วงประชุม ปชป.เลือกหัวหน้าพรรคฯ ล่ม!

กทม. 9 ก.ค.- วงประชุมประชาธิปัตย์เลือกหัวหน้าพรรคฯ ล่ม! – กลุ่ม ส.ส.ชู “อภิสิทธิ์” ไม่ร่วมประชุม คาดแก้เกมสัดส่วนคะแนน 70:30


การประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคฯ และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แทนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องยุติลงเนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ มีเพียง 201 คน จากองค์ประชุมที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนดไว้ขั้นต่ำ 250 คน โดย นายจุรินทร์ ได้ชี้แจงว่า จะต้องมีการนัดประชุมกับเลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรคใหม่อีกครั้ง เพื่อเตรียมการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ต่อไป

ทั้งนี้ การประชุมใหญ่ฯ พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคฯ และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในวันนี้ (9 ก.ค.) เป็นไปด้วยการประชุมลับ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชน ร่วมสังเกตการณ์การประชุมด้วย ตามข้อเสนอของนายธนา ชีรวินิจ อดีต ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากกังวลว่า จะมีการตีความการแสดงความเห็นของสมาชิก จนทำให้สังคมเข้าใจผิดพลาด


อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าของการประชุมนั้น นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอให้ที่ประชุมงดเว้นข้อบังคับการประชุม ข้อที่ 37 ที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในกรณีที่กรรมการบริหารพรรคชุดเก่า พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน เพื่อเลื่อนการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคฯ และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ออกไปก่อน โดยให้เหตุผลว่า หากยังดำเนินการประชุมต่อไป ก็จะทำให้เกิดผลกระทบภายในพรรค ทำให้เกิดผู้แพ้-ผู้ชนะ แต่หากเลื่อนการประชุมออกไปก่อน ให้สมาชิกได้มีการพูดคุยกัน ก็จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ ชนะไปด้วยกัน เพื่อปูทางเป็นชัยชนะคู่แข่งทางการเมืองในอนาคต พร้อมยืนยันว่า การเสนอให้เลื่อนการประชุมครั้งนี้ ไม่ได้คำนึงถึงท่าทีรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ เลือกที่จะเป็นฝ่ายค้านแล้วจะให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กลับมาเป็นผู้นำพรรคอีกครั้ง เพียงแต่เห็นว่า หากมีการพูดคุยกันภายในพรรคให้ตกผลึกมากกว่านี้ ความขัดแย้งต่าง ๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น และทำให้เกิดความร่วมมือกันภายในพรรคให้มากที่สุด แต่สุดท้ายแล้วที่ประชุมไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของนายองอาจ จึงทำให้ต้องดำเนินการประชุมต่อ

จากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาญัตติที่ นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคฯ เสนอต่อที่ประชุมให้งดใช้ข้อบังคับพรรคฯ ในข้อที่ 87 ที่กำหนดน้ำหนักคะแนนในการลงมติเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่ง ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ 25 คน ขณะนี้ จะมีน้ำหนักคะแนนร้อยละ 70 แต่อดีต ส.ส., อดีตรัฐมนตรี, อดีตผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง, และอดีตหัวหน้าพรรคฯ จะมีน้ำหนักคะแนนเพียงร้อยละ 30 เพื่อให้องค์ประชุมมี 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่ากัน ซึ่งผลการลงมติปรากฏว่า สัดส่วนคะแนนมีไม่เพียงพอที่จะปรับสัดส่วนน้ำหนักคะแนน 1 สิทธิ์ 1 เสียง จึงทำให้ผลคะแนนในการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ ยังต้องดำเนินการต่อไปบนสัดส่วนคะแนน 70:30 ก่อนที่จะมีการพักการประชุมเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน และกลับมาประชุมต่ออีกครั้งในช่วงบ่าย

โดย นายสาธิต เปิดเผยภายหลังที่ประชุมมีมติดังกล่าวว่า จะทำให้น้ำหนักคะแนนไปขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ ส.ส.ปัจจุบันของพรรคเพียง 25 คน ดังนั้น จึงอาจทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคฯ ที่จะมีสมาชิกพรรคฯ เสนอชื่อเพื่อกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พ่ายแพ้ได้


สำหรับการประชุมในช่วงบ่ายนั้น ก่อนเข้าสู่การประชุมกรรมการการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำการตรวจสอบองค์ประชุมก่อนเข้าสู่กระบวนการ ปรากฏว่า มีองค์ประชุมเพียง 221 คน จากองค์ประชุมขั้นต่ำ 250 ที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนดไว้ จึงทำให้ต้องยุติกระบวนการเลือกหัวหน้าพรรคฯ แต่นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองเลขาธิการพรรคฯ ได้ร้องขอต่อที่ประชุมให้รอองค์ประชุมก่อนประมาณ 15 นาที เพื่อให้สมาชิกกลับมาร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง หลังมีสมาชิกส่วนหนึ่งไปเก็บกระเป๋าที่โรงแรมใกล้กับสถานที่จัดประชุม แต่เมื่อมีการนับองค์ประชุมอีกครั้งกลับเหลือองค์ประชุม 201 คน ไม่ครบองค์ประชุม ทำให้การประชุมใหญ่ฯ พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคฯ และกรรมการบริหารพรรคฯ ต้องเลื่อนออกไปก่อน

โดยนายจุรินทร์ ได้กล่าวประกาศยุติการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ ตามข้อบังคับพรรค “เมื่อองค์ประชุมไม่ครบ ก็ไม่สามารถประชุมต่อได้ แต่เนื่องจาก กกต.พรรค ไม่มีอำนาจปิดการประชุม จึงเป็นอำนาจของผู้ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ตามข้อบังคับพรรค เมื่อองค์ประชุมไม่ครบก็ต้องเลิกประชุม แต่ยังไม่เลิก ณ นาทีนี้ ผมขอชี้แจงความเข้าใจว่า ผมต้องขอหารือเลขาธิการพรรค เพื่อนัดประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อทำการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป แต่สำหรับวันนี้ก็ขอยุติการประชุม” นายจุรินทร์กล่าว

นอกจากนั้น ยังมีรายงานด้วยว่า สาเหตุที่การประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคฯ ในช่วงบ่ายต้องล่มไป เนื่องจาก สมาชิกพรรคส่วนหนึ่งไม่พอใจ และต้องการแก้เกมที่ ที่ประชุมฯ ยังคงยืนยันที่จะใช้น้ำหนักคะแนน 70:30 ตามข้อบังคับพรรค เนื่องจาก สัดส่วนคะแนน 70 คะแนนนั้น จะขึ้นอยู่กับ ส.ส.ปัจจุบันของพรรค ที่ตอนนี้มี 25 คน ส่วนน้ำหนักคะแนนอีกร้อยละ 30 ขึ้นอยู่กับ อดีต ส.ส., อดีตรัฐมนตรี, อดีตผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่น ๆ และอดีตหัวหน้าพรรคฯ ซึ่งมีจำนวนมากกว่า ประกอบกับ ส.ส.ปัจจุบันประมาณ 17 คน จากทั้งหมด 25 คน มีท่าทีที่จะสนับสนุนนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้น การประชุมในช่วงบ่าย จึงทำให้สมาชิกหลายคน ไม่ได้อยู่ร่วมองค์ประชุมด้วย โดยเฉพาะนายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่ม อดีต ส.ส.ที่ให้การสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคฯ ที่นายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคฯ จะเป็นผู้เสนอต่อที่ประชุมด้วยตนเอง และนายนราพัฒน์ ก็ยืนยันพร้อมที่จะท้าชิงตำแหน่งหากมีการเสนอชื่อ ดังนั้น จึงมีความกังวลว่า ผลคะแนนที่ออกมาจะไม่เป็นธรรม และทำให้นายนราพัฒน์ ได้รับการเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่

ทั้งนี้ ตามข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ระบุว่า หากการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคฯ เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคฯ ต้องล่มไป จะต้องนัดการประชุมใหม่อีกครั้งเมื่อใด โดยให้ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการ จะเป็นผู้นัดประชุมต่อไป โดยนายจุรินทร์ ได้เปิดเผยภายหลังการประชุมล่ม ว่า ตนจะรีบนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคฯ โดยเร็ว ซึ่งคาดว่า จะมีการประชุมในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ เพื่อยกเว้นข้อบังคับพรรค ให้เกิดการประชุมเลือกหัวหน้าพรรคฯ และกรรมการบริหารพรรคฯ ชุดใหม่อีกครั้ง

ด้าน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคฯ ยอมรับว่า ตั้งแต่ตนเองเป็นสมาชิกพรรคมาอย่างยาวนาน ไม่เคยเกิดปรากฏการณ์เช่นนี้มาก่อน และหากที่ประชุมยอมรับข้อเสนอของตน ที่เสนอให้เลื่อนการเลือกหัวหน้าพรรคฯ ออกไป ก็จะไม่เกิดปัญหานี้ เพราะตนเอง ได้พยายามประสานทั้ง 2 กลุ่มให้มีการพูดคุยกันเพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน แต่ไม่ได้รับไม่ได้รับการตอบสนองจากทั้ง 2 ฝ่าย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]

ศาลให้ประกัน “เจ๋ง ดอกจิก-ศรีสุวรรณ” เงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ

กรุงเทพฯ 17 ก.ย. – ศาลให้ประกันตัว “เจ๋ง ดอกจิก-ศรีสุวรรณ” หลักทรัพย์คนละ 6 แสนบาท เงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ขณะเจ้าตัวเตรียมยื่นอุทธรณ์สู้คดีต่อ เชื่อศาลจะให้ความยุติธรรม ด้านอธิบดีกรมการข้าว มองเป็นกรรมของแต่ละคน ไม่ได้รู้สึกอะไร ให้เป็นตามเวรกรรม นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก เปิดเผยภายหลังฟังคำตัดสินว่า ตนเองเคารพคำตัดสินของศาล ซึ่งประเด็นที่จะเป็นแนวทางการต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ คือประเด็นที่ศาลมองว่าตนเองเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้ถูกลงโทษจำคุก 6 ปี แต่ส่วนตัวมองว่าตนเองไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะการแต่งตั้งของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นการแต่งตั้งเฉพาะตัว ซึ่งศาลยังไม่ได้ดูในรายละเอียด เพราะการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น เงินเดือน ซึ่งที่ผ่านมาตนเองไม่ได้ใส่ใจเกี่ยวกับตำแหน่งดังกล่าว แต่ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกกังวลใจกับคำตัดสิน เพราะมองว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ขณะเดียวกันจะมีการต่อสู้ในประเด็นการเชื่อมโยงจำเลยทั้งหมดในชั้นอุทธรณ์ โดยจะชี้แจงว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีความเชื่อมโยงกับจำเลยอีก 4 คน เนื่องจากไม่เคยได้รับผลประโยชน์อะไรจากจำเลยทั้งหมด และเชื่อว่าคำตัดสินในศาลชั้นสูงจะให้ความยุติธรรมกับตัวเอง คำพิพากษาในวันนี้ศาลได้นำโทษคดีคาร์ม็อบ 2 คดี ในพื้นที่เมืองพัทยา และกรุงเทพมหานครเมื่อปี พ.ศ. 2564 […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]