“เศรษฐา” ประกาศขจัดวงจรยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ

บางปู 17 ก.ย.- นายกรัฐมนตรี ประกาศขจัดวงจรยาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติ ผนึกกำลังถกแผนเร่งด่วน พร้อมเป็นประธานเผาทำลายยาเสพติดของกลางกว่า 25 ตัน


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและหัวหน้าหน่วยราชการจากกระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมประชุม

นายเศรษฐา เปิดการประชุม โดยระบุว่าปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาสำคัญ ที่พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 11 พรรค รวมถึงพรรคฝ่ายค้าน นำมาเป็นนโยบายหาเสียงกับประชาชน ตนและพรรคร่วมทั้ง 11 พรรค ตั้งแต่ฟอร์มรัฐบาล เราให้คำมั่นว่าจะทำให้เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งตนจะเป็นประธาน นั่งหัวโต๊ะ ทำให้ระยะอันใกล้ หมดลงไปให้มากที่สุด รวมถึง การดูแลผู้เสพ ผู้ป่วย และการคืนกลับสู่สังคม ป้องกันตั้งแต่ต้นน้ำ ไม่ให้เข้าไปเสพ การยึดยาเสพติด ที่มีระยะเวลาเผาทำลายที่ช้า ก็จะต้องตอบสังคมหลายเรื่อง รวมถึงการยึดทรัพย์ ถ้าช้า ผู้ผลิตจะมีสถานภาพการเงินแข็งแรง และจะนำกลับมาสู้วงจรใหม่ รวมถึงการลับลอบนำเข้าชายแดน ดังนั้น ขอให้วันนี้เป็นการเริ่มต้นที่ดี เพื่อขจัดยาเสพติดออกจากสังคมไทย


นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำนโยบายรัฐบาลให้หน่วยงานราชการบูรณาการและเป็นเสาหลักในการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ร่วมกับการปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยยึดหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” ต้องดำเนินการอย่างจริงจังและเป็นระบบ ในขณะที่ผู้ค้าต้องปราบปรามอย่างเข้มข้น และยึดทรัพย์ พร้อมถกแผน 3 ระยะ เพื่อลดปัญหายาเสพติดในสังคม และให้ประเทศไทยกลับมามีสถาบันครอบครัวที่เข้มแข็ง โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเจ้าภาพหลักในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่อย่างจริงจัง มีการกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดที่วัดผลได้

จากนั้นในเวลา 14.30 น. บริษัท อัคคีปราการ จำกัด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธาน ในพิธีเผาทำลายยาเสพติดของกลาง โดยมีคณะรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ จากการประชุมขับเคลื่อนการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ร่วมในพิธี พร้อมด้วยนายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ผู้แทนจากกระทรวงอุตสาหกรรม ประชาชน จากหมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดิน เข้าร่วมกว่า 200 ราย ร่วมเป็นสักขีพยานในการเผาทำลายยาเสพติดครั้งนี้ โดยเป็นการทำลายของกลางยาเสพติดของกลางจากคดียาเสพติดจำนวน 100 คดี เป็น ยาบ้า 12,522 กิโลกรัม ไอซ์ 11,656 กิโลกรัม เฮโรอีน 418 กิโลกรัม ฝิ่น 179 กิโลกรัม คีตามีน 704 กิโลกรัม และสารเสพติดอื่น ๆ น้ำหนักรวม 25,517 กิโลกรัม ซึ่งทำลายโดยการเผาไหม้ด้วยระบบเตาเผาอุณหภูมิสูง 2 ชุด เผาไหม้ที่ 800-1,200 องศาเซลเซียส ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง พร้อมระบบควบคุมมลพิษอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถทำลายได้หมดสิ้น และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชน

ด้านนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้กล่าวถึงการเผาทำลายยาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติดที่สามารถทำได้รวดเร็วขึ้น ไม่ต้องรอคดีสิ้นสุดซึ่งบางคดีใช้เวลาเป็น 10 ปีซึ่งช่วยลดภาระในการเก็บรักษาได้จำนวนมาก


นอกจากนั้นสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุขได้แต่งตั้งให้สำนักงาน ป.ป.ส. เป็นสถานที่เก็บรักษายาเสพติดของกลาง เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2566 เพื่อให้การดำเนินการเก็บรักษายาเสพติดของกลางเป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ส. ว่าด้วยการตรวจรับ การตรวจพิสูจน์ การเก็บรักษา การทำลาย การนำไปใช้ประโยชน์ และการรายงานยาเสพติด พ.ศ. 2565 ทำให้ กระบวนการ ตรวจรับเก็บรักษาและทำลายยาเสพติด สามารถดำเนินการได้โดย สำนักงาน ป.ป.ส. เพื่อให้กระบวนการทำลายยาเสพติด ทำได้รวดเร็วขึ้น และลดภาระการเก็บรักษา พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่ายาเสพติดที่จับมาได้นั้น จะถูกทำลายโดยเร็วหลังการตรวจพิสูจน์ ไม่มีการนำมาเวียนขายได้อีกแต่อย่างใด โดยการทำลายยาเสพติดจะต้องทำอย่างต่อเนื่องให้สอดคล้องกับการจับกุมยาเสพติด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับพี่น้องประชาชนว่ากระบวนการมีความโปร่งใสทุกขั้นตอน และสามารถตรวจสอบได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

“พิธา-ทักษิณ” ช่วยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

“พิธา” ลงพื้นที่ตลาดต้นลำไย จ.เชียงใหม่ พบปะพี่น้องประชาชน ด้านพรรคเพื่อไทย “ทักษิณ” ขึ้นเวทีแนะนำ “พิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง” ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

ไตรภาคีเคาะแล้ว! ค่าจ้างขั้นต่ำ มีผล 1 ม.ค.68

ไตรภาคี เคาะค่าจ้าง 400 บาท ลูกจ้าง 4 จังหวัด 1 อำเภอ “ภูเก็ต-ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง-อ.เกาะสมุย” มีผล 1 ม.ค.68 ขึ้นค่าจ้าง 7-55 บาท 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้วันละ 337 บาท

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค ไม่ให้ระบาดในไทย พร้อมยกมาตรรักษาสุขภาวะในพื้นที่อย่างเข้มข้น