นักวิชาการ เห็นพ้อง ควรถอดบทเรียนแข่งเสนอนโยบายประชานิยม

นิด้า 1 พ.ค. – นักวิชาการ เห็นพ้อง หลังเลือกตั้งควรถอดบทเรียน กรณีพรรคการเมือง แข่งเสนอนโยบายประชานิยม ป้องกันผลกระทบการคลังประเทศ แต่เชื่อจุดยืนทางการเมือง และประเด็นสังคม มีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนมากกว่า


นายสุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการสำนักนิด้าโพล ล่าสุดที่สำรวจเกี่ยวกับนโยบายแจกเงินหรือ จัดสวัสดิการของพรรคการเมืองในช่วงเลือกตั้งว่า การที่พรรคการเมืองเสนอนโยบายลักษณะประชานิยมคือการแจกสวัสดิการต่างๆให้ประชาชนในการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการเลือกตั้งที่ชัดเจนมากที่สุดว่าทุกพรรคมีการแข่งกันนำเสนอและแจกนโยบายประชานิยม ซึ่งจากผลการสำรวจพบประชาชน รู้ทันว่าที่สุดต้องมาจากเงินงบประมาณหรืออาจก่อให้เกิดปัญหา วินัยการเงินการคลังกับประเทศในอนาคต

ดังนั้นหลังการเลือกตั้งครั้งนี้เห็นว่า ในอนาคตควรมีการถอดบทเรียนและร่างกฏหมายเพื่อกำกับและควบคุมพรรคการเมืองต่างๆ ในการเสนอนโยบายลักษณะประชานิยมให้มากขึ้นทั้งนี้เพื่อป้องกันความเสียหายเนื่องจากมองว่าปัจจุบันกฎหมายยังมีช่องโหว่ เช่น เมื่อนำเสนอนโยบายในช่วงเลือกตั้งบอกว่าจะแจกหรือจะให้แต่ เมื่อเข้าไปเป็นรัฐบาลกลับบอกว่าไม่ได้คุมกระทรวงนั้นหรือไม่ได้เป็นพรรคการเมืองหลักจึงไม่สามารถดำเนินการได้อย่างที่หาเสียงไว้ดังนั้นในอนาคตอาจต้องมีการกำหนดให้ชัดเจนว่าเมื่อเข้าไปร่วมรัฐบาลแล้วใบว่าจะดูแลกระทรวงใดก็จะต้องดำเนินการให้ได้ตามที่มีการประกาศนโยบายหาเสียงไว้ เพื่อให้พรรคการเมืองไตร่ตรอง ในการเสนอนโยบายต่างๆ มากขึ้น


นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รอง รองคณบดีฝ่ายวิชาการสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์หรือนิด้า กล่าวว่าในครั้งนี้แม้ว่าทุกพรรคจะมุ่งนำเสนอนโยบายประชานิยมเพื่อหวังดึงดูดคะแนนเสียงจากประชาชนแต่กลับพบว่าไม่มีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนเนื่องจากแต่ละพรรคล้วนมีนโยบายประชานิยมด้วยกันทั้งสิ้น

จึงพบว่านโยบายอื่นๆ ที่ไม่ใช่นโยบายประชานิยมกลับมีผลมากกว่า เช่น นโยบายการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร หรือการประกาศจุดยืนในทางการเมืองว่าจะร่วมกับกลุ่มใดฝ่ายใดเป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เห็นด้วยในอนาคต ที่ควรต้องมีการพิจารณาว่ากฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันเพียงพอหรือไม่กับการกำกับหรือควบคุมพรรคการเมืองที่จะเสนอนโยบายในลักษณะประชานิยมเพราะมีข้อมูลที่ค่อนข้างชัดเจนว่าตั้งแต่การเลือกตั้งปี 44 นโยบายประชานิยมได้ก่อให้เกิดปัญหาในทางสังคมเช่นคนที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายนั้นนั้น เป็นเฉพาะบางกลุ่มบางส่วนทำให้กลุ่มที่ไม่ได้ประโยชน์จากนโยบายมีความไม่พอใจหรือบาง บางครั้งบางนโยบายก็ก่อให้เกิดปัญหาทางด้านงบประมาณ เป็นต้น .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่