห้างอุดรฯ ชุดสืบยังเร่งแกะรอยล่า ยืนยันได้วงจรปิดเส้นทางมาชิงทองและเส้นทางหนีแล้ว มั่นใจคนร้ายล็อกเป้ามาชิงทองร้านนี้ร้านเดียว

สส.ปชน.โต้ “ทักษิณ” ปราศรัยหยาบคาย-ดูถูก

สส.เหนือ พรรคประชาชน โต้ “ทักษิณ” หลังซัด “เท้ง” สึ่งตึง “พุธิตา” ย้อน ตลกดี เป็นถึงผู้หลักผู้ใหญ่ ปราศรัยหยาบคาย-ดูถูก ลั่นดิสเครดิตแบบนี้ไม่ได้อะไร ไล่ไปทำหน้าที่รัฐบาลให้ดี เห็นมากี่ทีขอ สส.คืน

“ชัยธวัช” น้อมรับ ปชน.พ่ายเลือกตั้งซ่อมนครศรีฯ เขต 8

“ชัยธวัช” น้อมรับ ปชน.พ่ายเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีฯ เขต 8 หลัง “กล้าธรรม” ชิงประกาศชัยชนะ ผิดหวังภาคใต้ซื้อเสียงโจ๋งครึ่ม หวังประชาชนยังเทใจให้ชนะเลือกตั้งทั่วไป

ข่าวแนะนำ

รื้อซากตึกสตง.

รื้อซาก สตง.ถึงชั้นใต้ดินแล้วบางส่วน-พบผู้สูญหายอีก 1 ร่าง

เจ้าหน้าที่ลดความสูงซากตึก สตง. ถึงชั้น 1 แล้ว และลงไปถึงชั้นใต้ดินได้บางส่วน โดยวันนี้จะเสริมรถหัวเจาะกระแทกเข้ามาเพิ่ม ขณะที่เมื่อคืนพบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง ยืนยันจะทำงานให้เร็วที่สุด เพื่อคืนร่างผู้สูญหายทั้งหมดให้ญาติ

นายกฯ ขันนอตกระทรวง-หน่วยงาน เร่งเดินโครงการบริหารจัดการน้ำ

นายกฯ ขันน็อตกระทรวง-หน่วยงาน เร่งเดินโครงการบริหารจัดการน้ำ ตั้งคำถามเบิกงบฯ แก้น้ำท่วมตั้งแต่ปี 63 สร้างคืบแค่ 5% บอกน้อยมาก พร้อมแจ้ง ครม.รับทราบแผนถก JCR ไทย-กัมพูชา ก.ค.นี้ หวังสางปมคอลเซ็นเตอร์-ยาเสพติด เล็งจับมืออาเซียนดึงจุดแข็งแต่ละประเทศ เจรจากำแพงภาษีสหรัฐ

เรียกสอบวิศวกรตึกถล่ม

เริ่มแล้ว! ดีเอสไอ เรียกสอบชุดแรก 10 วิศวกร ตัวแทนอิตาเลียนไทย

เริ่มแล้ว! พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ เรียก 10 วิศวกร และตัวแทนจาก บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เข้าให้ปากคำชุดแรก คดีตึก สตง.หลังใหม่ถล่ม

people at Saint Peter's Square

ประชุมลับเลือกโป๊ปองค์ใหม่ 7 พ.ค.

สำนักวาติกัน 29 เม.ย.- ที่ประชุมพระคาร์ดินัลกำหนดให้วันที่ 7 พฤษภาคม เป็นวันเริ่มต้นการประชุมลับในการเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ หรือที่เรียกว่า คอนเคลฟ (conclave) เมื่อวานนี้ พระคาร์ดินัลจากทั่วโลกประชุมกันที่โบสถ์น้อยซิสทีน ในพระราชวังพระสันตะปาปา ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่สมัยคริสต์ทศวรรษที่ 16 ภายในนครรัฐวาติกัน โดยปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชม เป็นการประชุมครั้งแรกหลังพิธีฝังพระศพสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เพื่อหารือเรื่องกำหนดวันประชุมลับในการเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ หรือที่เรียกว่า คอนเคลฟ (conclave) ที่ประชุมตกลงให้วันที่ 7 พฤษภาคมเป็นวันเริ่มต้นการประชุมลับเพื่อเลือกโป๊ปองค์ต่อไป ตามปกติแล้ว คอนเคลฟจะเกิดขึ้นหลังจากผ่านพ้นวันสิ้นพระชนม์ 15-20 วัน จึงจะไม่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 6 พ.ค. สำหรับคอนเคลฟ 2 ครั้งที่ผ่านมา คือ ปี 2548 และ 2556 กินเวลา 2 วัน ส่วนค่าเฉลี่ยของคอนเคลฟ 10 ครั้งหลังสุดคือ 3 วัน โดยในคอนเคลฟครั้งนี้ จะมีในพระคาร์ดินัล 135 รูปที่มีอายุต่ำกว่า 80 ปี จะได้ร่วมประชุมลับและลงคะแนน […]