รัฐสภา 18 ส.ค.- สภาฯ โหวตผ่านมาตรา 8 งบฯ กระทรวงกลาโหม ด้าน “ฝ่ายค้าน” ข้องใจ มติ กมธ.งบฯ อนุมัติงบซื้อบินรบ F35A ขัดมติ ครม. ขณะ “วราเทพ” ชี้ สภาฯ มีอำนาจเหนือ มติ ครม. อ้างหลักการแบ่งแยกอำนาจ
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท วาระสองต่อเนื่องเป็นวันที่สอง โดยมีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม
นายศุภชัย แจ้งกับที่ประชุมว่า การพิจารณาเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ได้พิจารณามาตรา 8 งบประมาณของกระทรวงกลาโหมแล้วเสร็จและกรรมาธิการวิสามัญชี้แจงแล้วเสร็จ และเป็นขั้นตอนของการลงมติ แต่ถูกทักท้วงและต้องการให้กมธ.ชี้แจง
โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าการจัดสรรงบประมาณให้กับกองทัพอากาศ ในโครงการจัดซื้อเครื่องบินรบ F35A ที่พบว่าได้รับจัดสรรงบประมาณเป็นเงินงวดที่ต่ำกว่ามติคณะรัฐมนตรีกำหนดว่า การจัดสรรงบประมาณผูกพันต้องมียอดไม่ต่ำกว่า 10% ของจำนวนวงเงินทั้งหมด เพราะมียอดเพียง 5%
ทั้งนี้ นายวราเทพ รัตนากร รองประธานกมธฯ ชี้แจงว่าโครงการจัดซื้อเครื่องบิน F35A ที่เสนอขอจัดสรรประมาณ 700 ล้านบาท ในชั้นการพิจารณาของอนุ กมธ.ฯ ที่ขอให้ตัดออกนั้น ไม่ใช่ข้อยุติ เพราะต้องให้กมธ.พิจารณาเป็นมติ ซึ่งมติของกมธ. ได้คืนงบในโครงการและจัดสรรให้ประมาณ 300 ล้านบาท ทั้งนี้ตามที่ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวข้องการอนุมัติงบประมาณที่ 5% ซึ่งต่ำกว่ามติ ครม. นั้น ไม่ใช่ข้อบังคับผูกพันกับการทำงบประมาณของกมธ. ตามหลักการแบ่งแยกอำนาจ หน่วยงานราชการเป็นผู้จัดตั้งงบ ส่วนการอนุมัตินั้นเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ
“ในที่ประชุม กมธ.ชุดใหญ่ ไม่ได้สอบถามถึงมติ ครม.ที่กำหนดไว้ เพราะเข้าใจว่า เป็นอำนาจของการพิจารณาต้องยึดและไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 144 อย่างไรก็ตาม ทราบว่ามี กมธ.บางคนสอบถามกับสำนักงบประมาณนอกการประชุม ซึ่งการตั้งงบประมาณที่น้อยกว่ามติ ครม.กำหนดนั้น สามารถนำไปขอมติครม.เพื่องดเว้นได้ ดังนั้น กมธ.ยืนยันถึงการทำหน้าที่ที่ถูกต้อง” นายวราเทพ กล่าว
จากนั้น ที่ประชุมได้ลงมติในประเด็นดังกล่าว โดยเสียงข้างมากของที่ประชุมเห็นชอบกับการแก้ไขของ กมธ.เสียงข้างมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการอภิปรายมาตรา 8 งบของกระทรวงกลาโหม ภาพรวมฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยกับการจัดสรรงบประมาณ เพื่อให้กองทัพจัดซื้ออาวุธยุทธโปกรณ์ เช่น เครื่องบินรบ เรือดำน้ำ เนื่องจากไม่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ นพ.เรวัต วิศรุตเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย อภิปรายปรับลดงบประมาณกระทรวงกลาโหม เพราะตลอด 8 ปีของการบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ตั้งงบประมาณกระทรวงกลาโหมเพิ่มมากขึ้น แต่พบการใช้งบแบบไม่คุ้มค่า น่าละอาย เช่น ซื้อเรือเหาะ ที่เหาะไม่ได้ เรือดำน้ำแต่ดำน้ำไม่ได้ เนื่องจากหาเครื่องยนต์ติดตั้งไม่ได้ ทั้งที่เป็นเรื่องระดับชาติ แต่กลับทำแบบเล่นขายของ.-สำนักข่าวไทย