กกต. 16 พ.ค.- ก้าวไกล ร้อง กกต. โวยเลือกตั้งเขต 10 ชลบุรี นับคะแนนช้า ลงคะแนนนบัตรเสียผิด ร้องสั่งเลือกตั้งใหม่
น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย น.ส.นิชนันท์ วังกะฮาด ผู้สมัคร ส.ส.เขต 10 จ.ชลบุรี พรรคก้าวไกล ยื่นคำร้องขอให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. สั่งให้การเลือกตั้งในเขต 10 จ.ชลบุรี เป็นโมฆะ และสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดย น.ส.เบญจา กล่าวว่า เนื่องจากหลังการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.เสร็จสิ้น ได้พบความผิดปกติ ในเขต 10 สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยพบบัตรเลือกตั้งเกินมา จึงขอให้ กกต. เปิดเผยข้อมูลการนับคะแนน 5/18 ทั้ง 151 หน่วย
ด้าน น.ส.นิชนันท์ กล่าวว่าเนื่องจากการนับคะแนนในเขตที่ 10 จ.ชลบุรี พบว่ามีคะแนนเกิน 4,995 คะแนน อีกทั้งเกิดข้อสงสัยว่าการนับคะแนนในเว็บไซต์ ECTREPORT หยุดชะงักชั่วคราว และการรายงานผลเป็นไปด้วยความล่าช้ากว่าพื้นที่อื่นใน จ. ชลบุรี โดยตนเข้าไปสอบถามที่ อ.สัตหีบ ซึ่งเป็นจุดที่รวบรวมคะแนน แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าคะแนนยังไม่มี โดยตนได้กลับบ้านก่อน เนื่องจากเกิดอาการอ่อนล้า จนกระทั่งเมื่อเวลา 07.00น.ได้เข้าไปดูการประกาศผลคะแนนที่หน้าอำเภอ พบว่าคะแนนที่รวมมานั้นเกินกว่า 4,995 คะแนน ซึ่งได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ กกต.พบว่าลงคะแนนบัตรเสียผิด 7,229 ใบ ซึ่งตนมองว่าบัตรที่เกินมานั้นไม่ใช่จำนวนที่น้อยๆ
น.ส.นัชนันท์ กล่าวว่า คำชี้แจงของเจ้าหน้าที่ กกต.ระบุว่าการรวมคะแนนและการเขียนคะแนนบนบอร์ดผิดนั้นฟังไม่ขึ้น จึงเกิดความไม่ไว้วางใจการทำงานของ กกต.ที่สัตหีบ จึงอยากให้สำนักงาน กกต. วินิจฉัยเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และอยากได้คำตอบว่าบัตรเสีย 7,229 ใบเกิดขึ้นได้อย่างไร ส่วนตัวมองว่าไม่อยากให้เกิดการนับคะแนนใหม่ เพราะไม่เชื่อมั่นว่าบัตรที่อยู่ในหีบในขณะนี้ จะเป็นคะแนนตามจำนวนผู้มาใช้สิทธิจริงหรือไม่ จึงอยากเรียกร้องให้ในการเลือกตั้งใหม่ในเขต 10 หากการเลือกตั้งใหม่ตนแพ้ก็ยินดียอมรับผล การที่ตนได้มาร้องในวันนี้เกิดจากความไม่เชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ หากคนจะแพ้ก็ขอแพ้ด้วยความโปร่งใส
เมื่อถามว่าระหว่างการนับคะแนนได้มีการทักท้วงหรือไม่ น.ส.นัชนันท์ กล่าวว่า ตนมีแค่ตัวแทน ซึ่งเป็นชาวบ้านเข้าไปสังเกตการณ์ เพียงแค่ 30 หน่วย จาก 151 หน่วย ส่วนการรวมคะแนนที่หน้าหน่วยนั้น ทีมงานของตนได้สังเกตการณ์ถึงเวลา 02.00 น. อีกทั้งการรวมคะแนนทำในห้องสำนักงานไม่ได้เปิดเผย ซึ่งมองว่าไม่โปร่งใส อย่างไรก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักงาน กกต.ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวแล้ว ระบุว่า เจ้าหน้าที่กรอกข้อมูลผิดพลาดจริง ยืนยันว่าบัตรเสียมีจำนวนแค่ 2,234 ใบเท่านั้น ไม่ใช่จำนวน 7,229 ใบ ตามที่ได้เป็นข่าว.-สำนักข่าวไทย