ทำเนียบรัฐบาล 2 พ.ย.-นายกฯ หารือรมว.กต. ออสเตรเลีย กระชับความร่วมมือด้านการปราบปรามการค้ามนุษย์ พัฒนาความเป็หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ยั่งยืน หนุนนโยบายโมเดลเศรษฐกิจ BCG ของไทย พร้อมส่งเสริมการพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
น.ส.เพนนี หว่อง (Senator the Honourable Penny Wong) รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศเครือรัฐออสเตรเลีย เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเยือนไทยครั้งนี้ของรัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียจะช่วยเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทย-ออสเตรเลียให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น สองประเทศมีความร่วมมือที่แน่นแฟ้นทุกมิติ ทั้งในกรอบทวิภาคี อาเซียน อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และกรอบพหุภาคี ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย กล่าวแสดงความรู้สึกยินดี ซึ่งการมาเยือนครั้งนี้เป็นครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้หารือกับหน่วยงานของไทยเพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างกัน ไทยและออสเตรเลียเป็นมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด และปีนี้จะครบรอบ 70 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ออสเตรเลียพร้อมร่วมมือกับไทยเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันทุกมิติ เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของทั้งสองประเทศ รวมถึงเพื่อสันติสุข และความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค
ทั้งสองฝ่ายต่างยินดียกระดับความสัมพันธ์สู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์เมื่อ 2 ปีก่อน โดยรัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียชื่นชมวิสัยทัศน์ และสนับสนุนนโยบายโมเดลเศรษฐกิจ BCG ของรัฐบาล และยินดีขับเคลื่อนความร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิด ซึ่งนายกรัฐมนตรีหวังว่าจะได้ร่วมมือให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในสาขาการเกษตร เศรษฐกิจดิจิทัล การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ และสาธารณสุข รวมทั้งยินดีที่สถานการณ์ของโรคโควิด-19 คลี่คลาย เมื่อทั้งสองประเทศเปิดประเทศเต็มรูปแบบจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจและเพิ่มพูนการท่องเที่ยวระหว่างกัน
ส่วนความร่วมมือการปราบปรามการค้ามนุษย์ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความสำคัญ และเป็นประเด็นที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญและเป็นวาระแห่งชาติ จึงมุ่งมั่นที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับออสเตรเลียเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ ซึ่งออสเตรเลียยินดีร่วมมือกับไทย และจะร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วย การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ระหว่างไทยกับออสเตรเลียในวันนี้ ซึ่งการจัดตั้งศูนย์ฯ จะช่วยยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคง และส่งเสริมความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายผ่านการเสริมสร้างศักยภาพของเจ้าหน้าที่และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง
ไทยกับออสเตรเลียต่างยินดีที่แนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น และทั้งสองฝ่ายมีการลงทุนขนาดใหญ่ระหว่างกัน และยังมีศักยภาพในการเพิ่มพูนมูลค่าทางการค้าระหว่างกันได้มากขึ้น พร้อมเชิญชวนให้นักลงทุนออสเตรเลียพิจารณาขยายการลงทุนเพิ่มเติม และเป็นหุ้นส่วนด้านการวิจัยและการพัฒนาในพื้นที่ EEC
นายกรัฐมนตรี ยินดีที่อาเซียนและออสเตรเลียได้ยกระดับสถานะความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์แบบรอบด้านเมื่อปีที่ผ่านมา พร้อมกล่าวชื่นชมข้อริเริ่ม “ออสเตรเลียเพื่ออนาคตของอาเซียน” (Australia for ASEAN Future) ซึ่งครอบคลุมการมอบทุนการศึกษาให้เยาวชนในภูมิภาค รวมถึงเยาวชนไทยด้วย นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังชื่นชมบทบาทนำของไทยในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง พร้อมร่วมมือกับไทยส่งเสริมการพัฒนาในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยพร้อมต้อนรับนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียที่จะเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคด้วย ซึ่งจะเป็นโอกาสหารือการขับเคลื่อนเอเปคร่วมกันท่ามกลางความท้าทายของสถานการณ์โลกในปัจจุบัน ทั้งนี้ ไทยมุ่งสร้างภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกในบริบทโลกหลังโควิด-19 ที่เปิดกว้าง เชื่อมโยง ยั่งยืน สมดุล ทุกภาคส่วนมีส่วนรวม โดยมีแนวคิด BCG Economy เป็นแนวคิดพื้นฐาน ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียกล่าวสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพของไทย พร้อมหวังว่าไทยจะประสบความสำเร็จในการจัดประชุม.-สำนักข่าวไทย