รัฐสภา 29 พ.ย. – “มงคลกิตติ์” ชี้ หลักการแก้รัฐธรรมนูญ กระจายอำนาจของ “ธนาธร” ดี แต่มีรายละเอียด เชิงปฏิบัติอีกมาก แนะสมาชิกรัฐสภา พิจารณารอบคอบ
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. พรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงข่าวกรณีการขอเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ว่าตามร่างเสนอให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 หมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น ตั้งแต่ มาตรา 249 ถึง มาตรา 254 และเพิ่มบทบัญญัติ หมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น มาตรา 249 ถึง มาตรา 254/6 แทน โดยแก้ไขมาตรา 252 เพื่อดำเนินการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นปัจจุบัน รัฐบาลได้โอนงบประมาณให้ราชการส่วนท้องถิ่นประมาณร้อยละ 30 จากงบประมาณรายจ่ายต่อปีประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท รัฐบาลสามารถออกพันธบัตรกู้เงินมาเพื่อบริหารประเทศ ดังนั้น การจะโอนงบประมาณถึงร้อยละ 50 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปีถึงปีละ 1.6 ล้านล้านบาท คือ เพิ่มจากเดิมอีก 6 แสนล้านบาท/ปี เพื่อเป็นเงินเดือน อัตราข้าราชการ พนักงานราชการส่วนภูมิภาค ไปสังกัด ราชการส่วนท้องถิ่น สามารถทำได้ อย่างไรก็ตามประเด็นที่ต้องวิเคราะห์ คือ การทุจริตของราชการส่วนท้องถิ่น ที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีจำนวนมาก
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า สำหรับประเด็นการยกเลิกราชการส่วนภูมิภาคแล้วให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นการปกครองตนเองอิสระ มีงบประมาณกว่าร้อยละ 50 ของทั้งประเทศเป็นของตนเอง ราชการส่วนกลางไม่มีอำนาจในการยับยั้งโครงการ จะมีเฉพาะอำนาจศาลปกครอง ศาลยุติธรรมที่จะตัดสินถึงที่สุดจึงจะเปลี่ยนแปลงอำนาจได้ ก็ใช้เวลานานหลายปี สำหรับการให้ประชาชนในท้องถิ่นถอดถอน จะเป็นการสร้างแหล่งอิทธิพลของแต่ละท้องถิ่นแบบผูกขาดหรือไม่ และจะเป็นการสร้างระบบสาธารณรัฐทั้งหมด 77 รัฐใหญ่ในราชอาณาจักรไทย หรือไม่ แต่ละรัฐสามารถกู้เงิน ออกพันธบัตรเอง เป็นอิสระ โดยรัฐส่วนกลางไม่สามารถยับยั้งได้เลย จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียมากพอสมควร ดังนั้น จากข้อสังเกต ทั้งหมด เรื่องดังกล่าวนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ จึงขอเรียกร้องให้ ส.ส. และ ส.ว. พิจารณาการแก้รัฐธรรมนูญ ฉบับของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อย่างรอบคอบ และสิ่งสำคัญคืออาจจะมีผลกระทบกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 1 ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้.-สำนักข่าวไทย