โพลล์ชี้92.3% ของกลุ่มตัวอย่างอยากให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันถูกกฎหมาย

กรุงเทพฯ  16 มิ.ย.-โพลล์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชี้ 92.3% ของกลุ่มตัวอย่างอยากให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันถูกกฎหมาย เนื่องจากช่วยอำนวยความสะดวก มีความโปร่งใสด้านราคา ลดปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสาร


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่กรมการขนส่งได้ออกร่างกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนแบบบริการทางเลือกและอยู่ระหว่างการพิจารณาผ่านข้อกฎหมายเพื่อให้เกิดทางเลือกในการให้บริการที่สอดคล้องวิถีชีวิตของประชาชนในปัจจุบันมากขึ้นและเพิ่มแนวทางการตรวจสอบ ควบคุม และติดตามความปลอดภัยของโดยสารให้กับภาครัฐ   ศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาผู้บริหารทางธุรกิจ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงทำการสำรวจความคิดเห็นของคนไทยที่มีต่อนโยบายการส่งเสริมและผลักดันให้การนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารผ่านแอปพลิเคชันได้อย่างถูกกฎหมาย

ทั้งนี้ การสำรวจความคิดเห็นในกลุ่มตัวอย่างที่เป็นประชาชนทั่วไป คนขับรถยนต์ส่วนบุคคลที่ให้บริการเรียกรถผ่านแอป และคนขับแท็กซี่ จำนวน 3,914 คน พบว่า  92.3% ของกลุ่มตัวอย่างอยากให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันถูกกฎหมาย เนื่องจากช่วยอำนวยความสะดวก มีความโปร่งใสด้านราคา ลดปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสาร สามารถช่วยเพิ่มรายได้เสริมให้คนไทยได้ และยังช่วยยกระดับมาตรฐานการเดินทางเพราะมีเทคโนโลยีติดตามการเดินทาง


83% ของประชาชนทั่วไปที่ตอบแบบสำรวจต้องการให้บริการเรียกรถผ่านแอปถูกกฎหมายภายในปี 64 สอดคล้องกับความคิดเห็นของกลุ่มคนขับรถยนต์ที่ให้บริการเรียกรถผ่านเเอป ขณะที่คนขับจำนวน 30% ไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะสามารถผลักดันกฎหมายนี้ได้สำเร็จ

64.3% ของกลุ่มตัวอย่างไม่เห็นด้วยกับการจำกัดจำนวนรถยนต์หรือคนขับ เนื่องจากมีความกังวลว่าการจำกัดจำนวนรถยนต์หรือผู้ให้บริการจะเป็นการปิดกั้นช่องทางการหารายได้เสริม และอาจนำไปสู่ปัญหาเรื่องการซื้อขายใบอนุญาตหรือระบบมาเฟีย ขณะที่ 11.2% ของกลุ่มที่อยากให้มีโควต้าต้องการให้สวงนสิทธิ์สำหรับคนขับแท็กซี่เดิมเท่านั้น

สำหรับเงื่อนไขเพิ่มเติมในข้อกฎหมายกลุ่มผู้ตอบแบบสำรวจที่เป็นประชาชนทั่วเห็นด้วยกับการแสดงราคาค่าโดยสารให้ทราบล่วงหน้า ให้มีการติดป้ายหรือสัญลักษณ์ที่ตัวรถเพื่อแสดงว่าเป็นรถให้บริการทางเลือก (ประชาชนทั่วไปเห็นด้วย 80% แต่ผู้ให้บริการผ่านแอป 65% ไม่เห็นด้วย) กำหนดเกณฑ์อายุรถยนต์ให้บริการแบบเดียวกับแท็กซี่ และจำกัดการจดทะเบียนรถยนต์ 1 คันต่อคนเท่านั้น


โดยผลสำรวจจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อทำการสำรวจความคิดเห็นเพิ่มเติมเฉพาะในกลุ่มคนขับรถแท็กซี่จำนวน 2,436 คน เกี่ยวกับบริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันถูกกฎหมายและความคาดหวังต่อภาครัฐในการช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน พบว่า

56.3% ของคนขับแท็กซี่ต้องการให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันถูกกฎหมาย โดย 43.7% ที่ไม่เห็นด้วยมีความกังวลเรื่องต้นทุนการประกอบอาชีพที่สูงกว่าคนขับรถยนต์ส่วนตัวและข้อกำหนดในการให้บริการที่มีความเข้มงวดมากกว่า

 39.3% ต้องการให้ภาครัฐช่วยลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น เช่น การติดตั้งอุปกรณ์ ค่าบริการรายเดือนในระบบของรัฐ และควบคุมราคาเชื้อเพลิง เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

33.5% อยากให้รัฐปรับราคามิเตอร์ให้สูงขึ้น ให้สอดคล้องกับต้นทุนและสภาพเศรษฐกิจ

20.3% อยากให้ปรับลดหรือผ่อนผันข้อกำหนดต่างๆ ของรถแท็กซี่ เช่น การขยายอายุรถ การอนุญาตให้ใช้รถต่ำกว่า 1600 ซีซี และมีเพียง 4% เท่านั้นที่อยากให้มีการกำหนดโควต้าสำหรับผู้ให้บริการเรียกรถผ่านแอป

นายสุทธิกร กิ่งเเก้ว หัวหน้าโครงการวิจัย ศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาผู้บริหารทางธุรกิจ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่า การออกร่างบริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันถูกกฎหมายถือเป็นก้าวสำคัญของภาคเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน เเต่บางประเด็นในกฎหมายฉบับนี้ยังล้าหลังโดยเฉพาะเรื่องโควต้าที่เเม้เเต่คนขับเเท็กซี่เเบบดั้งเดิมเองก็ไม่ได้ต้องการ แต่ต้องการให้ภาครัฐช่วยเรื่องการลดต้นทุนและแก้ไขกฎระเบียบที่เข้มงวดโดยไม่จำเป็น รวมทั้งเพิ่มรายได้ให้สอดคล้องกับค่าครองชีพในปัจจุบันแทน

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับร่างกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนแบบบริการทางเลือก สำหรับรับฟังความคิดเห็น: 1. รถที่สามารถนำมาจดทะเบียนได้มี 4 ประเภท คือ ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ และอเนกประสงค์2. ตัวรถต้องมีการติดตั้งและใช้อุปกรณ์เพื่อรับงานจ้างผ่านแอปพลิเคชันซึ่งมีระบบคิดอัตราค่าโดยสารล่วงหน้า มีระบบติดตา,ตรวจสอบเวลาและสถานที่รับส่งย้อนหลังได้อย่างน้อย 1 เดือน 3. ต้องแสดงเครื่องหมายการเป็นรถยนต์รับจ้างแบบทางเลือกไว้ที่ตัวรถ

อย่างไรก็ตามในร่างกฎหมายยังไม่ได้มีการกล่าวถึงแอปพลิเคชันที่จะนำมาใช้เพิ่มเติมว่าจะเป็นการพัฒนาขึ้นใหม่หรือเป็นการใช้แอปพลิเคชันที่มีอยู่ในปัจจุบันของบริษัทต่างๆ ซึ่งเป็นรายละเอียดที่ต้องติดตามประกาศและความคืบหน้าต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับ 6 ผู้ต้องหาปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ชน รปภ.ดับ

กทม. 2 มิ.ย. – ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาปล้นบุหรี่ไฟฟ้าในโกดังกรมศุลกากร ก่อนขับรถชน รปภ.ดับ ด้านพนักงานสอบสวนหิ้วนายเจ ทำหน้าที่รับของโจร ไปฝากขังศาล เจ้าตัวฝากถึงเพื่อนรัก “เจอที่ไหน ตายแน่” ความคืบหน้าล่าสุดที่ สน.ท่าเรือ มีรายงานว่าเมื่อวานนี้ (1 มิ.ย.) ตำรวจสามารถคุมตัวนายดิศรณ์ หรือ นายเจ อายุ 41 ปี ซึ่งมีหน้าที่รับฝากของจากกลุ่มผู้ก่อเหตุ 6 คนมาสอบปากคำ และแจ้งข้อหารับของโจร โดยจากการสอบปากคำนายเจ ทำให้สามารถขยายผลไปถึงผู้ก่อเหตุอีก 6 คนได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังไปยื่นขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 6 คน ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ร่มกันบุกรุก และมีข้อหาอื่นๆ อีกที่ต้องพิจารณา ซึ่งตำรวจเชื่อว่าตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 6 คน ยังอยู่ในกรุงเทพมหานคร ไม่ได้หลบหนีไปไหน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 6 อยู่ หากหมายจับออกก็จะสามารถจับกุมบางรายได้ทันที ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดนั้นสามารถได้ภาพแค่ตอนที่ชนผู้ตาย แต่ไม่สามารถจับภาพขณะปล้นได้ ส่วนกรณีที่จะมีเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้น มีรายงานว่าไม่มี […]

ปศุสัตว์สระแก้วร่วมสอบสวนโรค “แอนแทรกซ์” หลังพบผู้ป่วยยืนยันรายแรกของจังหวัด

สระแก้ว 2 มิ.ย.​ – สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้ว เตรียมลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เร่งสอบสวนโรคแอนแทรกซ์ หลังได้รับแจ้งพบผู้ป่วยรายแรกของจังหวัด​ เบื้องต้นยังไม่พบสัตว์ป่วยตายผิดปกติในพื้นที่ แต่วางมาตรการควบคุมเข้มงวดป้องกันและควบคุม​โรคในสัตว์ นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้วว่า วันนี้ (2 มิถุนายน 2568) ได้บูรณาการร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้วและสำนักงานปศุสัตว์เขต 2 ลงพื้นที่สอบสวนโรค หลังพบชายอายุ 53 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในอำเภอเมืองสระแก้ว เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ด้วยอาการตุ่มแผลตามร่างกาย และได้รับการวินิจฉัยยืนยันว่าติดเชื้อ Bacillus anthracis สาเหตุของโรคแอนแทรกซ์ จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ป่วยมีพฤติกรรมชอบบริโภคเนื้อดิบเป็นประจำ เช่น ลาบ ก้อย ซอยจุ๊ ซึ่งเป็นเนื้อที่ซื้อจากชาวบ้านในพื้นที่เพื่อแบ่งกันรับประทานร่วมกับเพื่อนบ้าน และมีพฤติกรรมดื่มสุราเป็นประจำ โดยไม่มีประวัติเลี้ยงสัตว์เคี้ยวเอื้อง ไม่มีประวัติสัมผัสสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ และไม่ได้เดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค แม้ในพื้นที่จะยังไม่พบรายงานสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ แต่เพื่อความไม่ประมาท สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้วได้วางมาตรการควบคุมเข้มงวด โดยร่วมสอบสวนโรคในพื้นที่เสี่ยง เก็บตัวอย่างสัตว์และสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเรื่องอันตรายของการบริโภคเนื้อดิบ ขณะเดียวกัน ได้ประสานด่านกักกันสัตว์จังหวัดสระแก้วเตรียมน้ำยาฆ่าเชื้อและรถพ่นน้ำยาทำลายเชื้อโรค […]

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

สระแก้วพบผู้ป่วยติดเชื้อแอนแทรกซ์รายแรก

สระแก้ว 2 มิ.ย.- สระแก้วพบผู้ป่วยแอนแทรกซ์รายแรก ซักประวัติชอบกินก้อย-ซอยจุ๊-เนื้อดิบ จนท.เตรียมลงพื้นที่สอบสวนโรคเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสเชื้อ นายแพทย์ธราพงษ์ กัปโก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์รายแรกของจังหวัด เป็นชาย อายุ 53 ปี อาชีพรับจ้างตัดไม้ อยู่ที่ตำบลท่าแยก อำเภอเมืองสระแก้ว เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ จังหวัดชลบุรี ด้วยอาการตุ่มแผลบริเวณศีรษะ ด้านหลังคอ แขน และขา การตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันพบเชื้อแอนแทรกซ์ จากการซักประวัติพบว่า ผู้ป่วยมีพฤติกรรมเสี่ยง คือ ดื่มสุราทุกวัน และชอบบริโภคก้อย ซอยจุ๊ เนื้อดิบเป็นประจำ ล่าสุดได้รับประทานเนื้อดิบเมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าผู้ป่วยติดเชื้อจากการบริโภคเนื้อสัตว์ป่วยที่ไม่ได้รับการปรุงสุก วันนี้ (2 มิถุนายน 2568) จะลงสอบสวนโรคเพื่อเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสเชื้อ เน้นย้ำให้ประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้วและพื้นที่ใกล้เคียง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการสัมผัสโค กระบือ แพะ แกะ ที่ป่วยหรือตายผิดปกติ ล้างมือและชำระล้างร่างกายหลังสัมผัสสัตว์ เลือกบริโภคเนื้อสัตว์ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัย บริโภคอาหารที่ปรุงสุก ร้อน และสะอาดเท่านั้น หากพบสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ […]