“ก้าวไกล” มติเอกฉันท์ไม่โหวตแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – “ก้าวไกล” มติเอกฉันท์ไม่โหวตให้แคนดิเดตนายกฯ จาก “เพื่อไทย” ไม่สนับสนุนรัฐบาลข้ามขั้ว ขัดเจตนารมณ์การลงคะแนนเลือกตั้ง 66 ซัดเกรงใจผู้มีอำนาจมากกว่าประชาชน แต่ยันไม่เสนอชื่อ “พิธา” ชิงนายกฯ แม้จะไม่โหวตแคนดิเดตนายกฯ พรรคอื่น


นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่าที่ประชุม สส.พรรคก้าวไกล มีมติเป็นเอกฉันท์ไม่โหวตให้แคนดิเดตนายก​รัฐมนตรี​ของพรรคการเมืองที่จัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วในตอนนี้ เพราะไม่ต้องการสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลที่ขัดเจตนารมณ์ของประชาชนจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ด้วยเหตุผลใน 3 ประการดังนี้

  1. รัฐบาลผสมข้ามขั้วที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีการนำพรรครัฐบาลขั้วเดิมเกือบทั้งหมดมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วย เท่ากับขัดต่อเจตนารมณ์ของประชาชนที่แสดงออกอย่างชัดเจนในวันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 ว่าต้องการพลิกขั้วรัฐบาล
  2. การที่พรรคก้าวไกลจะโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐบาลผสมข้ามขั้วนี้ ไม่ใช่การปิดสวิตช์ สว. ตามที่มีการกล่าวอ้าง แต่เป็นการเดินตาม สว. เพื่อปิดสวิตช์ก้าวไกล เพราะหากทุกพรรคการเมือง มีเจตนาที่จะปิดสวิตช์ สว. และเคารพเจตจำนงของประชาชนอย่างแท้จริง ก็ต้องแสดงออกโดยการโหวตให้รัฐบาลเสียงข้างมากที่จัดตั้ง โดยก้าวไกลตั้งแต่แรก ไม่ใช่การจัดตั้งรัฐบาลตามความต้องการของ สว. และอ้างว่า ปิดสวิตช์ สว.
  3. แม้ขณะนี้จะยังไม่มีความชัดเจนเรื่ององค์ประกอบคณะรัฐมนตรี แต่เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าหน้าตาคณะรัฐมนตรีจะไม่แตกต่างจากรัฐบาลเดิมมากนัก พรรคก้าวไกลไม่เชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลโดยเกรงใจผู้มีอำนาจ แต่ไม่เกรงใจประชาชน จะผลักดันวาระที่ก้าวหน้าและนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างแท้จริงได้

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ สส.ก้าวไกล เอกฉันท์ ส่วนสถานการณ์การเลือกนายกรัฐมนตรี และการจัดตั้งรัฐบาลหลังจากนี้ ต้องดูว่าเป็นอย่างไรต่อ อาจโหวตนายกฯไม่จบในครั้งเดียว แต่ที่ประชุมในวันนี้มีการพิจารณาวาระสำคัญประเด็นเดียวคือการโหวตนายกฯ ส่วนเรื่องอื่น ๆ เป็นเรื่องของอนาคต


เมื่อถามว่า การจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วดังกล่าว พรรคก้าวไกลจะสามารถร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยได้อยู่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วตอนนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ได้แสดงออก ส่งเสียงผ่านการเลือกตั้ง 2566 ชัดเจนแล้วว่า ต้องการพลิกขั้วรัฐบาล ต้องการเห็นพรรคชนะลำดับ 1-2 แกนนำพรรคฝ่ายค้านเดิม ต้องการเห็นฝ่ายค้านเดิมบริหารประเทศแทนขั้วรัฐบาลเดิม แต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น ไม่เป็นไปตามเจตจำนงของประชาชน และมีการพูดคุยกันอยู่เหมือนกันว่า ความคลุมเครือที่ไม่ได้ประกาศชัดเจนว่า จะมีพรรคไหนเข้าร่วมรัฐบาล ยิ่งเพิ่มไม่ไว้วางใจกับประชาชน

เมื่อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า สามารถเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นแคนดิเดตนายกฯอีกรอบได้ จะเสนอชื่อแข่งหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า คนละประเด็น คิดว่า การเสนอชื่อซ้ำได้ เราเห็นด้วยอยู่แล้ว เป็นเรื่องหลักการ ไม่ได้เกี่ยวกับเสนอชื่อนายพิธาเป็นนายกฯอีกหรือไม่ แต่นี่คือหลักการที่ควรเป็นแบบนั้น ต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องเรื่องนี้ พรรคก้าวไกลจะเสนอญัตติให้ทบทวนมติเดิมของรัฐสภาในการตีความข้อบังคับ เราไม่เห็นด้วยที่มีการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสภาทำอะไรได้ ไม่ได้

เมื่อถามย้ำว่า ในการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯที่กำลังจะถึงนี้ พรรคก้าวไกลจะเสนอชื่อนายพิธาแข่งด้วยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า “ไม่ ๆ ไม่ได้เสนอแข่ง”


เมื่อถามว่า หลังจากนี้หมายความว่าพรรคก้าวไกล ปิดประตูต่อรองกับพรรคเพื่อไทยแล้วใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ปิดประตูต่อรองหมายถึงอะไร หมายความว่า ต่อรองว่าแม้จะเป็นฝ่ายค้าน แล้วมีข้อตกลงอะไรกับแกนนำพรรครัฐบาลหรือไม่ ถ้าเรื่องนี้คงไม่มี เพราะอย่างที่ย้ำเหตุผลหนึ่ง เป็นเหตุผลประกอบที่จะไม่โหวตแคนดิเดตนายกฯ ของรัฐบาลที่กำลังจัดตั้ง เราไม่เชื่อว่า การจัดตั้งรัฐบาลในสภาพการณ์แบบนี้ คือเกรงใจผู้มีอำนาจทุกฝ่าย ยกเว้นประชาชน จะสามารถผลักดันวาระของประชาชนที่ก้าวหน้าได้จริง ๆ ต่อให้รับปากอะไรกัน ก็ไม่เป็นผลในการปฏิบัติอนาคตอยู่แล้ว ส่วนเรื่องใดถ้าก้าวไกลเสนอ อนาคตถ้าเราเป็นฝ่ายค้าน ถ้าประชาชนสนับสนุนอย่างชัดเจน เชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่ในสภาจะสนับสนุนข้อเสนอเราอยู่แล้ว โดยไม่ต้องทำข้อตกลงอะไรกัน

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลจะโหวตไม่เห็นด้วย หรืองดออกเสียง นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน แต่ที่ชัดเจนคือ จะไม่โหวตให้ ส่วนจะถึงกับลงคะแนนว่าไม่เห็นชอบ หรืองดออกเสียง คงต้องดู มีรายละเอียดต้องพิจารณาถึงรัฐบาลที่กำลังจะจัดตั้งขึ้นด้วย เช่น องค์ประกอบเป็นอย่างไร อย่างเป็นทางการ เป็นต้น

เมื่อซักอีกว่า หากมี 2 ลุงจะลงคะแนนเสียงไม่เห็นชอบใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เชื่อว่าถ้ามี 2 ลุง สส. ส่วนใหญ่คงเสนอให้โหวตไม่เห็นชอบ แต่ถ้าไม่มีก็อาจงดออกเสียง ต้องบอกว่าวันนี้ยังไม่ได้ลงรายละเอียด ที่แน่นอนคือจะไม่โหวตเห็นชอบ​

เมื่อถามว่า เมื่อตอนก้าวไกลเป็นแกนนำ พรรคเพื่อไทยยังโหวตให้นายพิธา แต่ตอนนี้ก้าวไกลไม่โหวตให้เพื่อไทย ทำให้เป็นเงื่อนไขของเพื่อไทยที่ต้องรวมพรรค 2 ลุงจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนั้นคนละเงื่อนไข คิดว่าตอนนั้นเรามีความชอบธรรมในการจับมือจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน ตามเจตจำนงของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง คนละสภาพการณ์กัน แต่ตอนนี้กำลังเกิดการจัดตั้งรัฐบาลที่บิดเบือน เจตจำนงประชาชนในการเลือกตั้ง นี่เป็นหลักการใหญ่ ไม่ว่าการเสนอปิดสวิตช์ สว. เพื่อให้เคารพผลการเลือกตั้ง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 19 คนไทยรับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 พ.ค.- เปิดปฏิบัติการ “The Scam เงินแท้ คนเก๊” รวบ 19 คนไทยขายชาติ รับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวม 6.6 ล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งสายที่ 1 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ มีพัสดุมาส่ง จากนั้นได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง (สายที่ 2) เมื่อผู้เสียหายโทรกลับไป อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองคลัง โดยให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายสั่ง อ้างเพื่อเพิ่มเงินบำนาญ โดยได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกจำนวน 720,000 บาท และต่อมาได้มีสายที่ 3 โทรเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าการทำธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้านั้นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอก เป็นเหตุให้ต้องระงับบัญชี และให้ทำตามขั้นตอนจากธนาคารแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้ต้องโอนเงินไปอีกเป็นจำนวน 6 ครั้ง แต่มาทราบภายหลังว่าสุดท้ายเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีทุกบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของคนร้าย รวมความเสียหายทั้งหมด 3,942,767 บาท พฤติการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นกระบวนการ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อมูล […]

นายกฯ เยือนเวียดนามวันแรก เดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ

เวียดนาม 15 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

ยังปิดล้อม! เหตุชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จ่อปรับยุทธวิธี

15 พ.ค.- ยังปิดล้อม! เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ เน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เตรียมปรับยุทธวิธีระงับเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ภายในบ้านพักหลังวัดลครทำ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า จะเข้าไปพูดคุยกับทาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังเน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจะยังไม่มีการยกระดับมาตรการหรือยุทธวิธีใดๆ ยึดการเจรจาเป็นหลักแม้สถานการณ์จะล่วงเลยมานานกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ส่วนกรณีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นจะหารือกับทาง พล.ต.ท.สยาม เรื่องมาตรการเยียวยา ตำรวจเตรียมปรับยุทธวิธีระงับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังให้แม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจาอยู่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและมอบตัว ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่ท่าทีโดยรวมของผู้ก่อเหตุเย็นลง อาการคลุ้มคลั่งก็ลดลงด้วย หากการเจรจาไม่เป็นผลหลังจากนี้อาจจะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป -420 .-สำนักข่าวไทย