รัฐสภา 17 ก.ย.-“จุลพงศ์” ยัน MOA ระหว่างพรรคประชาชน-ภูมิใจไทย เป็นสัญญาประชาคมนำไปสู่การยุบสภา บอก “ทนายณัฐ” เพ้อเจ้อ ให้ “เพื่อไทย” ยื่นศาล รธน.ร้องเอาผิด “อนุทิน-ณัฐพงษ์” ปม MOA ถอดถอน สส. 212 คน พร้อมยุบ ปชน.-ภท. หวังมือกฎหมายเพื่อไทย ใช้ความคิดตรึกตรองรอบคอบ แนะไม่ควรนำประเด็นจริยธรรมมาทำลายกันเอง
นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แถลงกรณีนายณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน ยื่นหนังสือถึงพรรคเพื่อไทย เพื่อขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ กรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน รวมถึง สส.ทั้ง 2 พรรคจำนวน 212 คน รวมถึงใช้ช่องทางร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อนำคดีไปสู่ศาลรัฐธรรรมนูญ ขอให้พิจารณายุบพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย เกี่ยวกับข้อตกลงทางการเมืองระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย หรือ MOA ให้กับพรรคเพื่อไทยนั้น ว่า จากกรณีดังกล่าว ตนในฐานะที่เป็นสส.พรรคประชาชนคนหนึ่ง และรู้จักนายณัฐวุฒิ มา 10 กว่าปี มีความเห็นว่านายณัฐวุฒิ เพ้อเจ้อและสับสนในข้อกฎหมายในเรื่องความแตกต่างของการแสดงเจตจำนงระหว่างเอกชนที่เรียกว่านิติกรรมกับการทำสัญญาประชาคมทางการเมือง โดยในอดีตที่ผ่านมา พรรคการเมืองตั้งแต่ 2 พรรคขึ้นไปร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาล นั่นคือการทำสัญญาประชาคมต่อหน้าสาธารณะอย่างหนึ่งว่าพรรคที่มาร่วมจัดตั้งรัฐบาลตกลงจะร่วมมือจัดตั้งรัฐบาลเดียวกัน และสนับสนุนการทำงานซึ่งกันและกัน ไม่ได้มีพรรคใดครอบงำพรรคอื่น เพียงแต่สัญญาประชาคมในอดีตไม่เคยทำเป็นลายลักษณ์อักษร ประชาชนจึงไม่เคยรู้ว่านอกจากข้อตกลงว่าจะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันนั่น ยังมีข้อตกลงอะไรอื่นแอบแฝงอยู่หรือไม่
นายจุลพงศ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการทำ MOA ระหว่างพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย เป็นการให้สัญญาประชาคมของพรรคภูมิใจไทยผ่านหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยว่าใน 4 เดือนหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจะยุบสภาและจะปฏิบัติในข้ออื่นอีก 5 ข้อ อย่างไรก็ตาม การทำนิติกรรมสัญญาระหว่างเอกชน หากมีการผิดสัญญาก็อาจนำไปสู่การฟ้องร้องต่อศาลเพื่อบังคับให้คู่สัญญาปฏิบัติตามสัญญาได้ ต่างจากกรณี MOA หากมีการผิดข้อตกลงพรรคประชาชนก็ไม่สามารถไปฟ้องร้องต่อศาลให้หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะนายกรัฐมนตรีให้ยุบสภา เพราะอำนาจการยุบสภาต้องเป็นไปตามบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ พรรคประชาชนทำได้เพียงการใช้กลไกตามรัฐธรรมนูญคือการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ ยกมือสนับสนุนรัฐบาลเท่านั้น
“กรณีประเด็นทางกฎหมายของ MOA ที่คุณณัฐวุฒิ ยกมามาอ้างเพื่อถอดถอนสส.พรรคประชาชนและยุบพรรคประชาชนนั้น ผมเห็นว่าไม่มีสาระพอที่จะไปขยายความ และหากจะนำไปเป็นสาระ ก็เป็นเพียงข้อศึกษาวิเคราะห์ถกเถียงในห้องเรียนของนักศึกษากฎหมายมากกว่าที่จะนำไปวิเคราะห์ในรายการวิเคราะห์การเมือง เพราะประเด็นที่คุณณัฐวุฒิ ยกขึ้นมาเสนอต่อพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่มีประโยชน์อะไรต่อประชาชนเลย“ นายจุลพงศ์ กล่าว
นายจุลพงศ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีประวัติส่วนตัวของนายณัฐวุฒิที่นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์สื่อนั้น ตนไม่ขอพูดถึงเพราะรู้จักทั้ง 2 คนมานานแล้ว แต่เท่าที่ตนรู้จักนายศุภชัยมากว่า 30 ปี ตนไม่คิดว่านายศุภชัย จะพูดอะไรโดยไม่มีหลักฐาน และในเรื่องที่นายณัฐวุฒิ เสนอต่อพรรคเพื่อไทยกรณีการถอดถอน สส.พรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทย และยุบทั้ง 2 พรรคนั้น ตนยังไม่ได้ยินคำตอบจากพรรคเพื่อไทยในเรื่องนี้ แต่หวังว่าผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นมือกฎหมายในพรรคเพื่อไทยจะได้ตรึกตรองในข้อกฎหมายอย่างรอบคอบ นอกจากนี้ ตนเห็นว่าพรรคเพื่อไทยไม่ควรนำประเด็นด้านด้านจริยธรรมหรือการล้มล้างการปกครองมาทำลายล้างพรรคการเมืองด้วยกันเอง เพราะการทำเช่นนี้เหมือนไก่ในเล้าที่จิกกัดกันเอง เจ็บตัวทั้งคู่ ส่วนคนยื่นดูหัวเราะชอบใจ.-316.-สำนักข่าวไทย