คมนาคม สรุปทางบก เกิดอุบัติเหตุรวม 1,279 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 139 คน ผู้บาดเจ็บ 1,270 คน

กรุงเทพ 17 เม.ย. – กระทรวงคมนาคม สรุปตัวเลขภาพรวมการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 บนโครงข่ายของกระทรวงคมนาคม 6 วัน (11-16 เม.ย.) รับการเดินทางกลับเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง อำนวยความสะดวกประชาชนทุกโครงข่าย เน้นย้ำตรวจสอบความพร้อมรถโดยสารสาธารณะ


กระทรวงคมนาคม โดยศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยคมนาคม เปิดตัวเลขภาพรวมการเดินทางเทศกาลสงกรานต์ 2568 ระหว่างวันที่ 11 – 16 เมษายน 2568 ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมบูรณาการอำนวยความสะดวกและการให้บริการการเดินทางประชาชน พบว่าสามารถบริหารจัดการและอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาได้อย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

ตามที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีนโยบายให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนเกิดความอุ่นใจ เดินทางสู่จุดหมายปลายทางด้วยความสะดวกปลอดภัยนั้น ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยคมนาคม ได้สรุปสถิติอุบัติเหตุบนโครงข่ายของกระทรวงคมนาคม ซึ่งข้อมูลวันที่ 11 – 16 เมษายน 2568 (สะสม 6 วัน) ประมวลผลข้อมูล ณ วันที่ 16 เมษายน 2568 เวลา 07.30 น. พบว่า ทางบก เกิดอุบัติเหตุรวม 1,279 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 139 คน ผู้บาดเจ็บ 1,270 คน มูลเหตุสันนิษฐานสูงสุด คือ ขับรถเร็วเกินอัตรากำหนด 808 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 62 ยานพาหนะที่เกิดเหตุสูงสุด คือ รถปิคอัพบรรทุก 4 ล้อ 664 คัน คิดเป็นร้อยละ 32 บริเวณที่เกิดเหตุสูงสุด คือ ทางตรง ไม่มีความลาดชัน 835 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 65 จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ สระแก้ว 9 คน จังหวัดที่เกิดเหตุสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 74 ครั้ง เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2567 (วันที่ 11-16 เมษายน 2567) จำนวนอุบัติเหตุลดลง ร้อยละ 7 จำนวนผู้เสียชีวิตลดลง ร้อยละ 23 และจำนวนผู้บาดเจ็บลดลง ร้อยละ 17 ส่วนรถโดยสารสาธารณะ เกิดอุบัติเหตุ 4 ครั้ง ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ 2 คนไม่มีผู้โดยสารเสียชีวิต ทางอากาศไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุ ทางน้ำ เกิดอุบัติเหตุ 1 ครั้ง ไม่มีผู้เสียชีวิต และไม่มีผู้บาดเจ็บ และทางราง เกิดอุบัติเหตุ 3 ครั้ง ไม่มีผู้เสียชีวิต และไม่มีผู้บาดเจ็บ


สำหรับระบบขนส่งสาธารณะกระทรวงคมนาคมได้บริหารจัดการเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ ทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับไม่มีผู้โดยสารตกค้าง โดยมีประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศ มีจำนวนรวม 14,642,918 คน ลดลง ร้อยละ 1.72 (เปรียบเทียบกับวันที่ 11 – 16 เมษายน 2567) โดยระบบการขนส่งทางรางมีการใช้บริการสูงสุด คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 42.99 นอกจากนี้ รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ได้กลับมาเปิดให้บริการครบทั้ง 30 สถานี ตามปกติตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันที่ 16 เมษายน 2568 เป็นต้นไป เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชน

ด้านระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศที่มีผู้ใช้สูงสุดในแต่ละภูมิภาค ได้แก่ 1) ภาคกลาง : ทางอากาศ (ขาออก) 285,188 คน 2) ภาคใต้ : ทางถนน 176,172 คน 3) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ทางถนน 211,913 คน 4) ภาคเหนือ : ทางถนน 99,539 คน 5) ภาคตะวันออก : ทางถนน 105,013 คน ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ (ถนน ราง น้ำ อากาศ) มีจำนวนรวม 1,384,250 คน

การจราจรเข้า – ออก กรุงเทพฯ บนทางหลวงสายหลัก 11 เส้นทาง มีปริมาณ 5,863,608 คัน ลดลง ร้อยละ 0.02 (เปรียบเทียบกับวันที่ 11-16 เมษายน 2567) การเดินทางภายในกรุงเทพฯ บนทางด่วน (กทพ.) มีปริมาณ 7,632,119 คัน ลดลงร้อยละ 0.56


ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้มอบให้หน่วยงานในสังกัด ตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะ ณ จุดตรวจ จุดพักรถ และจุดจอด 222 แห่ง ตรวจรถ 88,326 คัน พบข้อบกพร่อง 22 คัน ตรวจผู้ปฏิบัติงาน จำนวน 88,326 คน พบอุณหภูมิเกิน (เป็นไข้) และความดันสูงเกินปกติ สั่งเปลี่ยน 2 คน ไม่พบสารเสพติด และแอลกอฮอล์ ด้านรถไฟ ได้ตรวจผู้ปฏิบัติงาน จำนวน 991 คน ไม่พบแอลกอฮอล์ หรือสารเสพติด ส่วนท่าเรือ/แพ จำนวน 159 แห่ง ตรวจเรือ 6,078 ลำ พบข้อบกพร่อง สั่งแก้ไข 8 ลำ และตรวจผู้ปฏิบัติงาน 8,591 คน ไม่พบแอลกอฮอล์หรือสารเสพติด

กระทรวงคมนาคมได้อำนวยความสะดวกการเดินทางกลับของประชาชนในช่วงเดินทางกลับหลังจากเทศกาลสงกรานต์ด้านต่าง ๆ อาทิ การเพิ่มจำนวนรถโดยสารสาธารณะ และการเพิ่มตู้โดยสารไปกับขบวนรถไฟ โดยได้เน้นย้ำหน่วยงานในสังกัดตรวจความพร้อมของการให้บริการในระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งตรวจสอบสภาพรถให้มีความพร้อมในการเดินทางและความพร้อมของผู้ขับขี่รถโดยสารอย่างเข้มงวด รวมทั้งต้องสามารถรองรับการเดินทางเข้าสู่กรุงเทพมหานครของประชาชนได้อย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง เพื่อให้ประชาชนมั่นใจถึงการอำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางทั้งทางถนน ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยประเทศไทยอากาศร้อน-ใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคกลาง ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา