กรุงเทพฯ 24 มิ.ย. – หอการค้าไทย เสนอรัฐเร่งเจรจาการค้ากับสหรัฐ ชี้สัญญาณยอดคำสั่งซื้อชะลอตัวต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค. หวั่นกระทบหนักส่งออกครึ่งปีหลัง พร้อมร่วมมือพันธมิตรกระจายสินค้าผัก-ผลไม้ หลังกัมพูชาประกาศห้ามนำเข้าจากไทย
ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า ทางหอการค้าไทยมีความเข้าใจและเห็นถึงความตั้งใจของหน่วยงานภาครัฐที่กำลังเร่งทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางกรอบเวลาที่กระชั้นชิด โดยเฉพาะจากนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หัวหน้าทีมเจรจาฯ, นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ พร้อมทีมงาน ที่ร่วมบูรณาการกับภาคเอกชนอย่างแข็งขัน แต่ด้วยข้อจำกัดของเวลาและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในช่วงฤดูกาลรับคำสั่งซื้อปลายปี ทางหอการค้าฯ จึงขอให้ทุกฝ่ายเร่งสร้างความชัดเจนในแนวทางการดำเนินงานโดยเร็ว เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถเตรียมตัวและปรับแผนได้ทันท่วงที เพราะขณะนี้มีสัญญาณยอดคำสั่งซื้อชะลอตัวอย่างมีนัยยะสำคัญตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม และต้นเดือนมิถุนายน ซึ่งในเดือนกรกฎาคมและต่อๆ ไป หากไม่มีความชัดเจนก็จะกระทบยอดส่งออกครึ่งปีหลังมาก
ทั้งนี้ หอการค้าฯ ขอชื่นชมการทำงานทีมเจรจาของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย พร้อมยืนยันว่าจะร่วมเป็นกำลังสนับสนุนในการผลักดันให้การเจรจาบรรลุเป้าหมาย และเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวมหอการค้าฯ จึงขอเสนอทีมเจรจาทำงานอย่างต่อเนื่องและแข็งขัน เพื่อประสบความสำเร็จในสัญญาการค้าที่เป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายระหว่างไทยและอเมริกา
นอกจากนี้ หอการค้าไทยยังติดตามสถานการณ์ด้านการค้าการลงทุนกับประเทศกัมพูชาอย่างใกล้ชิด แม้จะเป็นประเด็นที่มีมิติทางความมั่นคงและอธิปไตย ซึ่งอยู่เหนือประเด็นทางเศรษฐกิจ แต่ขอยืนยันจุดยืนในการสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลและกองทัพไทยในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ สำหรับกรณีที่ทางกัมพูชาออกมาตรการห้ามนำเข้าสินค้าบางประเภทจากประเทศไทย หอการค้าฯ เชื่อว่ายังมีแนวทางในการบริหารจัดการสินค้าเหล่านี้ให้สามารถกระจายไปยังตลาดอื่นได้ และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยร่วมกันบริโภคสินค้าไทย สนับสนุนผู้ประกอบการภายในประเทศ
ทั้งนี้ ศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร หรือ ศูนย์ AFC (Agriculture and Food Coordination and Public Relations Center)ของหอการค้าไทยได้ร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำในการกระจายสินค้าที่ได้รับผลกระทบ อาทิ ผักและผลไม้ รวมถึงได้มีการหารือกับหอการค้าจังหวัดต่าง ๆ และหน่วยงานราชการท้องถิ่น เพื่อร่วมกันผลักดันการบริโภคสินค้าอุปโภคและบริโภคภายในประเทศทดแทนการส่งออกไปยังกัมพูชาติ.-516-สำนักข่าวไทย