ส.อ.ท. เตือนรัฐทำแผนลดคาร์บอนฯ งงแผนโซลาร์”กองทัพบก-อีอีซี”


กรุงเทพฯ 22 ก.พ. – ส.อ.ท. เตือนภาครัฐทำแผนลดคาร์บอนฯ ก่อนกระทบส่งออกหดตัว ยุโรป-สหรัฐ ใช้เป็นแผนกีดกันทางการค้า งงแผนโซลาร์”กองทัพบก-อีอีซี” ด้านกองทัพบก ย้ำเดินหน้า เมกพโซลาร์ 3 หมื่นเมกะวัตต์ เงินลงทุน 6 แสนล้านบาทเสนอนายกฯ มี.ค.


นายสุวิทย์ ธรณินทร์พานิช ประธานกลุ่มพลังงานหมุนเวียน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขอให้ภาครัฐเร่งใส่ใจในเรื่องของโครงการลดภาวะโลกร้อน การใช้ส่งเสริมพลังงานทดแทน การลดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล อย่างเร่งด่วน เพราะขณะนี้ทังสหภาพ ยุโรป (อียู ) และสหรัฐ ได้ประกาศเบื้องต้นว่า ในปี 2573 (ค.ศ. ) 2030 จะประกาศใช้ มาตรการเรื่องการส่งเสริมการลดการปลอดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มาเป็น ข้อพิจารณาการนำเข้าสินค้า ซึ่งในขณะนี้ผู้ส่งออกได้ขอให้ ส.อ.ท.เรื่องหารือกับภาครัฐให้ ร่วมกันวางแผนรับมืออย่างจริงจัง ก่อนที่จะกระทบต่อการส่งออกของประเทศ โดยขณะนี้ ภาคประชาชนได้จัดทำแผนพัฒนาพลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือก (AEDP) เสนอต่อกระทรวงพลังงานในเดือนมีนาคมนี้


“มาตรการคาร์บอน นับเป็นมาตรการกีกันทางการค้า ที่ไม่ใช่ภาษี (NBT ) ดังนั้นหากไทยยังใช้ฟอสซิล โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงเป็นหลักก็ยังไม่สามารถลดคาร์บอนฯได้ ต้องใช้พลังงานทดแทน ซึ่งภาครัฐก็ต้องวางแผนให้พร้อมว่าจะลดอย่างไร ส่งเสริมพลังงานทดแทนอย่างไร เช่น โซลาร์ฟาร์มซึ่งขณะนี้ต้นทุนประมาณ 1บาท/หน่วยแต่ไม่เสถียร หากเสถียรต้องบวกกับแบตเตอรี่ (ESS)กลายเป็น 2.50-3.00 บาท/หน่วย ใกล้เคียงกับก๊าซฯที่ 2.50 บาท/หน่วย แต่แนวโน้มต้นทุน ESS อีก 5 ปีคาดจะลดลงครึ่งหนึ่ง”นายสุวิทย์กล่าว



นายสุวิทย์ ยังกล่าวถึงโครงการโซลาร์ฟาร์มที่กองทัพบกประกาศสนับสนุนให้เกิดขึ้น 3 หมื่นเมกะวัตต์ และ ในพื้นที่ โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)อีก 500 เมกะวัตต์ ในขณะนี้ภาคเอกชนตั้งข้อสังเกตว่า โครงการนี้ไม่มีอยู่จิง เพราะยังไม่ได้อยู่ในแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว (พีดีพี )ของประเทศแต่อย่างใด การดำเนินการควรอยู่กระดานเดียวกัน กระทรวงพลังงาน ควรหารือทั้ง 2 หน่วยงาน ว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยแผนพีดีพี ฉบับปัจจุบันคือ พีดีพี 2018 ฉบับทบทวนครั้งที่ 1 กำหนด ถึงสิ้นปี 2580 จะมีโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เข้าระบบประมาณ 12,000 เมกะวัตต์เท่านั้น ซึ่งแม้ว่าเอกขนต้องการเห็นพลังงานทดแทนเกิดขึ้นในประเทศ แต่ก็ต้องอยู่บนฐานเดียวกัน

พลโท รังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ในฐานะตัวแทนกองทัพบก เปิดเผยว่า โครงการเมกะโปรเจคโซลาร์ฟาร์ม 30,000 เมกะวัตต์ ทั่วประเทศ ในพื้นที่ดูแลกองทัพบกทั่วประเทศ 4.5 ล้านไร่ มาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ในด้านเกษตรกรรมและพลังงาน คาดใช้พื้นที่ติดตั้งโซลาร์ฟาร์ม 300,000 ไร่ จะใช้เงินลงทุนทั้งโครงการประมาณ 6 แสนล้านบาท และเบื้องต้นในส่วนโครงการนำร่องที่จังหวัดพาญจนบุรี ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU) กับทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาเบื้องต้น 3 พันไร่ 300 เมกะวัตต์ คาดใช้เงินลงทุนประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาท ซึ่งภาพรวมทั้งโครงการ ทางกองทัพบกจะสรุป เสนอไปยังนายกรัฐมนตรีได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ หากได้รับการอนุมัติเข้า ครม. ก็จะเดินหน้าโครงการทันที คาดว่าจะสามารถลงนาม สัญญาซื้อขายไฟฟ้า( PPA )ภายในปลายปีนี้ ส่วนรูปแบบการร่วมทุนนั้น เป็นหน้าที่ของ กฟผ. เปิดประมูลต่อไป

ล่าสุด มีผู้ประกอบธุรกิจด้านพลังงาน 50-60 บริษัท ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก รวมทั้งผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ติดต่อเข้าขอรับทราบรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมแสดงเจตจำนงเข้าร่วมลงทุน “เมกะโซลาร์ฟาร์ม” รวมถึงลงทุนในอุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์ครบวงจร ทั้งการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ อุตสาหกรรมที่เป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และการลดต้นทุน


” โครงการ”เมกกะโซลาร์ฟาร์ม” ขนาดติดตั้ง 30,000 เมกะวัตต์ คาดใช้พื้นที่ทั้งหมด 300,000 ไร่ จะใช้เงินลงทุนทั้งโครงการประมาณ 6 แสนล้านบาท มีบริษัทพลังงานสนใจเป็นจำนวนมาก และ ปตท. เสนอทำESSเพื่อป้อนโครงการ แต่เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ จึงอาจต้องร่วมมือกับบริษัทจีนต่อไป” พลโท รังษีกล่าว

ส่วนกรณีโครงการดังกล่าวยังไม่บรรจุในแผน PDP นั้น ขณะนี้กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างปรับปรุงฉบับใหม่ และหากโครงการนี้ได้รับอนุมัตจาก ครม.แล้ว ก็เอาไปใส่ในแผน และปรับพลังงานอื่นๆให้เหมาะสม เพราะเชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะสร้างประโยชน์ต่อประเทศ โดยต้นทุนอยู่ที่ราว 18ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ ค่าไฟเพียง 1.50 บาทต่อหน่วย (ยังไม่รวมESS) ซึ่งคาดว่า ประชาชนจะได้ประโยชน์ จ่ายค่าไฟฟ้าในอัตราที่ลดลง ประมาณยูนิตละ 2.50 บาท จากเดิม 3.50 บาท. ประเทศจะลดการขาดดุลในการซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการนำเข้าก๊าซและถ่านหิน ประมาณปีละ 700,000-800,000 ล้านบาท . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย