กรุงเทพฯ 22 ก.ค.- รอง ผบช.ก. เร่งตรวจสอบพิรุธบัญชีเงินวัดนครสวรรค์ และการก่อสร้างพุทธอุทยาน หลังเหลือเงินในบัญชีหลักล้านบาท เร่งรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีออกหมายเรียกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนคดีอดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ หรือ “ทิดสฤษดิ์” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงอยู่ในพื้นที่เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เนื่องจากพบข้อผิดปกติหลายเรื่อง รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการลาออกของรักษาการผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) วิทยาเขตนครสวรรค์ และความเกี่ยวข้องของบุคคลอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องมีการสอบปากคำและเก็บรวบรวมหลักฐานอย่างละเอียด
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า การดำเนินคดีนี้เป็นการบังคับใช้กฎหมายกับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต โดยตำรวจมีหน้าที่ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ จึงจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อปกป้องความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับสถาบันพระพุทธศาสนา ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีความกังวลเรื่องการโยกย้าย เพราะได้ตรวจสอบพยานหลักฐานมาพอสมควรแล้ว
สำหรับประเด็นที่รักษาการผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) วิทยาเขตนครสวรรค์ ลาออกจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่นั้น ยังไม่ต้องการยืนยันข้อมูล แต่ยอมรับว่าเรื่องนี้มีผู้เกี่ยวข้องหลายคน และใครก็ตามที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนโครงการก่อสร้างพุทธอุทยานที่ใช้เวลากว่า 15-20 ปี แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ทั้งที่มีเงินบริจาคจำนวนมหาศาลไหลเข้าสู่โครงการนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ชี้ว่าเป็นความท้าทายที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้ง ป.ป.ท., ปปป. และ ปปง. จะต้องเดินหน้าตรวจสอบอย่างจริงจัง และจะบังคับใช้กฎหมายกับทุกคนที่เข้ามาเกี่ยวข้อง นอกจากนี้มีข้อมูลว่าอดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ได้ยืมเงินจากพระสงฆ์ในวัดที่กรุงเทพฯ เป็นจำนวนมาก ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนการตรวจสอบบัญชีของวัดยังไม่ได้รับรายงานในขณะนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่หน้างานดำเนินการไปก่อน และการดำเนินการทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกผู้รับเหมาที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างพุทธอุทยานมาสอบปากคำทั้งหมด โดยขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเรื่องนี้ก่อน เนื่องจากมีการทำคดีหลายคดีพร้อมกัน แต่อย่างไรจะทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง
สิ่งที่น่าสงสัยและต้องตรวจสอบอย่างละเอียดคือ เหตุใดการที่พระสงฆ์มีสีกาเข้ามาเกี่ยวข้องเป็น 10 ปี จึงเพิ่งมาปรากฏเรื่องราว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีเรื่องน่าสงสัยอื่นๆ ที่ต้องดำเนินการ ได้แก่ มจร., การสร้างพุทธอุทยานที่ยังไม่แล้วเสร็จ ทั้งที่เงินบริจาคจำนวนมาก และเงินในบัญชีเหลือน้อยมาก บ่งบอกถึงความผิดปกติ, เงินบริจาค และความศรัทธาของประชาชนที่หลั่งไหลเข้ามา, การแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดห้วยด้วนที่ยังไม่ได้รับการแต่งตั้ง ทั้งที่มีประชาชนร้องขอ, เงินบริจาคจากวัดห้วยด้วนที่มอบให้อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบจำนวนเงินบริจาคทั้งหมด
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูลต่างๆ เมื่อทุกอย่างพร้อม ก็จะมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการออกหมายเรียกหรือหมายจับ
มีรายงานว่า วัดนครสวรรค์คาดว่าได้รับเงินบริจาคหลายร้อยล้านบาท สำหรับโครงการก่อสร้างพุทธอุทยาน นอกจากนี้ อดีตนักธุรกิจ “เสี่ย อ.” ที่เสียชีวิตจากการอัตวิบาตกรรม เคยบริจาคเงินสูงถึง 50 ล้านบาท ให้แก่วัดแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้ขัดแย้งกับยอดเงินในบัญชีวัดที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบในปัจจุบันว่าเหลือเพียงหลักล้านบาท ซึ่งเป็นจุดที่ตำรวจกำลังให้ความสนใจและเร่งตรวจสอบอย่างละเอียด โดยจะเน้นไปที่การสืบหาเส้นทางการโยกย้ายถ่ายเทเงินดังกล่าว ด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมดที่สามารถตรวจสอบได้. -419- สำนักข่าวไทย