fbpx

โพลล์ชี้92.3% ของกลุ่มตัวอย่างอยากให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันถูกกฎหมาย

กรุงเทพฯ  16 มิ.ย.-โพลล์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชี้ 92.3% ของกลุ่มตัวอย่างอยากให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันถูกกฎหมาย เนื่องจากช่วยอำนวยความสะดวก มีความโปร่งใสด้านราคา ลดปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสาร


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่กรมการขนส่งได้ออกร่างกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนแบบบริการทางเลือกและอยู่ระหว่างการพิจารณาผ่านข้อกฎหมายเพื่อให้เกิดทางเลือกในการให้บริการที่สอดคล้องวิถีชีวิตของประชาชนในปัจจุบันมากขึ้นและเพิ่มแนวทางการตรวจสอบ ควบคุม และติดตามความปลอดภัยของโดยสารให้กับภาครัฐ   ศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาผู้บริหารทางธุรกิจ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงทำการสำรวจความคิดเห็นของคนไทยที่มีต่อนโยบายการส่งเสริมและผลักดันให้การนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารผ่านแอปพลิเคชันได้อย่างถูกกฎหมาย

ทั้งนี้ การสำรวจความคิดเห็นในกลุ่มตัวอย่างที่เป็นประชาชนทั่วไป คนขับรถยนต์ส่วนบุคคลที่ให้บริการเรียกรถผ่านแอป และคนขับแท็กซี่ จำนวน 3,914 คน พบว่า  92.3% ของกลุ่มตัวอย่างอยากให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันถูกกฎหมาย เนื่องจากช่วยอำนวยความสะดวก มีความโปร่งใสด้านราคา ลดปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสาร สามารถช่วยเพิ่มรายได้เสริมให้คนไทยได้ และยังช่วยยกระดับมาตรฐานการเดินทางเพราะมีเทคโนโลยีติดตามการเดินทาง


83% ของประชาชนทั่วไปที่ตอบแบบสำรวจต้องการให้บริการเรียกรถผ่านแอปถูกกฎหมายภายในปี 64 สอดคล้องกับความคิดเห็นของกลุ่มคนขับรถยนต์ที่ให้บริการเรียกรถผ่านเเอป ขณะที่คนขับจำนวน 30% ไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะสามารถผลักดันกฎหมายนี้ได้สำเร็จ

64.3% ของกลุ่มตัวอย่างไม่เห็นด้วยกับการจำกัดจำนวนรถยนต์หรือคนขับ เนื่องจากมีความกังวลว่าการจำกัดจำนวนรถยนต์หรือผู้ให้บริการจะเป็นการปิดกั้นช่องทางการหารายได้เสริม และอาจนำไปสู่ปัญหาเรื่องการซื้อขายใบอนุญาตหรือระบบมาเฟีย ขณะที่ 11.2% ของกลุ่มที่อยากให้มีโควต้าต้องการให้สวงนสิทธิ์สำหรับคนขับแท็กซี่เดิมเท่านั้น

สำหรับเงื่อนไขเพิ่มเติมในข้อกฎหมายกลุ่มผู้ตอบแบบสำรวจที่เป็นประชาชนทั่วเห็นด้วยกับการแสดงราคาค่าโดยสารให้ทราบล่วงหน้า ให้มีการติดป้ายหรือสัญลักษณ์ที่ตัวรถเพื่อแสดงว่าเป็นรถให้บริการทางเลือก (ประชาชนทั่วไปเห็นด้วย 80% แต่ผู้ให้บริการผ่านแอป 65% ไม่เห็นด้วย) กำหนดเกณฑ์อายุรถยนต์ให้บริการแบบเดียวกับแท็กซี่ และจำกัดการจดทะเบียนรถยนต์ 1 คันต่อคนเท่านั้น


โดยผลสำรวจจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อทำการสำรวจความคิดเห็นเพิ่มเติมเฉพาะในกลุ่มคนขับรถแท็กซี่จำนวน 2,436 คน เกี่ยวกับบริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันถูกกฎหมายและความคาดหวังต่อภาครัฐในการช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน พบว่า

56.3% ของคนขับแท็กซี่ต้องการให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันถูกกฎหมาย โดย 43.7% ที่ไม่เห็นด้วยมีความกังวลเรื่องต้นทุนการประกอบอาชีพที่สูงกว่าคนขับรถยนต์ส่วนตัวและข้อกำหนดในการให้บริการที่มีความเข้มงวดมากกว่า

 39.3% ต้องการให้ภาครัฐช่วยลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น เช่น การติดตั้งอุปกรณ์ ค่าบริการรายเดือนในระบบของรัฐ และควบคุมราคาเชื้อเพลิง เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

33.5% อยากให้รัฐปรับราคามิเตอร์ให้สูงขึ้น ให้สอดคล้องกับต้นทุนและสภาพเศรษฐกิจ

20.3% อยากให้ปรับลดหรือผ่อนผันข้อกำหนดต่างๆ ของรถแท็กซี่ เช่น การขยายอายุรถ การอนุญาตให้ใช้รถต่ำกว่า 1600 ซีซี และมีเพียง 4% เท่านั้นที่อยากให้มีการกำหนดโควต้าสำหรับผู้ให้บริการเรียกรถผ่านแอป

นายสุทธิกร กิ่งเเก้ว หัวหน้าโครงการวิจัย ศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาผู้บริหารทางธุรกิจ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่า การออกร่างบริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันถูกกฎหมายถือเป็นก้าวสำคัญของภาคเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน เเต่บางประเด็นในกฎหมายฉบับนี้ยังล้าหลังโดยเฉพาะเรื่องโควต้าที่เเม้เเต่คนขับเเท็กซี่เเบบดั้งเดิมเองก็ไม่ได้ต้องการ แต่ต้องการให้ภาครัฐช่วยเรื่องการลดต้นทุนและแก้ไขกฎระเบียบที่เข้มงวดโดยไม่จำเป็น รวมทั้งเพิ่มรายได้ให้สอดคล้องกับค่าครองชีพในปัจจุบันแทน

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับร่างกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนแบบบริการทางเลือก สำหรับรับฟังความคิดเห็น: 1. รถที่สามารถนำมาจดทะเบียนได้มี 4 ประเภท คือ ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ และอเนกประสงค์2. ตัวรถต้องมีการติดตั้งและใช้อุปกรณ์เพื่อรับงานจ้างผ่านแอปพลิเคชันซึ่งมีระบบคิดอัตราค่าโดยสารล่วงหน้า มีระบบติดตา,ตรวจสอบเวลาและสถานที่รับส่งย้อนหลังได้อย่างน้อย 1 เดือน 3. ต้องแสดงเครื่องหมายการเป็นรถยนต์รับจ้างแบบทางเลือกไว้ที่ตัวรถ

อย่างไรก็ตามในร่างกฎหมายยังไม่ได้มีการกล่าวถึงแอปพลิเคชันที่จะนำมาใช้เพิ่มเติมว่าจะเป็นการพัฒนาขึ้นใหม่หรือเป็นการใช้แอปพลิเคชันที่มีอยู่ในปัจจุบันของบริษัทต่างๆ ซึ่งเป็นรายละเอียดที่ต้องติดตามประกาศและความคืบหน้าต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง