หอการค้าไทยหนุนเกษตร-อาหารไทยเดินหน้าสร้างความร่วมมือ

กรุงเทพฯ 6 ก.ย.-หอการค้าไทย หนุนเกษตรและอาหารไทยเดินหน้าสร้างความร่วมมือ Connect the dots ผลักดันสู่เกษตรอาหารมูลค่าสูง


นายสนั่น  อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมกับคณะกรรมการสายงานเกษตรและอาหาร เพื่อติดตามความคืบหน้าและฟังเสียงสะท้อนแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า คณะกรรมการสายงานเกษตรและอาหาร ซึ่งประกอบด้วย คณะกรรมการเพิ่มมูลค่าพืชเกษตร คณะกรรมการธุรกิจอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต คณะกรรมการธุรกิจปศุสัตว์และแปรรูป และคณะกรรมการธุรกิจประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง กำลังดำเนินการอย่างเต็มที่ตามแผนงานที่วางไว้ โดยนำหลักการ BCG Economy และนำองค์ความรู้เทคโนโลยีภาคเกษตรจากต่างประเทศ เพื่อมาสร้างโอกาสให้เกษตรและอาหารในอนาคต พร้อมเชื่อมโยงความร่วมมือไปยังภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อสร้างเกษตรกรให้เป็น Smart Farmer และผลักดันให้ภาคเกษตรและอาหารของประเทศไทยสู่เกษตรอาหารมูลค่าสูง โดยเฉพาะในด้านเกษตรและอาหารซึ่งเป็นจุดแข็งของประเทศ ให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ และถือเป็นการสร้างรากฐานที่เข้มแข็งให้กับประเทศไทยในอนาคต

นายชูศักดิ์  ชื่นประโยชน์ ประธานคณะกรรมการเพิ่มมูลค่าพืชเกษตร กล่าวว่าภาคเกษตรเป็นภาคเศรษฐกิจสำคัญของไทย โดยมีประชากรที่อยู่ในภาคเกษตรจำนวนมากถึง 27 ล้านคน และมีพื้นที่การเกษตร 149 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ปลูกข้าวถึง 71 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 47.6 ของพื้นที่การเกษตรทั้งหมด รองลงมาคือพื้นที่ปลูก ยางพารา อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน และพืชอื่น ๆ ดังนั้น แนวทางหนึ่งที่สำคัญและเร่งด่วนในการเพิ่มผลิตภาพและมูลค่าต่อหน่วยพื้นที่ทางการเกษตร คือ การปรับเปลี่ยนไปสู่การปลูกพืชที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง โดยคณะกรรมการฯ ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรไทยปรับเปลี่ยนแนวคิดการทำเกษตรแบบดั้งเดิม ไปสู่การเกษตรที่มีมูลค่าสูง โดยมุ่งเน้นให้มีการปรับปรุงวิธีการปลูก การแปรรูป การตลาด และมาตรฐาน ตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน ผ่านรูปแบบ Model Success Case ภายใต้แนวคิด “เกษตรไทย เกษตรเท่ สู่การสร้างเกษตรมูลค่าสูง” และยังได้เข้าไปร่วมทำงานอย่างจริงจังกับหน่วยงานภาครัฐ และบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG Model สาขาเกษตร คณะกรรมการยกร่างแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ด้วยกัน


นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา ประธานคณะกรรมการธุรกิจอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต กล่าวว่า ประเทศไทยในช่วงโควิด-19 นอกจากต้องเพิ่มความสามารถในการแข่งขันผลิตสินค้าที่ทำตลาดได้ดีอยู่แล้ว จำเป็นต้องมองหาสินค้าใหม่ ๆ เพื่อยกระดับเศรษฐกิจที่กำลังถดถอย ดังนั้น อาหารแห่งอนาคต (Future Food) และพืชแห่งอนาคต (Future Crop) คือคำตอบที่ไขประตูแห่งอนาคตสำหรับประเทศไทย สำหรับอาหารแห่งอนาคตที่กำลังเป็นกระแสการบริโภคขณะนี้ คืออาหารที่ใช้โปรตีนจากพืช ผลิตเป็นอาหารเชิงสุขภาพ หากพิจารณาประมาณการมูลค่าทางเศรษฐกิจของอาหารกลุ่ม Future Food ระหว่างปี 2565–2569 คาดว่า จะมีมูลค่ากว่า 111,100 ล้านบาท ประกอบด้วย 1) Future Food consumer Packaged Good (มูลค่ารวมกว่า 61,100 ล้านบาท) มีสินค้าที่โดดเด่นคือ กลุ่มสินค้า Whole Food, อาหาร Function, อาหารโปรตีนจากพืช, ผงโปรตีนจากแมลง และ 2) Premium Pet Food (มูลค่ารวมกว่า 50,000 ล้านบาท) ได้แก่ อาหารสัตว์เสริมโภชนาการ

ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการมีขีดความสามารถในการแข่งขัน คณะกรรมการธุรกิจอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต ได้เตรียมโครงการเพื่อสนับสนุน อบรม ยกระดับสมาชิกทั่วประเทศ ได้แก่ 1.โครงการ Online Clinic All About Food: ปั้นนักธุรกิจอาหารสู่โอกาสแห่งความสำเร็จ เป็นเวทีให้คำปรึกษาระหว่างผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงอุตสาหกรรมอาหารของไทย และผู้ประกอบการธุรกิจอาหารทุกขนาดที่สนใจ

2.โครงการ Exclusive Talk: สร้างแรงบันดาลใจผ่าน VTR การเล่าเรื่องจากแนวคิดของผู้บริหารและผู้ประกอบการที่มีต่ออุตสาหกรรมอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต 


3.โครงการ Future Food Forum: เวทีสื่อสาร แลกเปลี่ยน และสร้างแรงบันดาลใจจากผู้ประกอบการและกูรูชั้นนำด้านอาหารแห่งอนาคตของไทยและต่างประเทศ

4.โครงการ PFC Food News: นำเสนอข่าวสารวงการอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต

นานสมบัติ  ธีระตระกูลชัย ประธานคณะกรรมการธุรกิจปศุสัตว์และแปรรูป กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ได้มุ่งมั่นส่งเสริมเกษตรกรกลุ่มปศุสัตว์ให้มีการเลี้ยงในระบบมาตรฐาน และต่อยอดสู่การแปรรูปผลิตภัณฑ์ทั้ง สุกร ไก่เนื้อ ไก่ไข่ โคนม และที่สำคัญคือโคเนื้อซึ่งเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญและมีโอกาสเติบโตได้มากในอนาคต ระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 5 ปี ริเริ่มโครงการส่งเสริมเกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อ จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดศรีสะเกษ ผ่านโครงการเพื่อส่งเสริมเกษตรผู้เลี้ยงโคเนื้อแบบประณีต ซึ่งสามารถช่วยให้เกษตรกรยกระดับรายได้ของตนเอง และมีเกษตรตัวอย่างที่สามารถทำรายได้ 1 ไร่ 1 ล้านแล้ว และคณะกรรมการฯ ตั้งใจจะขยายผลโครงการไปยังหอการค้าจังหวัดและเกษตรกรในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 และ 2 โดยเน้นให้มีการปรับปรุงวิธีการผลิต การแปรรูป การตลาด และมีระบบมาตรฐานการผลิตที่ดี ตลอดทั้ง Value Chain

คณะกรรมการฯ ยังให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาโรคระบาด “ลัมปี สกิน” ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ในไทยโดยเริ่มแพร่ระบาดเมื่อเดือนมีนาคม 2564 หอการค้าไทยได้มีส่วนร่วมแก้ปัญหาโดยทำหนังสือถึงอธิบดีกรมปศุสัตว์เพื่อเร่งรัดการจัดหาและกระจายวัคซีนไปยังพื้นที่ระบาดอย่างทันท่วงที รวมถึงเป็นเวทีกลางจัดงานเสวนา “ถอดบทเรียนความคิด พิชิตลัมปี สกิน” เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นร่วมกันระหว่างกรมปศุสัตว์ ผู้ประกอบการ และเกษตรกรโคเนื้อจากโครงการที่หอการค้าไทยส่งเสริม พร้อมทั้งส่งเสริมเกษตรกรสู่ยุค 4.0 อาทิ ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ระบบบันทึกผลการเลี้ยงโคเนื้อบนแอพพลิเคชั่นเซียนบีฟ ที่วิจัยและพัฒนาจากคณาจารย์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ปัจจุบันมีผู้ใช้งานแอพดังกล่าว กว่า 179 ฟาร์ม และแอพพลิเคชั่นนิลอุบล ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้งานในจังหวัดอุบลราชธานีแล้วกว่า 148 ฟาร์ม เป็นต้น

นายชนินทร์  ชลิศราพงศ์ ประธานคณะกรรมการธุรกิจประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง กล่าวว่า ธุรกิจประมงของไทยเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพและมีความสามารถในการแข่งขันระดับโลก มีมูลค่าการส่งออกประมาณ 3 แสนล้านบาทต่อปี ถึงแม้สถานการณ์โควิด-19 ที่มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงทั้งในประเทศและต่างประเทศ อุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้รับผลกระทบจนต้องหยุดชะงักและปิดตัวลง แต่จะเห็นได้ว่าในภาคธุรกิจประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่องยังคงสามารถผลิต พร้อมส่งออกสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่อไปได้ เนื่องด้วยประสบการณ์ความรู้ ความสามารถ และเทคโนโลยีด้านการผลิตและแปรรูปอาหารที่ทันสมัย รวมทั้งการสร้างความมั่นใจในด้านกระบวนการผลิตอาหารที่มีประสิทธิภาพปราศจากเชื้อทุกขั้นตอน

คณะกรรมการฯ มุ่งเน้นขับเคลื่อนการทำงานให้สอดรับกับนโยบาย Connect the dots จึงได้ประสานความร่วมมือกับกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสมาคมการค้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่องอย่างจริงจัง รวมถึงพยายามขับเคลื่อนผ่านทุกช่องทาง ในการดำเนินกิจกรรมที่สำคัญ อาทิ การจัดตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) เพื่อทำการประมงอย่างยั่งยืนและรักษาสิ่งแวดล้อม ขยายการจัดทำมาตรฐาน COVID-19 Prevention Best Practice การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในกระบวนการผลิตอาหารส่งออก ไปยังสมาชิก ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทที่ได้มาตรฐานฯ จำนวน 157 ราย นอกจากนั้น ยังได้จัดทำข้อเสนอแก้ไขปัญหาการปรับขึ้นราคาแผ่นเหล็กที่ใช้ผลิตกระป๋องและฝา การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และค่าระวางเรือเสนอต่อนายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์มาแล้ว

นอกจากนี้  คณะกรรมการฯ ยังมีการสนับสนุนช่วยเหลือแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของ Covid-19 โดยมีการผลักดันร่วมกับกระทรวงแรงงานในการจัดทำโครงการ factory sandbox จ.สมุทรสาครให้เป็นตัวอย่างในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 การปฏิบัติตามคำสั่งจังหวัดสมุทรสาครในการจัดตั้งเตียง กลุ่มผู้ป่วยสีเขียว ในสถานประกอบการที่มีแรงงาน 50 คนขึ้นไป ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ  10 และร่วมมือกับสมาคมการค้า จัดหาเครื่องวัดอุณหภูมิและเครื่องวัดออกซิเจน มอบให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา รวมทั้งการบริจาคเงินช่วยเหลือซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ นอกจากนี้ ยังสนับสนุนงบประมาณจัดสร้างเตียงกลุ่มผู้ป่วยสีเหลืองในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและกลุ่มผู้ป่วยสีแดงในจังหวัดสงขลา อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย